โผล่อีก! แฉอดีตรองนายก อบจ.ใช้วุฒิการศึกษาปลอม 'ทนายเดชา' ลั่น ไม่ได้ร่วมฟอกขาวให้ 'ต้นอ้อ'

เมื่อเช้าที่ผ่านมา นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ รับเรื่องร้องเรียน กรณีอดีตรองนายก อบจ.มุกดาหาร คนหนึ่ง ใช้ใบวุฒิการศึกษาปริญญาตรีปลอมของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มาใช้สมัครเป็นรองนายก อบจ. ซึ่งเมื่อตรวจสอบไปที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว มีการออกเอกสารชี้แจง ยืนยันว่า ชื่อของ อดีตรองนายก อบจ. คนดังกล่าวไม่เคยเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัย แจ้งความเอาผิดตามกฎหมายแล้วเช่นกัน



นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชานันท์ รับเรื่องร้องเรียนจากนายพิชิต คำแก้ว ประธานภาคีเครือข่ายประชาชนตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน หรือ ภคง. พร้อมแถลงข่าวร่วมกัน โดยมีการเปิดเอกสาร รายละเอียด อ้างว่า เมื่อช่วงปี 2565 นายก อบจ. มุกดาหาร แต่งตั้ง นาง ก. เป็น รองนายก อบจ.



นายพิชิต บอกว่า คนจะดำรงตำแหน่ง รองนายก อบจ. จะต้องจบปริญญาตรีขึ้นไป ซึ่ง นาง ก. ยื่นเอกสารวุฒิการศึกษา ระบุว่า จบคณะศิลปศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยพิษณุโลก โดยเข้าเรียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2555 และ สำเร็จการศึกษา 30 มีนาคม 2558 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.40



จากนั้น นายพิชิต ตรวจสอบไปที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลก พบว่า ทางมหาวิทยาลัย ตอบเป็นเอกสารกลับมาถึงนายพิชิต ยืนยันว่า ไม่พบประวัติการสมัครเรียนและไม่พบข้อมูลมลการเรียนของ นาง ก. และเมื่อทราบเรื่อง ทางมหาวิทยาลัยพิษณุโลก จึงเร่งไปแจ้งความว่า มีการใช้วุฒิการศึกษาและหนังสือรับรองการจบของมหาวิทยาลัยปลอม ไปสมัครเป็นรองนายก อบจ. โดยแจ้งความไว้เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ที่สภ.เมืองพิษณุโลก



นายพิชิต ให้ข้อมูลเพิ่มเติม บอกว่า ปัจจุบัน นาง ก. ลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว หลังจากตัวเขาเดินสายร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ซึ่งตอนที่เป็น รองนายก อบจ. นาง ก. ได้รับเงินเดือน เดือนละ ประมาณ 40,000 บาท ต่อเนื่องราว 5-6 เดือน ทำให้เกิดความเสียหายในภาครัฐ ราวๆ 2 แสนบาท แต่จนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่า ใช้เงินคืนแล้วหรือยัง



ส่วนสาเหตุที่มาร้องเรียนเรื่องนี้ ในตอนนี้ ยอมรับว่าเพราะเรื่องนี้เป็นกระแสมาก จึงอยากให้ตรวจสอบคู่ไปกับประเด็นที่กำลังดัง โดยอยากให้ทนายเดชา ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดและต้องการดำเนินคดีกับ นายก อบจ.มุกดาหาร กรณีได้มีการแต่งตั้ง อดีตรองนายก อบจ.มุกดาหาร เพราะไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่มาดำรงตำแหน่ง และต้องการดำเนินคดีกับ อดีตรองนายก อบจ.มุกดาหาร ในเรื่องของการปลอมแปลงเอกสาร



ด้าน ทนายเดชา รับเรื่องและย้ำว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยพิษณุโลก เพราะ จากหลักฐานเห็นชัดว่าเป็นการปลอมเอกสาร ขึ้นมา ทางมหาวิทยาลัยมีการตรวจสอบแล้ว เช่นเดียวกับการย้ำว่าเรื่องนี้เป็นคนละกรณีกับ ต้นอ้อ ไม่อยากให้เอามารวมกัน



ทั้งนี้หลังแถลงข่าวร่วมกันเสร็จ ผู้สื่อข่าวถามทนายเดชา กรณีของ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง โดย ทนายเดชา บอกว่า ตอนนี้ คุณต้นอ้ออยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และ ตัดสินใจว่าจะออกมาพูดอะไรบ้าง ย้ำว่า ตัวเองให้คำแนะนำตลอด มีการโทรศัพท์คุยกัน แต่ยังไม่ได้เป็นทนายความให้ต้นอ้อ



ทนายเดชา ใช้คำว่า ตัวเองเป็นเหมือนพี่ชาย รักน้องเหมือนเดิม แต่ถ้าอะไรผิดก็ให้สารภาพต้องรับโทษรับกรรมไป ส่วนอะไรที่ไม่ได้ทำใช้สิทธิตามกฏหมายได้ และ ตัวเองไม่ใช่ผงซักฟอกที่จะทำดำเป็นขาวได้



ส่วนประเด็นที่เชื่อมโยงเรื่องการเมือง ที่ถูกโจมตีว่าแอบอ้าง ทนายเดชา บอกว่า ต้นอ้อ กำลังคิดอยู่ว่า จะเปิดเผยแค่ไหน อย่างไร เพราะ หากเปิดก็จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ส่วนตัวทนายเดชา อยากบอกว่า นักการเมืองไม่ใช่ควาย ต้นอ้อก็มีหลักฐานเอาคืนเหมือนกัน คนที่เที่ยวไปแจ้งความเขา อยู่ที่ว่าเขาจะแฉหรือไม่



ทนายเดชา ยังบอกอีกว่า บางคนเที่ยวโทรไปหาต้นอ้อ ให้โพสต์ขอโทษเขา จากนั้นก็ถูกแคปข้อความไปแจ้งความ ส่วนเรื่องบัตรสภา ที่ถูกระบุว่าเอาไปขาย ทนายเดชา ตั้งคำถามว่า ถ้าไม่อนุญาตจะทำได้หรือไม่ เช่นเดียวกับเรื่องเลขบัญชีธนาคาร ถ้าไม่อนุญาตจะเอาไปใช้ได้หรือ ก่อนจะทิ้งท้ายว่า ต้นอ้อก็เป็นแต่เบี้ยตัวหนึ่ง



ทั้งนี้ ทนายเดชา ยังพูดถึงเรื่องเพื่อนที่เอาแชตมาเปิด โดยบอกว่า เป็นอสรพิษ คบไม่ได้ ถ้าเป็นตัวผม ผมไม่คบ เรื่องนี้ ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่การแฉเพื่อชาติ แต่เป็นการแฉเพื่อตัวเอง เป็นการหาแสงให้ตัวเอง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/amx-KTkBU9s