บรรยากาศลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบสุดเงียบเหงา พบปัญหา ‘ลูกหนี้’ ไม่กล้าบอกชื่อ ‘เจ้าหนี้’

บรรยากาศลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ในพื้นที่ กทม. การเปิดให้ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ในสำนักงานเขตต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครวันแรก อาจจะยังค่อนข้างเงียบเหงา มีลูกหนี้นอกระบบทยอยมาให้เจ้าหน้าที่ช่วยทำการลงทะเบียนให้ ขณะที่ปัญหาในวันนี้ พบว่า ลูกหนี้หลายคนไม่กล้าบอกชื่อเจ้าหนี้ เพราะกลัว


ทีมข่าวไปสำรวจที่สำนักงานเขตห้วยขวาง ซึ่งเปิดให้มาลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบวันแรก ทางสำนักงานเขต มีการจัดโต๊ะ และเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา โดยผู้ที่จะลงทะเบียน จะต้องมีการดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน ThaiID จึงทำให้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่เข้ามาขอคำปรึกษา


ตลอดช่วงเช้า จนถึงบ่ายมีคนมาลงทะเบียนประมาณ 4 ราย โดยผู้ที่มา จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงโทรศัพท์สมาร์ตโฟน เพื่อโหลดแอปพลิเคชัน ThaiID สำหรับสแกนใบหน้า ซึ่งบางรายที่เป็นผู้สูงอายุ ก็ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ตโฟน จึงต้องกลับไปหยิบยืมโทรศัพท์สมาร์ตโฟนจากคนที่รู้จัก เพื่อเอามาใช้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiID แต่บางรายที่เอกสาร และข้อมูลพร้อม ก็มีเจ้าหน้าที่ช่วยกรอกเอกสารให้


อย่างคุณป้าเอ อายุ 49 ปี แม่ค้า ได้มาลงทะเบียนตั้งแต่เช้า หลังจากเป็นหนี้นอกระบบรวมทั้งสิ้น 40,000 กว่าบาท โดยมีเจ้าหนี้ทั้งหมด 7 เจ้า มีทั้งกู้มาจากคนที่รู้จัก และไม่รู้จัก อย่างเซลล์หมวกกันน็อค ตนไม่รู้จักกึใช้เด็กในซอยให้ไปกู้มา และใช้เพียงหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งมีทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ดอกร้อยละ 10 ร้อยละ 15 และร้อยละ 20 ทำให้คุณป้าเอ ต้องส่งทั้งต้น และดอกเฉลี่ยวันละ 1,000 บาท


ป้า เล่าต่อว่า ตนเป็นหนี้มาหลายปีแล้วไม่เคยไม่จ่าย ก่อนโควิดมีรายได้ และไม่เคยเป็นหนี้ แต่ช่วงหลังมาเปลี่ยนระเบียบใหม่คืนทางเท้าให้ประชาชน ตนจึงไม่มีที่ทำกิน จึงอาศัยขายของอยู่ในซอย ขายของได้น้อยลง ได้เพียงวันละ 300-500 บาทเท่านั้น


การมาลงทะเบียนครั้งนี้ ยอมรับว่า ไม่กล้าให้ข้อมูลของเจ้าหนี้กับเจ้าหน้าที่ เพราะกลัว และเกรงว่าเจ้าหนี้จะมาพูดทำนองว่า "ถ้าไม่อยากเป็นหนี้แล้วมายืมกูทำไม ซึ่งตนมองว่าบางครั้งมันก็ผิดที่เราไปยืมเขา แต่เพราะเราไม่มีทางเลือกเราไม่มีตังค์" อีกอย่างตนขอยืนยันว่า ถ้าเป็นการไกล่เกลี่ยแบบนี้ เจ้าหนี้ไม่มีทางมาแน่นอน


เช่นเดียวกับคุณป้าบี อายุ 49 ปี ที่มียอดเงินกู้นอกระบบ รวมประมาณ 400,000 กว่าบาทจากเจ้าหนี้นอกระบบสองเจ้า เจ้าหนึ่งเอาโฉนดที่นา จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ชิ้นสุดท้าย ไปค้ำประกัน โดยของคุณป้ามีทั้งกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 5 และดอกเบี้ยร้อยละ 20 ป้าต้องจ่ายเงินกู้รายเดือน


ป้าบอกว่าสาเหตุที่ไม่สามารถไปกู้ในระบบได้ ก็มีเซ็นเอกสารยุ่งยากแต่การกู้นอกระบบวันเดียวก็ทำได้แล้วตอนแรกคิดว่าจะไหวแต่พอโควิดมาก็ไม่ได้ทำงาน จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือ


ขณะที่ทีมข่าวได้ไปสำรวจที่สำนักงานเขตดินแดง ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากร และประชากรแฝงจำนวนมาก พบว่ามีลูกหนี้ทยอยมาลงทะเบียน 4- 5 ราย และช่วงบ่ายก็มีทยอยมาเรื่อยๆ

คุณลุง พ่อค้าขายเสื้อ อายุ 68 ปี บอกว่ามีเจ้าหนี้นอกระบบ ประมาณ 5 คน ยอดหนี้รวมหลักแสนบาท มีทั้งจ่ายรายวัน รายเดือน ซึ่งคุณลุงบอกว่า ต้องหาเงินไปจ่ายหนี้นอกระบบรายวัน เฉลี่ยวันละหลักพัน แต่เงินที่ขายของได้เพียงวันละ 200 บาท เลยทำให้ต้องไปหยิบยืมหลายเจ้า เพื่อเอาเงินนี้ไปจ่ายให้เจ้าหนี้อีกราย คล้ายๆ จับแพะชนแกะเอา

ลุง บอกว่า ไม่มีใครมีความสุขที่ต้องเป็นหนี้ ก็หวังว่า วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/tcrXZR1_XWE