'ปราปต์ปฎล' ยันไม่เกี่ยวคดีฟอกเงิน Forex-3D ลั่นพร้อมพิสูจน์ความจริง

ดีเอสไอ หอบหลักฐานคดีฟอกเงิน ของแชร์ Forex-3D ส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ พร้อมความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 คน โดยมีนายปราปต์ปฎล เป็น 1 ในผู้ต้องหา โดยอัยการนัดมาฟังคำสั่ง วันที่ 6 มิถุนายน ขณะที่ นายปราปต์ปฎล ยังยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและจะเดินหน้าพิสูจน์ข้อเท็จจริง



คณะพนักงานสอบสวน กองคดีธุรกิการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI นำสำนวนคดีฟอกเงิน ของคดีแชร์ Forex-3D จำนวน 3 ลังกระดาษ มาส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก



ซึ่งคดีดังกล่าว มีผู้ต้องหา 9 คน คือ นายอภิรักษ์ โกฎธิ (คุมขังในเรือนจำ) นายกิตติชัย โกฎธิ (คุมขังในเรือนจำ) นายวาริท อาเซ่อร์ หรือนายณัฐธีร์ พีระชัยรมย์ (คุมขังในเรือนจำ) นางสาวธัญญนันซ์ ณัฐนนท์ชญนัท (คุมขังในเรือนจำ) นางสาวภคมน สีลุน (แฟนสาวนายปราปต์ปฎล) (คุมขังในเรือนจำ) นายศิษฎ์ธนาฒย์ โพธิ์เงิน (คุมขังในเรือนจำ) และนายกษม กลปราณีต (คุมขังในเรือนจำ) ส่วน นายปราป์ปฎล สุวรรณบาง นายธีร์ภัสกร กิมวังตะโก หรือมาร์ค ไม่ได้อยู่ในเรือนจำ



โดยคณะพนักงานสอบสวน บอกว่า DSI มีความเห็นส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 คน และได้นัดหมาย ให้ผู้ต้องหา 2 คนที่ไม่ได้อยู่ในเรือนจำมาพบที่สำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนพฤติการณ์ของนายปราปต์ปฎล พบว่ามีการย้ายรถแอสตันมาร์ตินไปจอดไว้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของนายอภิรักษ์ โกฎธิ และนางสาวชนกวนันท์ สีลุน ภรรยาในขณะนั้น และเป็นรถที่พบว่าถูกซื้อมาด้วยเงินจากธุรกิจแชร์ Forex-3D ส่วนพฤติการณ์ของ มาร์ค คือพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปถึงและเข้าข่ายการฟอกเงิน



ซึ่งช่วงประมาณ 11.00 น. นายปราปต์ปฎล เดินทางมายัง ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผ่อนคลาย ไม่มีท่าทีที่เคร่งเครียด และก็พูดสั้นๆก่อนจะขึ้นไปพบพนักงานอัยการ ว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบ ตนเองจะดำเนินการกับเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องแล้วถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แต่ยังถูกให้เข้าไปเกี่ยวข้อง เมื่อเป็นเช่นนั้นตนก็จะทำความจริงให้ปรากฏให้ได้



จากนั้นประมาณ 30 นาที นายปราปต์ปฎล ระบุว่า พนักงานอัยการ มาให้มาฟังคำสั่งว่าจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 6 มิถุนายน  และนายปราปต์ปฎล ยังบอกอีกว่า ส่วนตัวค่อนข้างพึงพอใจที่ DSI มาส่งสำนวนแล้ว เพราะตนเองจะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ ส่วนพนักงานอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลหรือไม่ เป็นดุลพินิจของพนักงานอัยการ แต่มองว่า ถ้าหากสั่งฟ้อง ก็แสดงว่ามีธงตั้งไว้อยู่แล้วว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับตน แต่ถ้าหากสั่งไม่ฟ้อง ก็จะถือว่าคดีจบลง



นอกจากนี้ นายปราปต์ปฎล จะยื่นขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ เพราะเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและมีข้อสงสัยต่อการทำงานของพนักงานสอบสวน DSI เพราะที่ผ่านมาตนเองยืนยันมาตลอดว่า ไม่เกี่ยวกับคดีฉ้อโกงประชาชน และการ ฟอกเงิน แต่ยอมรับเรื่องรถที่ย้าย และมองว่าหารการย้ายรถเข้าข่ายคดีฟอกเงิน อยากให้มองที่เจตนา เพราะตนเองมีเจตนาคือช่วยเหลือแฟนที่นอนอยู่ รพ. ในการย้ายรถ เพราะถูกเพื่อนงัดห้อง และยังสงสัยว่า หากเจ้าหน้าที่รู้มาก่อนแล้วว่ารถคันนี้เป็นรถจากการฉ้อโกง เหตุใดจึงไม่ดำเนินคดีตนตั้งแต่ปี 2563 หรือไม่ก็อายัติรถตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ใช่ปล่อยให้ใช้รถได้อีก 1-2 ปี

https://youtu.be/QOofhcMYok0