สอท.ทลายแก๊งสวมทะเบียนรถ ลอบแก้ข้อมูล ขายเล่มละ 1-2 ล้าน ความเสียหายกว่า 77 ล้านบาท

สอท.ร่วมกับกรมการขนส่ง เปิดปฏิบัติการ "พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม" ยึดรถยนต์และซากรถยนต์ที่ถูกนำไปสวมทะเบียนแล้วนำไปขายต่อ ราคาตั้งแต่ 1-2 ล้านบาท พบประวัติทำมาแล้ว 65 คัน ความเสียหายกว่า 77 ล้านบาท



รถยนต์ที่ถูกสวมทะเบียนจำนวน 16 คัน เป็นของกลางที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ยึดมาการขยายผลจับ นายเสถียร และ นาย ศริสร 2 ผู้ต้องหา ที่ร่วมกันลักลอบเข้าไปแก้ไขข้อมูลทะเบียนรถยนต์ ในระบบของกรมการขนส่งทางบก



จากการสอบสวนพบว่า ทั้งคู่มีอาชีพเป็นนายหน้าซื้อขายเล่มทะเบียนรถมานานกว่า 20 ปี และต้องเข้ามาติดต่อที่กรมการขนส่งทางบกเป็นประจำ ทำให้สนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นใช้กล้องมือถือถ่ายคลิปขณะเจ้าหน้าที่เข้ารหัสส่วนตัว เพื่อเข้าสู่ระบบของกรมการขนส่งฯ ซึ่งข้อมูลทะเบียนรถยนต์ที่ทั้งคู่ลักลอบแก้ไข เป็นรถยนต์ที่ไม่อนุญาตให้จดประกอบในไทยตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งแก้ไขข้อมูลมากถึง 65 เล่ม และได้ซื้อขายรถเหล่านี้ไปแล้ว 16 คัน โดยเริ่มแอบเข้ามาแก้ไขข้อมูลตั้งแต่กลางปี 2565



พันตำรวจเอก สุวัฒชัย ศรีทองสุข ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวฯ สอท. เปิดเผยว่า คนร้ายมีรหัสของเจ้าหน้าที่ถึง 7 คน แต่โชคดีที่เจ้าของรหัสพบความผิดปกติก่อน จึงตรวจสอบเจอ ซึ่งวิธีการแก้ไขดัดแปลงรถยนต์ หรือเล่มทะเบียนทำได้ 3 วิธีหลัก ๆ คือ



1. จะแก้ไขข้อมูลรถยนต์ที่ไม่มีมูลค่า เปลี่ยนเป็นรถยนต์ที่มีมูลค่าสูง ก่อนที่จะนำเล่มทะเบียนไปขาย สนนราคาเล่มละประมาณ 1 ล้านบาท



2. ขายเล่มทะเบียนตรงตามรถยนต์ที่มีอยู่ และเปลี่ยนเลขตัวถังรถให้ตรงกับเลขเดิมขิงรถยนต์ในเล่ม ซึ่งวิธีนี้จะขายเล่มทะเบียนรถยนต์ 1 ล้านบาท และขายรถยนต์ที่แก้ไขเลขตัวถังให้อีกในราคา 1 ล้านบาท รวมเป็น 2 ล้านบาท



3. เป็นกลุ่มที่มีรถยนต์ และเล่มทะเบียนของตัวเอง แต่จดทะเบียนไม่ได้ ต้องให้ขบวนการนี้ลักลอบเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลรถยนต์ ในระบบของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะมีราคาการดำเนินการอยู่ที่ 1.4 - 2 ล้านบาท



เบื้องต้นผู้ต้องหา 2 คน จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานแก้ไขข้อมูลและ นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเข้าถึงรหัสโดยมิชอบ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และหลังจากนี้จะขยายผลถึงกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะผู้ครอบครองรถยนต์ต้องสงสัย ก็จะออกหมายเรียกให้นำรถยนต์เข้ามาตรวจสอบด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/yNX6B4z7RuQ