อาชญากรรม
เจอข้อหาหนักค้ามนุษย์ แม่พาลูกสาววัย 12 ค้าประเวณีที่ญี่ปุ่น “ปวีณา” ช็อกทำงาน 30 ปี เพิ่งเคยเจอ
3 ชั่วโมงที่แล้ว
57 views
ปคม.ปิดคดีแม่พาลูกสาววัย 12 ปีไปค้าประเวณีร้านนวดประเทศญี่ปุ่น เจอข้อหาหนักค้ามนุษย์ เชื่อแม่เด็กมีเจตนารับรู้มาตลอดว่าพาลูกไปค้าบริการทางเพศ ด้าน “ปวีณา” ช็อก ทำงานมา 30 ปี เพิ่งเจอเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรก
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (24 ธ.ค.) พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ผบก.ปคม. และนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้แถลงข่าวการจับกุมแม่ของเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่พาลูกไปขายบริการทางเพศที่ร้านนวดในประเทศญี่ปุ่น จนกลายเป็นข่าวโด่งดังในช่วงที่ผ่านมา
โดยคดีดังกล่าวทางตำรวจได้ดำเนินการจับกุม น.ส.ลักษณา อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ในความผิดฐานเป็นธุระจัดหาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีและเป็นผู้สืบสันดานไปทำอนาจาร และข้อหาค้ามนุษย์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เส้นทางตำรวจ บก.ปคม.รับตัวผู้ต้องหาจากไต้หวัน เมื่อคืนที่ผ่านมา (23 ธันวาคม 2568) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สำหรับพฤติการณ์ในคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเด็กหญิงวัย 12 ปีได้ร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจญี่ปุ่นว่าถูกล่อลวงให้ไปทำงานนวดแฝงค่าบริการทางเพศที่ประเทศญี่ปุ่น จึงได้ดำเนินการประสานกับทางตำรวจไทยนำโดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการร่วมสืบสวนกับทางตำรวจญี่ปุ่น
โดยกล่าวสรุปเป็นไทม์ไลน์ได้ว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา แม่เด็กได้พาลูกสาวไปที่ประเทศญี่ปุ่น โดยอ้างกับญาติที่ประเทศไทยว่า พามาดูแลลูกคนเล็กวัย 8 เดือนที่เกิดกับแฟนใหม่ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ลูกสาวปิดเทอม ต่อมาแม่เด็กได้พาลูกสาวไปทำงานที่ร้านนวดในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยตกลงกับเจ้าของร้านให้เด็กหญิงรายนี้ทำงานนวดแฝงบริการทางเพศ รวมทั้งได้อ้างกับลูกสาวว่าเดี๋ยวจะมารับกลับ
ต่อมาวันที่ 11 กรกฎาคม แม่เด็กก็ได้เดินทางกลับมาประเทศไทย พร้อมด้วยลูกเล็กวัย 8 เดือน เพื่อพาลูกคนเล็กมาให้ยายดูแลที่ จ.เพชรบูรณ์ ประเทศไทย โดยอ้างกับยายว่า ไม่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินให้ลูกสาว จึงฝากลูกสาวไว้กับเพื่อนที่ญี่ปุ่น ถ้ามีเงินก็จะพากลับมา ก่อนวันที่ 9 กันยายน แม่เด็กจะเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน จากนั้นวันที่ 28 ตุลาคม แม่เด็กถูกจับกุมโดยตำรวจไต้หวัน ในข้อหาค้าประเวณีและลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก่อนจะประสานนำตัวกลับมาประเทศไทยเมื่อคืนที่ผ่านมา
จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า เด็กหญิงวัย 12 ปีได้นวดแฝงบริการทางเพศกับลูกค้าชาวต่างชาติมาโดยตลอด หากเป็นการนวดปกติจะคิดค่าบริการ 8,000 เยนต่อชั่วโมง แต่หากนวดแผนบริการทางเพศจะคิด 12,000 เยนต่อชั่วโมง ซึ่งเจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นจะนำเงินมาแลกเป็นเงินไทย และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของแม่เด็ก ถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ทรมานของลูกสาว ซึ่งที่ผ่านมา เด็กหญิงเชื่อว่าแม่จะมารับกลับจากร้านนวด และพยายามติดต่อแม่มาโดยตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนนำมาสู่การร้องขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจญี่ปุ่น
โดย พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม. กล่าวว่า แม้คำให้การของแม่เด็กจะอ้างว่าจะมารับลูกในภายหลัง แต่แม่เด็กนั้นทราบมาโดยตลอด ว่าร้านนวดดังกล่าวมีการแฝงบริการทางเพศ ก็ถือว่ามีเจตนากระทำความผิดแล้ว ซึ่งคดีแบบนี้ต่อให้พาเด็กไปอยู่แค่วันเดียว ก็ถือว่ามีความผิด ขณะเดียวกัน เจ้าของร้านนวดชาวญี่ปุ่น ก็ถูกทางตำรวจญี่ปุ่นจับกุมเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในข้อหาเรื่องสถานบริการ
สำหรับคดีดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งเราได้ประสานการสอบสวนร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว โดยจากการพูดคุยหารือกับทางตำรวจญี่ปุ่น ทราบว่าแม่เด็กมีความผิดตามกฎหมายสวัสดิภาพเด็กและเข้าเมืองผิดกฎหมายของญี่ปุ่น แต่เนื่องจากความผิดทั้ง 2 ข้อหานั้นมีอัตราโทษที่น้อยกว่าข้อหาค้ามนุษย์ในประเทศไทย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 8 - 20 ปี จึงตกลงว่าจะให้ส่งตัวแม่เด็กจากประเทศญี่ปุ่น มาดำเนินคดีที่ประเทศไทยในเรื่องค้ามนุษย์ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการเชิญพนักงานอัยการมาร่วมสอบปากคำ เพราะเป็นคดีนอกราชอาณาจักร
เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ซึ่งกล่าวว่า ในคดีเรื่องค้ามนุษย์นั้น มีพยานหลักฐานชัดเจนทั้ง ภาพถ่าย เส้นทางการเงิน ที่ปรากฏทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่น แชทข้อความการสนทนา รวมทั้งบันทึกการขอความช่วยเหลือจากเหยื่อชาวไทย ซึ่งภายหลังจากดำเนินคดีแม่เด็กในประเทศไทยแล้วเสร็จ ก็จะดำเนินการประสานออกหมายแดงหรือหมายจับของตำรวจสากล เพื่อให้ทางญี่ปุ่นมารับตัวแม่เด็กกลับไปดำเนินคดี ในข้อหาเกี่ยวกับสวัสดิภาพเด็กและเข้าเมืองผิดกฎหมายต่อไป เช่นเดียวกับเจ้าของร้านชาวญี่ปุ่น เมื่อถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วเสร็จ ทางการไทยก็จะประสานเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีข้อหาค้ามนุษย์ที่ประเทศไทยต่อไป
สำหรับการให้ปากคำเบื้องต้น พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า แม่เด็กให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับในข้อเท็จจริงว่า ได้พาลูกสาวไปที่ญี่ปุ่นจริง แต่ในเรื่องรายละเอียดนั้น ขอไม่ลงในประเด็นดังกล่าว เพราะเนื่องจากจะเป็นการซ้ำเติมเหยื่อที่เป็นเด็ก แต่ยืนยันว่าพฤติการณ์ของแม่เด็กนั้นผิดข้อหาค้ามนุษย์อย่างแน่นอน
ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า กรณีดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้กับตนเองและครอบครัวเด็กอย่างมาก ตนก็เพิ่งมาทราบข่าวหลังจากที่สำนักข่าวญี่ปุ่นมาสัมภาษณ์ตนและครอบครัวเด็ก ก่อนที่นำมาสู่การร้องเรียนมูลนิธิของตน และประสานความช่วยเหลือกับทางตำรวจในเวลาต่อมา ตลอดเวลาที่ตนทำงานเรื่องนี้มา 30 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เช่นเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่นก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน
นั่นจึงทำให้ตนรู้สึกห่วงใยและถือเป็นปัญหาสังคมที่ต้องร่วมช่วยกันแก้ไขกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ ตนประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการ ในการรับดูแลลูกสาวอีกคนหนึ่งอายุ 11 ปี และลูกชายคนเล็กวัย 8 เดือนของแม่เด็ก ให้ไปดูแลและได้รับการศึกษา เพราะที่ผ่านมาแม่เด็กต้องไปทำงานต่างประเทศ เนื่องจากมีภาระดูแลลูกและครอบครัว รวมทั้งที่บ้านมีฐานะยากจนอีกด้วย
ขณะเดียวกัน จะร่วมประสานงานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการนำตัวเด็กอายุ 12 ปีกลับมาประเทศไทยให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการภายหลังทางญี่ปุ่นได้สอบสวนตามกระบวนการกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว เพื่อรีบนำกลับมาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กโดยเร็วที่สุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง ค้ามนุษย์ ,แม่พาลูกค้าประเวณี ,ร้านนวดญี่ปุ่น