สังคม
ครอบครัว 'เสี่ยต้น' ร่ำไห้แถลง เชื่อคนใกล้ชิดเป็นคนบงการแต่แรก แต่ยังไม่มีหลักฐาน
3 มิ.ย. 2567
131 views
ครอบครัวเสี่ยต้นแถลงเปิดใจ หลังตำรวจรวบมด ภรรยาเสี่ยต้นซึ่งเป็นผู้จ้างวานฆ่าและทีมสังหารได้ โดยครอบครัวเชื่อคนใกล้ชิดเป็นผู้บงการ และสงสัยมานานแล้วแต่พูดไม่ได้เพราะยังไม่มีหลักฐาน เชื่อทั้งหมดเป็นเวรกรรม
ขณะที่ครอบครัวของเสี่ยต้น เพื่อนสนิทของเสี่ยต้น และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้แถลงข่าวที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ เปิดใจหลังตำรวจได้มีการออกหมายจับมด ซึ่งเป็นภรรยาของเสี่ยต้น และทีมสังหาร
พระพ่อวสันต์ กลีบจินดา พ่อเสี่ยต้น เปิดเผยว่า เรื่องนี้ขอให้กรรมเป็นผู้ตัดสิน หนีกรรมกันไม่พ้น ส่วนความรู้สึกนั้น ตอนที่รู้ว่าลูกชายเสียชีวิต รู้สึกใจหาย เพราะตนเป็นคนไปส่งที่สนามบิน ก็ไม่รู้จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ก่อนหน้านั้นอาตมา บอกลูกชายให้เอาตำรวจไปที่มหาสารคามด้วยแต่ลูกชายไม่ฟัง จนเช้าอีกวันโยมแม่โทรมาบอกจึงทราบเรื่อง
ที่ผ่านมาอาตมาตนได้ลูกชายเป็นคนดูแลมาตลอด เขาเป็นคนดี ไม่อยากมีปัญหากับใคร ขนาดถูกฟันที่พัทยายังไม่เอาเรื่องคู่กรณี เรื่องที่เกิดขึ้นคงเป็นเวรกรรมขอให้จบลงที่ตรงนี้
ส่วนประเด็นการก่อเหตุอาตมาไม่ทราบ เพราะเวลาไปเยี่ยมลูกชายที่บ้านก็ไม่เคยเจอภรรยาของเขา แต่เท่าที่รู้ลูกชายเป็นคนรักภรรยา จึงไม่เคยเล่าอะไรที่บ้านให้ฟัง ตอนนี้คิดได้อย่างเดียวก็คือ คนที่เขารักเป็นคนทำ ซึ่งอาตมาก็คิดว่าเป็นคนใกล้ชิดที่เป็นตัวการ เพราะไม่มีสาเหตุอื่นที่เขามาเกี่ยวพันในคดีจ้างวานฆ่า
ทั้งนี้ตอนที่อาตมาจุดธูปไหว้ศพลูก ลูกสะใภ้มานั่งข้าง ๆ และบอกว่าถ้าไม่เอาศพไปเผา จะไม่ได้เงินประกันและถ้าได้เงินมาจะแบ่งให้ 2 ล้านบาท อาตมาก็บอกว่าไม่เอาเพราะบวชอยู่ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ให้ยกให้แม่แทน หรือไม่ก็สร้างกุฏิ 1 หลังถวายวัด เพื่อเป็นการทำบุญให้กับลูกชาย
นางปภาพินท์ กลีบจินดา แม่ของเสี่ยตนเปิดเผยว่า ถ้ามีโอกาสเจอหน้าลูกสะใภ้ อยากถามว่ามาทำลูกของแม่ทำไม เงินทองสมบัติทั้งหมดก็ได้ไปแล้วทำไมยังต้องมาเอาชีวิตเขาไปอีก มันทำให้พ่อและแม่อยู่กันอย่างยากลำบาก
หลักฐานทั้งหมดที่ตำรวจมีก็ตรงกับใจแม่ ที่ผ่านมาเสี่ยต้นไม่เคยเล่าปัญหาในครอบครัวให้ฟัง เพราะรู้ว่าแม่เป็นคนขี้น้อยใจ ส่วนเรื่องที่ลูกชายแยกกันอยู่กับภรรยามารู้ทีหลัง
ทั้งนี้ เชื่อว่าคดีจ้างวานฆ่าที่สน.วังทองหลางกับคดีที่มหาสารคาม น่าจะเชื่อมโยงกัน เพราะจะเอาชีวิตลูกชายที่กรุงเทพไม่สำเร็จ จึงไปก่อเหตุอีกครั้งที่นครสวรรค์ แต่ตนไม่ทราบชนวนเหตุว่ามาจากเรื่องทรัพย์สินหรือมือที่สาม
ก่อนหน้านี้ลูกสะใภ้ก็ไม่ได้มีฐานะ มาเริ่มมีฐานะหลังแต่งงานโดยพระพ่อเป็นคนช่วยเหลือเรื่องการเงิน โดยลูกสะใภ้จะนิสัยเรียบร้อย // ไม่ค่อยพูด // และไปไหนมาไหนกับลูกชายตลอด ซึ่งตนคงไม่มีอะไรฝากบอกถึงลูกชายเพราะเชื่อว่าลูกชายรับรู้ทุกอย่างแล้ว
นางสาวณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาวเสี่ยต้น เปิดเผยว่าเริ่มรู้ว่าพี่ชายไม่ปลอดภัย ตั้งแต่วันที่พี่ชายถูกลอบยิง และยิ่งสงสัยในตัวมด เพราะรู้ว่ามดโทรหาพี่ชายก่อนจะถูกยิง
จนวันที่ 15 เมษายน ตนไปส่งพี่ชายที่สนามบินดอนเมืองพร้อมกับครอบครัว เพราะพี่ชายจะไปหาพี่สะใภ้ที่มหาสารคาม แต่วันที่ 16 เมษายน พี่ชายก็เสียชีวิต ซึ่งยอมรับตนรู้สึกแค้นมาก แต่พูดอะไรไม่ได้
ส่วนปัญหาของพี่ชายกับพี่สะใภ้ ตนรู้มาว่าต่างฝ่ายต่างมีกิ๊ก ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจไปแล้ว // โดยกิ๊กของพี่ชายตนรู้ว่าเป็นเด็กคาราโอเกะ แต่ไม่ได้พาเข้ามาอยู่ที่บ้านหรือพบเจอกับคนในครอบครัว ส่วนกิ๊กของพี่สะใภ้ ตนได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปแล้ว ซึ่งตั้งแต่พี่ชายตาย ตนก็หาข้อมูลทางลับ จนทำให้ไม่สามารถไปร่วมงานศพพี่ชายได้
ขณะที่คุณหมวยเพื่อนสนิทเสี่ยต้น เชื่อว่าการยิงเสี่ยต้นไม่สามารถทำคนเดียวได้ และคนกระทำผิดไม่ได้มีแค่นี้ โดยจากนิสัยของมดเชื่อว่าไม่กล้าทำเรื่องนี้คนเดียว เชื่อว่าต้องมีคนคอยยุ ซึ่งต้องเป็นคนใกล้ชิดและมีอิทธิพลต่อความคิดของมด
ทั้งนี้ก่อนเสี่ยต้นตายได้บอกกับตนว่าหากเกิดอะไรขึ้นก็หมดห่วงเพราะทำประกันไว้ 16 ล้านบาท แต่เมื่อตนโทรศัพท์ถามมดเรื่องนี้ มดกลับตอบว่าไม่มี และเงินที่เหลือก็ใช้ไปหมดแล้ว ต่อมาตนได้รับข้อมูลจากบริษัทประกันว่าต้นทำประกันไว้ 16 ล้านบาทและยังมีอยู่ ทำให้ตนสงสัยว่ามดจะโกหกตนเรื่องนี้ทำไม
ก่อนหน้านี้เสี่ยต้นเคยบอกกับตนหลังถูกลอบยิงว่า สงสัยเป็นคนใกล้ชิดจ้างวานมายิง ซึ่งตนไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร ขอให้เป็นการสืบสวนของเจ้าหน้าที่
แท็กที่เกี่ยวข้อง ครอบครัวเสี่ยต้น ,เสี่ยต้น ,เมียเสี่ยต้น ,เชื่อคนใกล้ชิดบงการ