สังคม

'ชัชชาติ' ยันพร้อมประเมินผลดี-เสีย หลังกทม.ปลดล็อกชุด-ทรงผมนร.

โดย panwilai_c

28 มิ.ย. 2566

86 views

กทม.ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผอ.สำนักงานเขต 2 ฉบับ ให้โรงเรียน 437 แห่ง ปลดล็อก นักเรียนมาโรงเรียนไม่ต้องใส่ ’ชุดนักเรียน’ 1 วันต่อสัปดาห์ และให้นักเรียนไว้ทรงผมได้อย่างอิสระ ไม่กระทบสิทธินักเรียน



ในเนื้อหา หนังสือ ฉบับแรก ระบุว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 และ พ.ศ 2566 ประกาศ เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา



เพื่อเป็นการเคารพสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักเรียน จึงให้โรงเรียนจัดทำข้อกำหนดฯ ให้นักเรียนไว้ทรงผมได้อย่างอิสระบนพื้นฐานสุขอนามัยที่ดี สะอาด ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจ จากนั้น ให้นำไปประชาสัมพนธ์ให้ทราบเป็นการทั่วไป ก่อนนำไปประกาศใช้ โดยในกรณีมีนักเรียน ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ ให้โรงเรียนรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อทำความเช้าใจและตกลงร่วมกัน แต่ห้ามไม่ให้ดำเนินการในลักษณะที่จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพทางร่างกายและจิตใจของนักเรียน เช่น การตัดผม ทำให้อับอาย ฯ



ส่วนหนังสืออีกฉบับ เป็นแนวทางการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนสังกัดกทม. ระบุว่า ตามที่ระเบียบกระทรวงศึกษา ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ข้อ 15 กำหนดว่า สถานศึกษาใดจะกำหนดให้นักเรียนแต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี นักศึกษาวิชาทหาร หรือแต่งชุดพื้นเมือง ชุดไทย ชุดลำลอง ชุดฝึกงาน ชุดกีฬา ชุดนาฏศิลป์ หรือชุดอื่นๆ แทนเครื่องแบบนักเรียนตามระเบียบนี้ในวันใด ให้เป็นไปตามที่สถานศึกษากำหนด โดยคำนึงความประหยัดและเหมาะสม เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง



จึงให้โรงเรียนในสังกัดกทม. จัดทำข้อกำหนดให้นักเรียนแต่งกายด้วยชุดใดก็ได้ที่ไม่เป็นการบังคับอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ โดยให้นักเรียนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกำหนด



จากนั้นให้นำไปประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกัน ก่อนไปประกาศใช้ โดยในกรณีที่มีนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ ให้เป็นไปตามความประสงค์ของนักเรียนผู้นั้น (ที่จะสวมชุดนักเรียน ชุดพละ หรือชุดอื่นใดที่โรงเรียนกำหนดให้มีไว้อยู่แล้ว) แต่ห้ามไม่ให้ดำเนินการในลักษณะที่จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งให้คำนึงถึงอัตลักษณ์ความหลากหลาย ความเชื่อทางศาสนา และเพศวิถีของนักเรียน



โดยทั้ง 2 ฉบับ ลงนามโดย นางวัทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร รักษาการแทนปลัดกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2566 ทั้งนี้ในเอกสารยังระบว่า เห็นควรมอบให้ฝ่ายการศึกษาต่อไป



ด้านผู้ว่าฯกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า ประกาศนี้สุดท้ายก็จะมีการประเมินผลดีผลเสีย ไม่ต้องกลัว ให้กล้าทำในสิ่งต่างจากเดิม ทำอะไรใหม่ๆ ให้เด็กได้มีการคิด ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วม แต่ต้องมีกรอบ มีกติกา มีการประเมิน สุดท้ายถ้าไม่ดีก็ต้องปรับเปลี่ยน กทม.ยินดีรับคำติชมทุกอย่าง



ส่วนนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ประกาศนี้จะใช้บังคับทุกโรงเรียนของกทม. สิ่งสำคัญคือ ให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจ ในส่วนของทรงผม หัวใจหลักคือ การไม่ริดรอนสิทธิเด็ก ทั้งนี้ เรื่องนี้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย อาจมีแรงต้าน วันนี้เราเอาเรื่องนี้มาคุยบนโต๊ะ เรื่องความเหมาะสม คือ ความเข้าใจที่ตรงกัน


https://youtu.be/938VRIeJk6o

คุณอาจสนใจ

Related News