จับสาวสองลักเด็ก 9 เดือน อ้างอยากมีลูก ตร.ไม่เชื่อ เร่งขยายผลหวั่นค้ามนุษย์

ความคืบหน้ากรณี สาว LGBTQ+ ลักพากตัวทารกวัย 9 เดือนไปจากปู่และย่าที่ทำงานอยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้างย่านบางนา จนมีการแชร์ตามหากันในโลกโซเชียล และมีสาวพลเมืองดีเจอตอนโดยสารรถสาธารณะไปจังหวัดระยอง จนสามารถตามตัวน้องคืนมาได้ ตอนนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าเอาไปเลี้ยงเพราะรัก คาดอาจจะนำไปขายมากกว่า



เหตุการนี้ต้องย้อนกลับไปช่วงหัวค่ำวานนี้ (7พ.ค.) เมื่อ เพจสายไหมต้องรอดเผยแพร่คลิปจากวงจรปิดหน้าโรงเรียนวัดบางนานอก เวลา บ่าย 3 โมง 14 นาที จะเห็นว่าคนร้ายอุ้มทารกวัย 9 เดือนเดินผ่านไป คนร้ายสวมเสื้อคลุมสีเหลือง กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าหุ้มข้อสีดำ พร้อมโพสต์ข้อความว่า นาทีที่ชายคนหนึ่ง ลักษณะเป็นสาวประเภทสอง อุ้มเด็ก แล้วรีบเดินอย่างรวดเร็ว

พร้อมแคปชั่นว่า "#เด็กหาย ฝากเพื่อนๆช่วยตามหา น้อง อายุ 9 เดือน น้องเป็นเด็กกำพร้า แม่ทิ้งไปตั้งแต่เป็นทารก ปู่ทำงานก่อสร้างเป็นคนเลี้ยง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีกะเทยมาสมัครเป็นคนงานก่อสร้าง ทำงานได้ 1 อาทิตย์ เมื่อเย็นกะเทยมาขออุ้มน้องไปเซเว่น ก่อนจะลักพาตัวเดินหนีหายไปติดต่อไม่ได้อีกเลย แจ้งความไว้แล้วที่ สน.บางนา"



หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก รวมถึงเพจเฟซบุ๊กของสืบสวนนครบาลก็โพสต์ตามล่าหาตัวน้องเช่นกัน



จากนั้นตำรวจเผยแพร่ภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่ง ที่ขับผ่านแยกบางนาราว 4 โมงเย็น จะเห็นคนร้ายอุ้มทารกเดินผ่านไป



กระทั่ง 2 ทุ่มครึ่ง ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้ภาพวงจรปิดขณะที่ คนร้ายไปซื้อตั๋วรถมินิบัสไปที่จังหวัดระยองที่สถานีขนส่งหมอชิต



เบาะแสสำคัญที่ได้มาเป็นภาพขณะที่คนร้ายอุ้มน้องหลับอยู่บนเบาะรถมินิบัส ซึ่งหญิงสาวพลเมืองดีคนหนึ่งถ่ายไว้ได้ แล้วส่งเข้ามาในเพจ เอกภพ สายไหม ราว 5 ทุ่มกว่า พร้อมระบุข้อความว่า "เจอน้องบนรถตู้มาระยองค่ะ แจ้งเบาะแสทางไหนได้บ้างคะ"



เที่ยงคืนกว่าตำรวจ สภ.มายบตาพุด จังหวัดระยอง และตำรวจทางหลวงก็สกัดจับคนร้ายได้พร้อมทารกวัย 9 เดือนได้ ที่สถานีขนส่งจังหวัดระยอง ซึ่งน้องปลอดภัยดี ไม่มีร่องรอยการโดนทำร้ายหรือบาดเจ็บ ก่อนจะส่งตัวผู้ต้องหาและเด็กกลับมาที่ สน.บางนา



ตี 2 สิบนาที ตำรวจคุมตัวนายน้อย แสงวัน สาวประเภทสองที่ลักพาตัวเด็กชายวัย 9 เดือนไป ขึ้นรถมินิบัสไปจังหวัดระยอง มาถึง สน.บางนา เจ้าหน้าที่นำตัวเข้าห้องสืบสวน ระหว่างนั้นทีมข่าวพยายามสอบถาม เจ้าตัวอ้างว่ารักเอ็นดูเด็ก อยากเอาเด็กไปเป็นลูก พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ลักเด็กไปขาย เมื่อถามว่าทำไมถึงไประยอง เจ้าตัวพูดออกมาไม่เป็นภาษา จับใจความไม่ได้



20 นาทีต่อมา ตำรวจอีกชุดนำตัวเด็กมาถึง สน.บางนา ก่อนส่งมอบให้ปู่และย่า โดยปู่และย่ารีบโอบกอดและหอมแก้มหลานด้วยความดีใจ ขณะที่ปู่ของเด็กร้องไห้ก้มกราบเท้า พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอบคุณตำรวจที่ช่วยตามหาหลานกลับสู่อ้อมกอด ซึ่ง พลตำรวจตรี นพศิลป์ รีบนั่งรับไหว้แล้วบอกว่าไม่ต้องกราบ ก่อนจะพยุงตัวให้ลุกขึ้น



จากการสอบปากคำนาย น้อย รับสารภาพว่า ลักพาตัวเด็กไปจริง อ้างว่า จะไปทำงานที่จันทบุรี แต่รักเด็กคนนี้มากจึงอยากพาไปด้วย และตั้งใจจะเลี้ยงดูเป็นลูก โดยนั่งรถทัวร์ไปลงที่จังหวัดระยอง แล้วจะนั่งรถต่อไปจังหวัดจันทบุรีในตอนเช้า แต่ถูกตำรวจจับเสียก่อน แต่เมื่อตรวจสอบประวัติในทะเบียนราษฎร์ กลับไม่มีประวัติจึงไม่มั่นใจว่าเป็นคนไทยหรือไม่ จึงให้ร้องเพลงชาติไทย และเพลงสรรเสริญพระบารมี แต่กลับร้องเพลงชาติได้แค่ครึ่งเดียว



เมื่อช่วงสายวันนี้ทีมข่าวอาชญากรรมมีโอกาสได้คุยกับนายน้อย ที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง เขาบอกว่า ที่พาตัวเด็กไป เพราะรักเด็กและเอ็นดู เนื่องจากเธอเป็นสาวประเภทสอง ไม่สามารถมีลูกได้ เลยอยากมีลูก ซึ่งตั้งใจจะพาไปเลี้ยงที่จังหวัดจันทบุรี เพราะตนจะไปทำงานที่ไร่สับปะรด ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะพาเด็กไปขาย ซึ่งตอนนี้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไป และฝากขอโทษผู้ปกครองของน้องด้วย



ขณะที่ทีมข่าวอาชญากรรมลงพื้นที่มายังซอยวัดบางนานอก แคมป์คนงานก่อสร้างที่น้องโดนลักพาตัว พบว่าน้องกลับมาอยู่กับปู่ย่าแล้ว ปู่ของน้องเล่าว่า ก่อนหน้านี้หลานอยู่กับพ่อแม่ที่จังหวัดอุบลราชธานี แต่พ่อแม่หลานแยกทางกันตั้งแต่หลานอายุได้แค่ 2 เดือน ไม่มีคนเลี้ยง ด้วยความสงสารจึงพาหลานมาเลี้ยงที่นี่ ส่วนตอนเกิดเหตุราวบ่าย 3 วานนี้ (7พ.ค.) นายน้อย มาถามหาเด็กที่แคมป์คนงาน พอเจอน้อง ก็บอกว่าจะพาไปซื้อของเล่น แต่เดี๋ยวไปเอาเงินก่อน สักพักก็กลับมา แล้วถามว่าน้องร้องไหม ปู่ก็บอกว่า ไม่ร้อง พาไปได้ และยังเอาร่มให้ด้วย บอกให้กางร่มไป จน 5 โมงเย็นยังไม่กลับมาจึงมั่นใจแล้วว่า นาย น้อย ลักพาตัวหลานไปแน่นอน เลยรีบตามหา และแจ้งตำรวจ





ส่วนสาเหตุที่วางใจให้หลานไปกับนายน้อย เพราะตั้งแต่นายน้อยมาทำงานที่ไซต์ก่อสร้างใกล้ๆ กันได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็มักจะเล่นกับน้องอยู่บ่อยครั้ง จึงวางใจ และคิดว่าเอ็นดูเด็ก เหมือนกับชาวบ้านแถวนี้ ที่มักตะพาหลานไปซื้อขนม ซื้อของเล่น แล้วก็พามาส่ง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นบทเรียน หลังจากนี้จะระวังคนแปลกหน้ามากขึ้น และส่วนตัวเชื่อว่า นายน้อยน่าจะตั้งใจพาหลานไปขายมากกว่า



หลังสัมภาษณ์จบนักข่าวอาชญากรรมก็ขออุ้มน้อง น้องก็ให้อุ้ม โดยไม่มีท่าทีงอแง คล้ายกับว่าน้องค่อนข้างคุ้นเคยกับคนแปลกหน้า



ด้านพลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล 1 ในทีมที่เฝ้าติดตามตัวน้องมาตั้งแต่เมื่อคืน เปิดเผยว่า การติดตามตัวทารกวัย 9 เดือน นอจกากการลงพื้นที่แล้ว ก็ได้เบาะแสจากประชาชนที่โพสต์แจ้งเข้ามาทางโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่พื้นที่บางนา หมอชิต จนไปถึงระยอง ซึ่งเบาะแสสำคัญที่สุด คือ สาวพลเมืองดีที่โดยสารรถมินิบัสคันเดียวกับคนร้ายที่ถ่ายรูปส่งเบาะแสมา จนทำให้ตามตัวน้องได้โดยเร็ว



จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวานนี้ ผู้ก่อเหตุได้อุ้มน้องออกมาจากไซต์ก่อสร้าง โดยอ้างว่าออกมาร้านสะดวกซื้อ แต่กลับอุ้มน้องไปแยกบางนา และขึ้นรถโดยสารประจำทางตรงไปยังหมอชิตทันที เพื่อไปที่จังหวัดจันทบุรี เพราะเคยทำงานเก็บมังคุดที่นั่นมาก่อน และตั้งใจจะนำน้องไปเลี้ยงเป็นลูก เนื่องจากตัวเองเป็นสาวประเภทสองมีลูกไม่ได้ แต่รถที่ตรงไปยังจังหวัดจันทบุรีหมด จึงเปลี่ยนใจมาขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังจังหวัดระยองแทน เพื่อหวังไปต่อรถตรงไปยังจันทบุรีตอนเช้า แต่โดนจับได้ก่อน ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจ และการที่ผู้ก่อเหตุมุ่งหน้าไปไปทางจันทบุรี อาจจะพาน้องไปเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ที่อยู่บริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน



ผู้การจ๋อยังได้ฝากแจ้งเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังบุตรหลานของตนเอง อย่าไว้วางใจใครนอกจากคนในครอบครัวและอย่าปล่อยให้บุตรหลานอยู่ตามลำพัง โดยเฉพาะลูกเด็กเล็กแดงที่อายุยังน้อย พร้อมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ช่วยกันแจ้งเบาะแสให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่รัฐจนสามารถจับกุมคนร้ายได้

https://youtu.be/yEbaiiis88Y