สังคม

'ครูยุ่น' รับทราบข้อหา ปัดทำร้าย-ใช้แรงงานเด็กในมูลนิธิ เด็กเสียงแตก มีทั้งออก-อยู่ต่อ

โดย panwilai_c

3 พ.ย. 2565

65 views

หลังจากเมื่อวานนี้ (3 พ.ย. 65) ที่เรื่องเด่นเย็นนี้นำเสนอ กรณีครูของมูลนิธิดังในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายเด็กในมูลนิธิ ล่าสุดวันนี้ครูที่ถูกกล่าวหา คือ ครูยุ่น ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับตำรวจ สภ.อัมพวา



บรรยากาศเมื่อช่วงเช้าที่มูลนิธิ ในอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นไปตามปกติ ก่อนที่ในเวลาประมาณ 09.00 น. นายแก้วสรร อติโพธิ ประธานมูลนิธิ พร้อมกับ นายพนัส ทัศนียานนท์ ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมาย จะเดินทางมาติดตามสถานการณ์ที่มูลนิธิ หลังจากเมื่อวาน พม.นำเด็กบางส่วนออกไปดูแล



จนเวลา 10.00น. ครูยุ่น หรือ นายมนตรี สินทวิชัย" เลขาธิการมูลนิธิ เดินทางมาที่มูลนิธิ ได้ทักทายกับนายแก้วสรร และ นายพนัส โดยกอดให้กำลังใจกัน ก่อนที่จะพาครูยุ่นมารายงานตัวตามหมายเรียก



จากนั้นได้ขึ้นรถ เพื่อออกไปที่ สภ.อัมพวา ระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวพยามถามว่า กังวลใจหรือไม่ ครูยุ่นตอบสั้นๆ ว่า "ไม่เป็นไร ทุกคนก็ทำตามหน้าที่"



จากนั้นเดินขึ้นรถมาที่ สภ.อัมพวา เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายเด็ก มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย



เมื่อมาถึงสภ. ครูยุ่น เภรรยา และลูกชาย เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ภายในห้องสอบสวน จากการสังเกต พบว่าสีหน้าของครูยุ่นเองไม่ได้มีความกังวล หรือเครียดแต่อย่างใด ซึ่งทางเข้าตัวเองบอกแค่ว่า จะมีการแถลงข่าวข้อเท็จจริงในช่วงบ่ายที่มูลนิธิ



ขณะที่นายแก้วสรร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เบื้องต้นสำหรับเรื่องของคดี ยืนยันว่าสำหรับคำพูดตามที่ปรากฎในคลิปหลายคนอาจจะมองว่าเป็นการพูดที่ไม่เหมาะสม แต่ในมุมของตน มันคือการพูดคุยตามปกติ ขณะที่เรื่องของการนำเด็กไปใช้แรงงานที่รีสอร์ท ในมุมนี้ส่วนตัวไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว ทราบแค่ว่าเด็กเองอาจจะตามไปทำงานที่รีสอร์ท ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ เพราะเขาเองอยากได้ทิป หรือเงินจากแขก หลายคนขับรถตามไป ส่วนขอบเขตการทำงาน ก็แค่กวาดใบไม้ ยกจาน ทำความสะอาดทั่วไป



ส่วนตัวไม่เข้าใจในการใช้อำนาจทางการปกครอง เกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ถึงขั้นนำตัวเด็กออกไป ทั้งที่เด็กร้องไห้ไม่ยินยอม ถามว่ามีเหตุผลอะไรถึงทำแบบนี้ หากอ้างว่าทาง "ครูยุ่น" ไม่เหมาะสมที่จะดูแลเด็ก ก็ต้องมีการสอบสวนให้เป็นเรื่องเป็นราว หรือมีการตักเตือนหรือเปลี่ยนคน ไม่ใช่อยู่ๆ จะเอาคนมาหิ้วเด็กเหมือนหมู เหมือนหมา



และอยากย้อนถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าการกระทำแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ เด็กบางคนต้องไปโรงเรียน แล้วพอเกิดเหตุแบบนี้กลับไม่ได้ไปโรงเรียน ยืนยันว่าเราเป็นมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ไม่ใช่มูลนิธิรังเเกเด็ก อย่าทำตัวเป็นคนหูเบา



ซึ่งตามเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มมาจากกลุ่มเส้นด้ายมากล่าวโทษ หาว่าทำร้ายเด็ก และใช้แรงงานเด็ก ซึ่งทาง "ครูยุ่น" เองก็ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการทำร้าย หรือใช้แรงงานเด็ก และก็พร้อมมารับทราบข้อกล่าวหา ไม่อยากให้อีกฝ่ายมาข่มขู่หาว่าหลบหนี พร้อมเดินหน้าตามขั้นตอนของกฎหมาย ย้ำว่าที่มูลนิธิในฐานะ "ครูยุ่น" เป็นเหมือนผู้ปกครอง หรือ พ่อของเด็ก ๆ ซึ่งไม่ผิดที่มีอำนาจในการลงโทษหรือตักเตือน และบางอย่างมีความจำเป็นที่ต้องตี



ขณะที่เหตุการณ์ในคลิปนั้น คือเด็กทั้ง 5 คน แอบไปเล่นน้ำที่แม่น้ำด้านหน้ามูลนิธิ ซึ่งพวกเขาเองว่ายน้ำเป็น แต่กลับพาเด็กบางคนที่เป็นรุ่นน้องออกไปด้วย ทั้งที่เด็กเหล่านั้นว่ายน้ำไม่เป็น เลยต้องมีการว่ากล่าวตักเตือน การลงโทษต่อหน้าทุกคน เป็นเหมือนการปรามให้ทุกคนเห็นว่าอย่าทำ ส่วนการพูดนั้นเป็นคำพูดปกติดที่พูดกันทั่วไป ตามสไตล์ ส่วนเรื่องการใช้แรงงานนั้นตามที่บอก และอธิบายเหมือนตนมีรีสอร์ทแล้วให้ลูกมาช่วยมันผิดตรงไหน



ขณะที่มีเด็กบางราย ถึงขั้นติดยาเสพติด และมีการขโมยเงิน ซึ่งหลายคนก็บอกให้ปล่อยไป ทางครูยุ่นเองก็ยืนยันจะดูแลต่อ และควบคุมได้ นี้คืออีกหนึ่งสิ่งที่ยืนยันว่าแกเองรัก และเอ็นดู ย้อนถามว่ากลุ่มเอ็นจีโอที่ไม่ทราบข้อมูลไม่จริง แต่กลับมาทำตัวหิวแสง


https://youtu.be/y9XMw2kJpFs

คุณอาจสนใจ

Related News