สังคม

พม.สั่งพ่อแม่เด็ก 8 ขวบ ห้ามเอาลูกมาหากิน ควรคำนึงถึงสิทธิ-เสรีภาพของเด็ก ครอบครัวรับปากจะดูแลอย่างดี

โดย panisa_p

4 มิ.ย. 2567

41 views

ก่อนหน้านี้ช่วงเช้า ทนายธรรมราช นำพ่อแม่ พร้อมเด็ก 8 ขวบ กลุ่มเชื่อมจิต ไปที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือพม.ยื่นหนังสือร้องเอาผิดเจ้าหน้าที่พม.สุราษฎร์ธานี ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ซึ่งอธิบดีกรมกิจการเด็กฯเป็นผู้มารับเรื่อง พร้อมสั่งพ่อแม่ดำเนินการอะไร ควรคำนึงถึงสิทธิเด็ก



ทนายธรรมราช สาระปัญญา พร้อมด้วยพ่อแม่ และเด็ก 8 ขวบ รวมถึงแอดมินกลุ่มนิรมิตเทวาจุติ ไปถึง ที่กระทรวงพม. ตามที่ประกาศไว้ ซึ่งเป็นที่สังเกตุว่า เด็ก 8 ขวบ ลงจากรถตู้ เดินลงมาพร้อมกับพ่อแม่ โดยไม่ได้ปกปิดใบหน้าแต่อย่างใด และ มีสีหน้า ท่าทีปกติ



จากนั้นทั้งหมดเดินเข้าไปยังศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 เพื่อไปยื่นเรื่องร้องเรียน ตามที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้า ในเพจ นิรมิตเทวาจุติ ว่า มายื่นหนังสือร้องเรียนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่พม.สุราษฎร์ธานี บางท่านปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เมื่อครั้งเหตุการณ์เข้าพบที่บ้านพัก และสอบถามเด็ก 8 ขวบ ในคำถาม วิปัสสนาและกรรมฐาน ต่างกันอย่างไร ที่เพจนิรมิตรเทวาจุติ โดยขอให้ลงโทษทางวินัย



พร้อมยื่นชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็ก 8 ขวบ เพราะเชื่อว่าเด็ก และครอบครัวถูกใส่ร้าย จากสื่อและกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี ทำให้ได้รับความเสียหาย ทำให้อับอาย ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้นจึงอยากขอให้ พม. มีคำสั่ง คุ้มครองสวัสดิภาพให้กับเด็ก 8 ขวบ ซึ่งมีนางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน รับเรื่องแทนนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการ พม.



ส่วนบรรยากาศขณะที่เด็ก 8 ขวบมาถึง มีกลุ่มแฟนคลับบางส่วน ได้นำดอกไม้มามอบเป็นกำลังใจกับเด็ก 8 ขวบ พร้อมตะโกนให้กำลังใจ อย่างคุณครูรายนี้ เป็นหนึ่งแฟนคลับ ส่วนตัวเชื่อว่า คำว่า เชื่อมจิตเป็นคำศัพท์ใหม่ สำหรับผู้นั่งสมาธิ วิปัสสนาใช้ฝึกปฏิบัติ แทนคำที่ใช้ในพระไตรปิฎก



ต่อมาคุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ตัวแทนผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากลัทธิเชื่อมจิต ก็ได้เดินทางมาที่ พม.เช่นกัน กล่าวว่า มาแสดงเจตนารมย์ให้ พม.เร่งจัดการปัญหาให้รวดเร็วขึ้น ในการปกป้องคุ้มครองเด็ก ต้องแยกแม่กับเด็กออกจากกันให้เร็วที่สุด โดยจากเหตุการณ์ที่ สน. ทองหล่อ มีประชาชนจำนวนมากไม่สบายใจ ที่ปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังมานาน อีกทั้งยังพบว่า มีการตีความ พรบ.คุ้มครองเด็กผิดพลาดคลาดเคลื่อนหรือไม่ กรณีที่ทนายความบางคน แนะนำว่า ห้ามให้บุคคลและสื่อนำภาพเด็กไปเผยแพร่ แต่คนที่เผยแพร่เป็นคนแรกคือพ่อแม่เด็กเอง



ครั้งนี้ถือเป็นความเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่ง ที่เอาเด็กมาบังหน้า โดยใช้หลักคำสอนศาสนามาบิดเบือน พร้อมตั้งคำถามว่า พ่อแม่ไม่คิดว่า จะมีผลอย่างไรกับเด็ก เพราะการกระทำดังกล่าว จะอยู่ในดิจิตอลฟุตปริ้นท์ตลอดไป



หลังรับเรื่องและพูดคุยกับพ่อแม่เด็ก 8 ขวบ ประมาณ 1 ชั่วโมง นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ให้สัมภาษณ์ว่า ทางครอบครัวเด็กมายื่นหนังสือเรื่องเดียว คือ ขอให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ พม.จ.สุราษฎร์ธานี

ปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือไม่ สืบเนื่องจากเข้าไปพูดคุยกับเด็ก 8 ขวบที่บ้าน ซึ่งอธิบดีกรมกิจการเด็กฯ ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก แต่เมื่อมีเรื่องร้องเรียน ก็จะไปตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่า พร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจากการที่ได้พูดคุยกับเด็ก ก็ปกติดี บรรยากาศเป็นไปด้วยความผ่อนคลาย ซึ่งทาง พม.ได้ขอความร่วมมือ พ่อแม่เด็ก 8 ขวบ ว่า การดำเนินการใดๆ ควรคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของเด็กเป็นหลัก ซึ่งทางพ่อแม่รับปากว่า จะดูแลเด็กเป็นอย่างดี



ส่วนประเด็นที่ศาลได้กำหนดวันไต่สวนคุ้มครองเด็ก แบบปกติ ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ และ พม.สุราษฎร์ธานีได้ยื่นขอไต่สวนฉุกเฉิน เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น เรื่องนี้อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ กล่าวว่า ล่าสุดศาลได้ยืนยันคำเดิม ให้ไต่สวนวันเดิม (17 มิ.ย.) โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะต้องไต่สวนฉุกเฉิน ทำให้ พม.ต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับวันไต่สวนขอคุ้มครองในวันนั้น



ทั้งนี้ ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าว สัมภาษณ์อธิบดีกรมกิจการเด็กฯ หลังจากที่อธิบดีพูดคุยกับคุณอี้ แทนคุณ บริเวณประตูด้านข้างห้องประชุม ซึ่งอยู่ด้านในตัวอาคาร ในเวลาเดียวกันทางทนายธรรมราช พร้อมพ่อแม่เด็ก และเด็ก 8 ขวบได้อาศัยจังหวะนี้ รีบหลบผู้สื่อข่าว ออกไปประตูด้านหน้าอาคาร ซึ่งอยู่ใกล้กับรถตู้ที่จอดรถพอดี ออกไปโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Rd8Ci2OwcA0

คุณอาจสนใจ

Related News