'พิชิต' ควง พศ. ฟันธง 'เชื่อมจิต' ไม่มีจริง ซ้ำขัดหลักพุทธศาสนา

รัฐมนตรีพิชิต ชื่นบาน ควงสำนักพุทธฯ ฟันธงแบบชัดๆ การเชื่อมจิต ไม่มีในพระไตรปิฎก และขัดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า



วันนี้ (17 พ.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ และ นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบกลั่นกรอง ข้อมูลข่าวสาร และ การกระทำอันอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา แถลงข่าวกรณีเด็กเชื่อมจิต



ก่อนเข้าประเด็น นายพิชิต บอกว่าการแถลงวันนี้ไม่ได้มีเจตนาใส่ร้ายบุคคลใด และขอให้เข้าใจอำนาจหน้าที่ของสำนักพุทธฯ ซึ่งจะต้องทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา กรณีที่มีการเผยแพร่หลักธรรมที่เข้าข่ายบิดเบือนหรือผิดเพี้ยน



ช่วงที่เป็นไฮไลท์ คือ นายบุญเชิด ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบกรณีนี้ ซึ่งจบเปรียญธรรม 9 ประโยค มาอธิบายแบบละเอียดยิบ โดยเฉพาะคำถามเรื่องการเชื่อมจิตมีอยู่จริงหรือไม่ ยืนยันว่า ทีมงานได้ตรวจสอบพระไตรปิฏก ฟันธงว่า "การเชื่อมจิต เมื่อเราศึกษาทุกรายละเอียดทุกตัวอักษร นอกจากไม่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกแล้ว ยังขัดต่อ หลักธรรมคุณ 6 ประการ ตามคำสอนพระพุทธเจ้า



ส่วนกรณีที่เด็กเชื่อมจิตกล่าวอ้างนั้น บอกว่า "สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน คือ พุทธศาสนา เป็นศาสนาแห่งความจริง ความรู้ เมื่อมีศรัทธา ต้องมีสติ และปัญญากำกับทุกครั้ง"



จากนั้น นายพิชิต ได้ถามย้ำกับ นายบุญเชิด ว่า เมื่อพระไตรปิฏกไม่ปรากฎ ดังนั้นเรื่องการเชื่อมจิต เป็นจริงหรือไม่ ซึ่งนายบุญเชิด ตอบชัดๆอีกครั้งว่า "ไม่จริงครับ"



ขณะที่ นายพิชิต บอกว่า เรื่องการละเมิดกฎหมายเป็นเรื่องหนึ่ง ซึ่งจะต้องพิจารณาว่า มีใครเสียหายหรือไม่อย่างไร ส่วนการทำหน้าที่ของสำนักพุทธฯวันนี้ เป็นการทำหน้าที่สร้างความกระจ่าง ไขข้อสงสัย ในฐานะองค์กรรักษาปกป้องพระพุทธศาสนา ได้ออกมายืนยันแล้ว และสิ่งที่แถลง "พนักงานสอบสวนสามารถนำไปเป็นพยานหลักฐานได้" ดังนั้น ต่อไปก็เป็นเรื่องหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายจะไปตรวจสอบตามกระบวนการ



นักข่าวถาม ส่วนที่ไม่สามารถยับยั้งการเผยแพร่คำสอนของเด็กเชื่อมจิตได้ เรื่องนี้นายพิชิต บอกว่า ​ "ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ​ เป็นคนทำงานคนหนึ่ง ผมพร้อมที่จะไปเรียนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด​ เพื่อระงับยับยั้ง โดยส่วนตัวผม ฟันธงเลย ว่า การเชื่อมจิตไม่มีอยู่จริง เมื่อสำนักพุทธฯ ออกตัวอย่างนี้แล้วในฐานะรัฐมนตรีแล้ว และป้องกันความเสียหายที่จะมาทำลายพระพุทธศาสนา"



ส่วนกรณีที่ครอบครัว เดินหน้าฟ้องหน่วยงาน จะมีแนวทางการป้องกันอย่างไร นายพิชิต​ บอกว่า ใครจะฟ้อง คงห้ามไม่ได้ แต่ต้องไปพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรม



รัฐมนตรีพิชิต กำชับสำนักพุทธฯ จากนี้กรณีมีใครอ้างอภินิหาร ใน 7 วันสำนักพุทธฯต้องมีคำตอบ เพราะหากปล่อยเวลาไปอาจทำให้เกิดความเสียหาย และความขัดแย้ง ก็บอกสโลแกน "สำนักพุทธฯทำงานจริงจัง​ คบได้จริงใจ"



ด้าน ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ยืนยันกรณีเด็กเชื่อมจิต ทางสำนักพุทธฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่ต้น และทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยกระดับความเข้มข้นมาตามลำดับ



ก็บอกว่าจากนี้ จะนำผล หลังการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวรายงานต่อมหาเถระสมาคม ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เพื่อให้มีมติว่าจะให้สำนักพุทธฯ ดำเนินการกับกรณีนี้อย่างไรต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/9Cv_AobkRt8