"ปวีณา" ผวาเบอร์แปลกโทรหา ร้อง ผบช.สอท. ตรวจสอบ หวั่นนำเสียงไปใช้ AI หลอกโอนเงิน

เมื่อเวลา 13.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางเข้าพบ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อนำหลักฐาน ขอให้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ 2 หมายเลข ที่ได้โทรศัพท์มาหานางปวีณา ว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ เพราะกลัวว่าจะมีการนำเสียงที่ได้พูดคุยสนทนากัน ไปใช้ AI เลียนแบบ แล้วนำไปหลอกลวงผู้อื่นขอรับบริจาค

นางปวีณา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ โทรเข้ามาหาตน 2 เบอร์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งเบอร์แรกโทรเข้ามาช่วง 10.47 น. แต่ตนไม่ได้รับสาย

หลังจากนั้น ก็มีอีกเบอร์โทรเข้ามาเวลา 11.15 น. ครั้งนี้ตนรับสาย พบว่าคนที่โทรเข้ามาเป็นผู้หญิงบอกว่า “สวัสดีค่ะ ดิฉันโทรมาจากสถานีตำรวจภูธร… (ฟังไม่ถนัด) ใช่คุณปวีณาหรือไม่” โดยถามซ้ำหลายครั้ง ตนเลยถามกลับไปว่า ใครต้องการพูดด้วย ต้องการอะไร หลังจากนั้นปลายสายก็วางไป จึงเชื่อว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่โทรมาเพื่อนำเสียงตนไปใช้ AI ทำเลียนแบบ แล้วนำไปโทรหลอกเหยื่อรายอื่น

โดยที่ผ่านมา มูลนิธิปวีณาฯ เคยได้รับเรื่อง 2 เคส ว่าถูกแอบอ้างให้โอนเงินเข้ามูลนิธิฯ เคสแรกเป็นคุณแม่ที่อยู่จังหวัดตรัง บอกว่า ได้โอนเงินให้กับมูลนิธิฯ เป็นค่าดำเนินการช่วยเหลือลูกชายที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อตรวจสอบสลิปการโอนเงินและใบเสร็จรับเงินก็พบว่าเป็นของปลอม

ส่วนอีกเคส เป็นหนุ่มช่างทำสีรถยนต์ที่ต้องการหาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยหนัก แล้วไปเจอแอปพลิเคชันเงินกู้ออนไลน์ เมื่อติดต่อไปก็ให้แอดไลน์ ซึ่งใช้รูปโปรไฟล์เป็นรูปของตนเอง และหลอกผู้เสียหายให้โอนเงินค่าดำเนินการกู้เงินไปกว่า 3 หมื่นบาท

นางปวีณา ยืนยันว่า มูลนิธิปวีณาฯ ไม่มีนโยบายโทรศัพท์ไปขอรับบริจาคเงินกับบุคคลหรือหน่วยงานใดทั้งสิ้น โดยมูลนิธิฯ มีช่องทางในการบริจาคเงินผ่านบัญชีที่ชื่อว่า “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” จำนวน 4 ธนาคารเท่านั้น และไม่รับเงินบริจาคเป็นเงินสดด้วย ดังนั้น หากมีใครโทรศัพท์ไป แล้วเป็นเสียง ปวีณา ขอรับเงินบริจาค หรือตะช่วยเหลือแล้วขอค่าดำเนินการ ห้ามให้เด็ดขาด

นอกจากนี้ นางปวีณา ยังได้นำหนังสือเอกสารของผู้เสียหาย 7 ราย ที่ขอความช่วยเหลือผ่านมูลนิธิฯ เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์เข้ามา โดยมีเคสที่ถูกหลอกให้ถ่ายภาพโป๊ไปแบล็กเมล 5 ราย และถูกหลอกโอนเงินอีก 2 ราย มามอบให้ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทำการตรวจสอบด้วย

ด้าน พลตำรวจโทไตรรงค์ เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนระมัดระวัง หากมีบุคคลใดโทรศัพท์มาแอบอ้างเป็นบุคคลที่รู้จัก หรือเป็นเสียงที่คุ้นเคย ขออย่าหลงเชื่อ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีสามารถปลอมเสียงเป็นบุคคลที่เรารู้จักได้เป็นอย่างดี