สังคม

ทลาย 'สตาร์ทอัพ' คอลเซ็นเตอร์ไทย ใช้ประสบการณ์ลูกจ้างสู่เจ้าของกิจการ ตุ๋นเหยื่อเพียบ!

โดย panwilai_c

5 ธ.ค. 2565

209 views

ตำรวจ PCT บุกรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย ที่เคยไปทำงานที่กัมพูชา แล้วกลับมาทำคอลเซนเตอร์เอง ใช้รูปสาวสวย ลวงเหยื่อให้รักแล้วหลอกลงทุนในบริษัทที่ไม่มีจริง



ตำรวจ PCT นำหมายค้นเข้าตรวจสอบห้องพักของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมจับกุมนาย สุพรพงษ์ อายุ 31 ปี ตามหมายจับในคดีร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และยังพบผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน คือ นางสาว ทิพวรรณ / นางสาว สิริธร และนางสาว คณิณัช พร้อมยึดคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง สมุดบัญชี 5 เล่ม และซิมการ์ดโทรศัพท์ 38 ซิม



จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์พบว่า ทั้ง 4 คน จะสร้างเฟซบุ๊กปลอม โดยใช้ภาพโปรไฟล์เป็นสาวสวย พอมีคนมาติดตามมากๆ ก็จะเข้าไปคุยเชิงชู้สาว พอเหยื่อหลงเชื่อก็จะชักชวนมาลงทุน หากใครยินยอมจะดึงเข้ากลุ่มไลน์ โดยอ้างว่าเป็นบริษัทที่ชื่อว่า E-SHIPING.SHOP ซึ่งไม่มีอยู่จริง จากนั้นจะปลอมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคนชื่อ "อ.กอล์ฟ" หลอกเสนอขายแผนโปรแกรมหลายแบบ เช่น การท่องเที่ยว การแต่งงาน แล้วหลอกให้โอนเงินร่วมลงทุนตามแผนงานต่าง ๆ เหล่านั้น เหมือนเป็นการหลอกให้ทำภารกิจ ถ้าการลงทุนำเร็จจะได้เงินคืนเป็น 2 เท่า



โดยในกลุ่มไลน์จะมีเหยื่ออยู่ในกลุ่มเพียงคนเดียว ที่เหลือจะเป็นหน้าม้าทั้งหมด จะให้หน้าม้าแกล้งส่งภาพสลิปการโอนเงินทำทีว่าได้รับเงินจริง เมื่อเหยื่อเห็นว่าคนในกลุ่มได้รับเงินโอนจริงจะเกิดความโลภและยอมโอนเงินลงทุน จากนั้นจะทำทีแสดงข้อมูลในโปรแกรมโชว์ยอดรายได้ให้เหยื่อเห็น แต่หากต้องการถอนเงินก็จะอ้างว่าเหยื่อทำผิดวิธี ต้องลงเงินเพิ่มถึงจะถอนเงินได้



นางสาว คณิณัช ให้การว่า เคยเป็นพนักงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา ทำจนมีความชำนาญมาก มีความรู้ระดับอาจารย์ แต่ละเดือนตอนอยู่กัมพูชาสามารถทำยอดเงินได้เดือนละเป็น 100 ล้านบาท ยอมรับว่าตัวเองคนเดียวสามารถทำงานได้เหมือนคน 6 คนในเวลาเดียวกัน ต่อมาก็คิดว่าทำไมต้องมารอเงินส่วนแบ่งจากบอสชาวจีนแค่ 3% จึงออกมาทำเองเพื่อจะได้รับเงินเต็ม ๆ ก่อนจะกลับมายังประเทศไทยเมื่อประมาณเดือนกันยายน 65 ที่ผ่านมา ซึ่งตั้งใจว่าจะเป็นผู้ก่อตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของคนไทยเจ้าแรก และจะเป็น Start Up เพื่อขยายกิจการในประเทศไทย แต่ทำได้เพียง 2 เดือนก็มาถูกจับเสียก่อน



เธอยังบอกด้วยว่า จ้างให้โปรแกรมเมอร์คนไทยที่อยู่ในกัมพูชาเขียนโปรแกรมให้ในราคา 60,000 บาท ก่อนจะร่วมกับพวกที่อยู่ในห้องอีก 3 คนทำด้วยกัน โดยส่วนแบ่งรายได้ที่ได้จากการหลอกลวง เธอจะได้ 30%, นายสุพรพงษ์ได้ 30%, น.ส.สิริธรได้ 20% และ น.ส.ทิพวรรณได้ 20%



พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT บอกว่า รูปแบบการวางระบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้เป็นรูปแบบเดียวกับหลาย ๆ แก๊งที่ตั้งออฟฟิศอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลุ่มนี้สามารถรวบรัดระบบต่าง ๆ ไว้ในห้อง ๆ เดียวด้วยคอมพิวเตอร์เพียง 3 เครื่อง และใช้คนจัดการเพียง 4 คน ที่สำคัญ 4 คนนี้ถือว่าเป็นระดับหัวกระทิ ที่นำความรู้ความสามารถจากการเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน กลับมาตั้งต้นทำในประเทศไทย

สามารถดูได้ที่ : https://youtu.be/Caegb4bPqZE

คุณอาจสนใจ

Related News