สั่งออกจากราชการ ตร.ปล่อยคลิปลับอดีตแฟนสาว ล่าสุดมีเหยื่อทยอยให้ข้อมูลแล้ว 5 ราย

ความคืบหน้ากรณีตำรวจคอมมานโดปล่อยคลิปลับอดีตแฟนสาวลงโซเชียล เพื่อบังคับให้มามีความสัมพันธ์ด้วย ล่าสุดต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เข้าร้องเรียนกระทรวงดีอีช่วยลบคลิป แถมฉะแม่บ้านตำรวจ ซ้ำเติมเหยื่อ



จากกรณีที่มีหญิงสาวหลายคนมาร้องเรียนมา น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ว่า ถูกอดีตแฟนเป็นนายตำรวจคอมมานโดนำคลิปลับมาข่มขู่ขอมีความสัมพันธ์ด้วย แม้จะเลิกกันไปแล้ว และบางคนโดนปล่อยคลิปลับในโวเชียลมีเดีย ที่ผ่านมามีผู้เสียหายหลายคนเคยเข้าแจ้งความ และร้องไปทางต้นสังกัดแล้ว แต่ฝ่ายชายยังไม่หยุดพฤติกรรม



ล่าสุดวันนี้ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ได้พาผู้เสียหาย 2 รายจากเคสนี้ ไปยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อขอให้ปิดกั้นเว็บไซต์และระงับบัญชีที่เผยแพร่คลิปหลุดของผู้เสียหาย พร้อมสืบหาตัวเจ้าของบัญชีเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยมีนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวง เป็นตัวแทนผู้รับหนังสือ พร้อมบอกว่า หลังจากยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็มีผู้เสียหายอีก 2 ราย ส่งเรื่องร้องเรียนมาว่า ตกเป็นเหยื่อของตำรวจรายนี้เช่นเดียวกัน



ผู้เสียหายรายใหม่เปิดใจกับนักข่าวว่า เมื่อปี 2564 ได้ศึกษาดูใจกับตำรวจรายนี้ แต่ไม่ได้คบหากัน เพราะมาทราบว่าตำรวจรายนี้มีแฟนอยู่แล้วจึงเลิกยุ่ง และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย



หลังจากนั้น 3 เดือน ปรากฏว่ามีคลิประหว่างเธอกับนายตำรวจคนนี้ว่อนในเว็บโป๊ต่าง ๆ ทั้งที่ตอนคบกันได้ให้ลบคลิปทิ้งทุกครั้งที่ถ่าย ไม่แน่ใจว่านายตำรวจคนนี้ไปกู้คลิปมาได้อย่างไร ที่ผ่านมาพยายามติดต่อกับนายตำรวจคนนี้เพื่อให้ลบคลิป แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะถูกบล็อกทุกช่องทาง



นอกจากนี้ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ยังบอกด้วยว่า มีผู้เสียหายติดต่อมาแล้ว 5 คน บางคนถูกนายตำรวจคนนี้ไล่ให้ไปทำแท้งด้วย แต่ที่น่าสลดใจคือ มีแม่บ้านตำรวจบางคนนำข่าวดังกล่าวมาจับกลุ่มพูดจาหยามเกียรติผู้เสียหาย ประมาณว่า คลิปที่หลุดลงในแพลตฟอร์มต่าง ๆ นั้น ผู้เสียหายเต็มใจให้ถ่ายและเป็นคนปล่อยเอง เพื่อหวังสร้างรายได้ และเชื่อว่าตำรวจผู้ก่อเหตุไม่ได้กระทำความผิด แต่เป็นการถูกใส่ร้าย



ด้านรองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเปิดเผยว่า แสดงความเสียใจกับผู้เสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางกระทรวงจะนำข้อมูลที่ได้รับไปสืบค้นหาว่าใครเป็นเจ้าของบัญชีและใครเป็นคนแชร์ เพราะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำเข้าข้อมูลลามกอนาจารสู่ระบบ มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี แม้กระทั่งคนแชร์ก็ได้รับโทษเช่นเดียวกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ufuRgTh5dvQ