สังคม
เปิดไทม์ไลน์ 15 ปี คดี 'วอเตอร์ฟรอนท์ฯ' สู่หมายจับ 'อิทธิพล คุณปลื้ม'
6 ก.ย. 2566
83 views
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 2 ออกหมายจับนายอิทธิพล คุณปลื้ม กับพวก หลังหนีไม่มารายงานตัวต่อศาล ในคดีออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารไม่ชอบ โดยคดีนี้เหลืออายุความอีก 4 วัน โดยล่าสุดมีรายงานว่านายอิทธิพล ได้บินออกนอกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา
จากกรณีศาลออกหมายจับนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของไทย ปี 2562 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังออกใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียมสุดหรู 53 ชั้น 312 ห้อง ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ บริเวณริมอ่าวพัทยา ใกล้ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อปี 2551 ซึ่งเคยเป็นข่าวโด่งดังอยู่ช่วงหนึ่ง จนต้องระงับการก่อสร้างชั่วคราว และมีคำสั่งให้รื้อถอน เป็นเหตุให้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด "อดีตนายกเมืองพัทยา" และพวกในขณะนั้น
โดยพนักงานอัยการสำนักงานปราบปรามคดีทุจริต ภาค 2 ได้ให้นายอิทธิพล มาพบเพื่อส่งฟ้อง เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงวันและเวลานัดหมาย นาย อิทธิพล ไม่มาตามนัด และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ขอศาลออกหมายจับ และศาลอนุมัติหมายมาในวันที่ 5 กันยายน ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า "มีพฤติการณ์ในการหลบหนี" คดีนี้มีอัตราโทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี ซึ่งคดีนี้มีอายุความ 15 ปี และกำลังจะหมดอายุความในวันที่ 10 กันยายนที่จะถึงนี้
ทีมข่าวอาชญากรรม ติดต่อไปยังตำรวจ ปปป. ยืนยันว่า วันนี้ (5ก.ย.)มีปฎิบัติการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุดจริง แต่มี 3 หมายจับ คือ นาย อิทธิพล คุณปลื้ม / นายพิเชษฐ อุทัยวัฒนานนท์ และ นายวิทยา ศิรินทร์วรชัย ซึ่งในขณะนั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคารเมืองพัทยา ทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหาเดียวกัน ฐานร่วมกันออกใบอนุญาตการก่อสร้างโดยไม่ถูกต้องกฎหมาย
ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่านายอิทธิพล ได้ออกจากประเทศไทยไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ตอน 10 โมง 16 นาที เดินทางด้วยสายการบิน คัมโบเดีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ KR 702 ปลายทางพนมเปญ กัมพูชา
ทีมข่าวสอบถามไปยัง นาย โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีคดีหมดอายุความตัวของผู้ต้องหาก็จะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เลยหรือไม่ นายโกศลวัฒน์ บอกว่า สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เว้นแต่ตัวผู้ต้องหาจะมีคดีอื่นถูกแจ้งและออกหมายจับอื่นด้วย
ส่วนที่สังคมมองว่าอัยการทำงานล่าช้าหรือไม่ เรื่องนี้รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า ทันทีที่ ป.ป.ช.ส่งสำนวนมาให้อัยการ อัยการได้เร่งดำเนินการโดยเร็วและให้มารายงานตัวในวันที่ 4 กันยายนทันที หรือหลังจากรับสำนวนคดีแค่ 4 วัน ยืนยันทางอัยการไม่ได้ล่าช้า
สำหรับคดีความของนายอิทธิพลซึ่งที่มีอายุความ 15 ปี ตั้งแต่ปี 2551 แต่กลับเพิ่งส่งสำนวนให้กับอัยการตรวจสอบใกล้กับอายุความที่จะหมดอายุ ทำให้เกิดความสงสัยในกระบวนการยุติธรรม แหล่งข่าวระดับสูงท่านหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นกับทีมข่าวอาชญากรรมว่า ต้องให้ต้นสังกัด (ป.ป.ช.) ไปตรวจสอบเองว่ามีขั้นตอนไหนที่ช้า ทำให้ส่งสำนวนกระชั้นชิด กว่าจะถึงมืออัยการก็เป็นช่วงท้ายของอายุความแล้ว และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกมีหลายคดีที่มีพฤติการณ์แบบนี้ ที่ส่งผลเอื้อให้ผู้ต้องหาพ้นคดีเพราะหมดอายุ
สำหรับคดีนี้ถูกยืดเยื้อมานานกว่า 15 ปี นับตั้งแต่เริ่มพบความผิดปกติของการก่อสร้าง ที่ผิดแบบ ตั้งแต่ฐานราก จนต้องระงับการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2551 เพื่อให้ปรับปรุง ก่อนจะมีคำสั่งให้รื้อถอนในปี 2560 สมัยของ คสช. และนำมาสู่การตรวจสอบของ ป.ป.ช. จนเป็นที่มาของหมายคนจับ คนตระกูลดังเมืองชลบุรี
คดีนี้เริ่มจากวันที่ 10 กันยายน 2551 นายอิทธิพล นายกเมืองพัทยาในขณะนั้น ออกใบอนุญาตให้บริษัท บาลี ฮาย จำกัด ก่อสร้างโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ เชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา (ไม่ถูกกฎหมาย)
ปลายปี 2556 เริ่มก่อสร้าง แต่เมืองพัทยามีคำสั่งระงับคำสั่งก่อสร้างชั่วคราว หลังพบความผิดปกติในการก่อสร้าง
18 สิงหาคม 2557 นายอิทธิพล แถลงยืนยัน อาคารนี้ขออนุญาตถูกต้อง และผ่านรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
ปลายปี 2559 ทางโครงการแก้ไขปรับปรุงอาคารตามคำสั่ง ลดระดับความสูงลงมา 8 ชั้น เพื่อลดเรื่องการบดบังทัศนียภาพ แต่เมืองพัทยายังไม่ต่อใบอนุญาต และฟ้อง 2 ข้อหา คือ ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น และบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณเชิงเขา
ปี 2560 รองนายกเมืองพัทยาที่มาจากการแต่ง้งของ คสช. ประกาศให้รื้อถอนอาคาร
ปี 2561 บริษัทบาลี ฮาย จำกัด ร้องศาลล้มละลายกลางขอฟื้นฟูกิจการ หลังแบกภาระ 2.39 พันล้านบาท แต่ศาลไม่รับคำร้อง
ปี 2563 นายอิทธิพล ประกาศชวนภาคเอกชนเสนอราคา รื้อถอนอาคาร
24 กรกฎาคม 2566 ป.ป.ช. ชี้มูลนายอิทธิพลมีความผิดตาม ม.157 ฐานออกใบอนุญาตไม่ถูกกฎหมาย
4 กันยายน 2566 อัยการนัดฟ้องส่งตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 2 แต่ไม่มาตามนัด
5 กันยายน 2566 ศาลเห็นชอบออกหมายจับนายอิทธิพล พร้อมพวกอีก 2 คน
10 กันยายน 2566 คดีหมดอายุความ
