สังคม

ฉาว! สาวญี่ปุ่นโพสต์ถูกขืนใจในร้านนวดย่านข้าวสาร แจ้งความไม่คืบ ตร.แจงลงพื้นที่สอบแล้ว

โดย panwilai_c

13 มิ.ย. 2566

625 views

มีการแชร์ข้อมูลจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น หลังเธอโพสต์ระบุว่าโดนพนักงานร้านนวดชายย่านถนนข้าวสาร พยายามขืนใจ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เบื้องต้นทีมข่าวตรวจสอบลงพื้นที่ ไปยังเจ้าของร้านนวดและตำรวจเจ้าของพื้นที่



มีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @Reiriesz ผู้แปลข้อความจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาไทยจากทวิตเตอร์ของนักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง เพื่อกระจายข่าวให้ผู้เสียหาย



โดยระบุว่า "คุณคนนี้ไปนวดที่ร้านนวดแถวถนนข้าวสาร คือไปกับแฟนแหละ แต่โดนแยกกัน แล้วกลายเป็นว่าจะโดนคนนวดผู้ชายข่มขืน คุณเค้าเลยร้องตะโกนโวยวายขึ้นมา จะแจ้งตำรวจ ทางร้านนอกจากไม่ช่วยไม่พอ จู่ๆก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ขึ้นมาซะงั้น แถมแจ้งตำรวจโทรไปกี่ที ก็บอกว่าอีก10นาที ถึงแต่ผ่านไป2ชั่วโมงก็ไม่มา



แจ้งตำรวจท่องเที่ยว ทางนั้นก็บอกว่า"เป็นเรื่องที่เกิดบ่อยๆนะ(ขำ) และใช่ค่ะ ไม่ช่วยเหี้ยอะไรเลย จนเค้าต้องลากคนร้ายไปโรงพักเอง พอไปถึงโรงพัก ตำรวจก็พาคนร้ายไปคุยด้านหลัง แล้วหลังจากที่ออกมาท่าทีก็เปลี่ยนไป คนร้ายเริ่มตะโกนโวยวายว่า "เพราะมึงนั่นแหละไม่ดี!"



อิเจ๊ที่เป็นผู้จัดการร้าน ก็ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บอกว่างั้นเกิดอะไรขึ้นก็สาธิตหน่อยสิ ไม่พอตำรวจที่ยืนข้างคนร้าย ก็ทำจะลูบเป้าเค้าอีก หลังจากที่ถูกทำให้อับอาย สรุปแล้วคือ ถึงจะมีภาพกล้อง ก็ไม่ได้ถูกใส่ใจ ถูกบอกว่าการเอานิ้วใส่ เป็นส่วนนึงของการนวด แล้วก็แยกย้าย



เค้าไม่พอใจ เลยโทรไปที่สถานทูต และไปโวยวายที่สถานีตำรวจ ทางนั้นเลยบอกว่าอีกวันให้มารับบันทึกประจำวันไรงี้ แต่พอวันต่อมาเค้าไปสถานีตำรวจตามเวลานัด พบว่าวันนี้สถานีตำรวจปิด เค้าเลยรู้สึกว่าไม่ว่าถึงจะถูกฆ่าในไทย ก็กลายเป็นการรับผิดชอบของตัวเอง แจ้งตำรวจไปก็ไม่เหมือนญี่ปุ่น



พร้อมได้ลงรูปบันทึกประจำวัน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้คนรีทวิต และแชร์เป็นจำนวยมาก ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ถึงภาพลักษณ์ของประเทศ



ทีมข่าวลงพื้นที่ตามหาร้านนวดที่ถูกกล่าวหา ซึ่งอยู่ภายในซอยรามบุตรี โดยเป็นร้านนวด 1 ห้อง ขนาดหน้ากว้าง 4 เมตรด้านหน้า มีเก้าอี้สำหรับนวดฝ่าเท้า ส่วนภายในร้าน จะโถง มีเตียงรวดแผนไทย 4 เตียง ส่วนด้านหลังประตูกระจกมีอีก 1 เตียง



ทีมข่าวถามหาพนักงานนวดชาย ที่ถูกกล่าวหา ทราบว่าชื่อนายใหม่ อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งพนักงานในร้านบอกว่า นายใหม่ออกจากงานไปแล้ว และกลับไปที่ต่างจังหวัด ซึ่งไม่มีเบอร์ติดต่อนายใหม่แล้ว ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับป้าอู๋ วัย 64 ปี เจ้าของร้านนวด ยืนยันกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์เกิดตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ โดยหญิงสาวชาวญี่ปุ่น มาพร้อมเพื่อนชาย เข้ามาในร้าน ตอนนั้นเหลือเตียงว่าง 2 เตียง คือ เตียงด้านนอก 1 เตียง และเตียงด้านในหลังร้านอีก 1 เตียง



จึงให้นักท่องเที่ยวชายไปนวดข้างในหลังร้าน ส่วนตัวนักท่องเที่ยวหญิงชาวญี่ปุ่น ก็นอนนวดอยู่ที่เตียงด้านนอก ซึ่งเป็นเตียงที่ 3 โดยมีพนักงานนวดชายคนที่ถูกกล่าวหา เป็นคนนวดแผนไทย 1 ชั่วโมงให้



แต่พอเหลือเวลาอีกประมาณ 5 นาทีก่อนนวดเสร็จ จู่ๆ หญิงสาวรายนี้ ก็ตะโกนขึ้นมา และให้ตามเพื่อนชายที่มาด้วย ก่อนบอกว่าถูกลวนลาม โดยหมอนวดชายได้จับที่อวัยวะเพศของเธอ ซึ่งในใหม่ที่เป็นคนนวด ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ จึงให้ไปตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ระหว่างที่รอตำรวจ ป้าอู๋ เจ้าของร้าน ก็ได้เปิดกล้องวงจรปิดให้นักท่องเที่ยวดู ซึ่งป้าก็เห็นว่าขณะเกิดเหตุหมอนวดชายกำลังนวดรีดเส้นบริเวณขาอยู่ และไม่เห็นว่ามีการกระทำอนาจาร



แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม แจ้งว่า ขอเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 8 หมื่นบาท เจ้าของร้านจึงบอกว่างั้นให้ไปเจรจากันที่โรงพัก พร้อมกับพาในใหม่ซึ่งเป็นพนักงานนวดไปเจรจาไกล่เกลี่ยด้วย



ต่อมาเมื่อถึงโรงพัก ฝ่ายหญิงจึงเรียกค่าเสียหาย 25,000 บาทแทน แต่พนักงานนวด ยืนยันว่าไม่ได้ทำ แล้วทำไมถึงจะต้องจ่ายค่าเสียหาย ทำให้ในคืนวันนั้นเจรจากันไม่เป็นผล



ซึ่งหลังจากนั้น ป้าอู๋ก็ให้นายใหม่ หยุดงานชั่วคราวไปก่อนจนกว่าจะเคลียร์กับผู้เสียหายเสร็จ แล้วค่อยกลับมาทำ แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นนายใหม่ก็ไม่ได้กลับมาทำที่ร้านอีกเลย และไม่ทราบว่าเรื่องคดีจบลงอย่างไร



กระทั่งเมื่อคืนที่ทางหญิงชาวญี่ปุ่นได้โพสต์ข้อความ จึงรู้สึกแปลกใจว่าเหตุการณ์ผ่านมากว่า 4 เดือน ทำไมเพิ่งจะมาโพสต์ข้อความ และอยากขอความเป็นธรรมให้กับทางร้าน เพราะเสียภาพลักษณ์ทั้งภาพลักษณ์ของร้าน และด้านการท่องเที่ยว



ขณะที่ ในมุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งถูกพาดพิง ถึงเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ทีมข่าวสอบถามไปที่ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม ระบุว่า จากพื้นที่จุดเกิดเหตุ และสภาพแวดล้อม เป็นไปได้ยากที่จะเกิดการข่มขืน //

ส่วนประเด็นการกระทำอนาจารนั้น แน่นอนว่าการนวดจะต้องเป็นการสัมผัสถูกเนื้อต้องตัว ถึงจะมีการกำชับให้ร้านนวดทุกร้านปิดป้ายแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ที่ไม่ประสงค์ให้นวดบริเวณจุดได้ของร่างกาย สามารถแจ้งได้ทันที



พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า ในคืนวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ หลังเกิดเหตุทันที และได้ไล่ย้อนข้อความ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ส่งมารายงาน ตอนตี 2.11น. ที่ระบุข้อความว่า "ชุดจู่โจม ว.4 เหตุรับแจ้ง นทท.ชาวต่างชาติโดนล่วงละเมิดทางเพศ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว คาดว่าเป็นเหตุเข้าใจผิด นำตัวคู่กรณี ว.25สน. พบพนักงานสอบสวนไกล่เกลี่ยต่อไป"



ซึ่งในคืนวันนั้นเจรจากันไม่เป็นผล ทำให้ทางพนักงานสอบสวนได้นัดมาเจรจาไกล่เกลี่ยในวันรุ่งขึ้น แต่ผู้เสียหายบอกว่าจะต้องเดินทางไปเที่ยวต่อที่ต่างจังหวัดทางภาคใต้ พนักงานสอบสวนจึงนัดทั้งคนนวดเจ้าของร้าน ล่าม และผู้เสียหายมาพูดคุยในอีกสองวัน แต่เมื่อถึงวันนัด ทางผู้เสียหายกลับไม่มา และขอยืนยันว่าที่ผู้เสียหายบอกว่า มา สน.แล้ว แต่ปิดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะ สน.เปิดทุกวัน



โดยหลังจากนี้จะมีการกำชับทำความเข้าใจกับร้านนวด ให้ปิดป้ายทำความเข้าใจกับลูกค้าไม่สะดวกใจให้นวดบริเวณที่ใกล้กับหน้าอก หรืง อวัยวะเพศ ให้แจ้ง



ขณะที่ทีมข่าวพยายามติดต่อไปที่ผู้โพสต์ และผู้ที่แปลข้อความ โดยติดต่อไปทั้งทาง Twitter และ Instagram แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/IJTCe-XC-4w

คุณอาจสนใจ

Related News