สังคม

จบลงด้วยดี! 'ธ.ออมสิน' จ่ายเยียวยายึดบ้านผิด 2.2 ล้าน ภายในศุกร์นี้ รับเป็นความผิดธนาคาร-ผู้รับเหมา

โดย parichat_p

4 ต.ค. 2565

217 views

วันนี้ธนาคารออมสิน เยียวยา ผู้เสียหาย เจ้าของบ้านที่ถูกผู้รับเหมาของทางธนาคาร เข้าไปทำการรื้อของ และปรับปรุงบ้านใหม่ จำนวน 2.2 ล้านบาท พร้อมคืนของให้ รับเป็นความผิดธนาคาร


ทางธนาคารออมสิน ได้นัดคุณกาญจนา สร้อยสน และ คุณสมเกียรติ สร้อยสน เจ้าของบ้านเลขที่ 99/38 ตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความเป็นธรรม มาเจรจากับ คุณวุฒิพงษ์ ภิรมยาภรณ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินกลุ่มหนี้และกฎหมาย ที่ธนาคารออมสิน สาขาติวานนท์


ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำการเจรจากันอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนมีตั้งโต๊ะแถลงข่าว ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ทางธนาคาร ได้นำสิ่งของจำนวน 13 รายการ มาเตรียมส่งมอบคืนให้กับผู้เสียหาย เช่น โต๊ะหมู่บูชา 1 ชุด //พระพุทธรูป // เตารีด //ทีวีจอแก้ว เป็นต้น

ก่อนที่ทางรองผู้อำนวยการธนาคารออมสินกลุ่มหนี้และกฎหมาย จะกล่าวยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความผิดพลาดของทางธนาคาร และผู้รับเหมา ซึ่งเป็น outsource ซึ่งทางธนาคารจะเยียวยาเงินให้กับผู้เสียหายจำนวน 2 ล้าน 2 แสนบาท ตามที่ผู้เสียหายเรียกร้อง และคืนของทั้งหมดที่ธนาคารเก็บไว้ให้กับผู้เสียหาย


ประเด็นสำคัญ คือ ทางรองผู้อำนวยการ ชี้แจงว่า บ้านหลังนี้ทางธนาคาร ได้ซื้อมาจากทางกรมบังคับคดี ที่ขายทอดตลาดมาในราคา 1 ล้าน 6 แสนบาท จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร ได้มอบหมายให้ผู้รับเหมา ที่เป็น outsource ในพื้นที่ เข้าไปดำเนินการวปิดป้าย ห้ามบุกรุก ก่อนที่จะส่งรูปถ่ายบ้านหลังดังกล่าวไปทางไลน์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ธนาคารยืนยันว่าตรงกับหลังที่จะดำเนินการรีโนเวทหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ได้ยืนยันว่ารูปบ้านที่ผู้รับเหมาส่งมา ตรงกับบ้านที่ซื้อมาจากกรมบังคับคดีจริง เพราะมีลักษณะภายนอกเหมือนกัน


จากนั้น ก็ได้ให้ช่างผู้รับเหมา เข้าไปรีโนเวท อยู่ 4-5 วัน ซึ่งบ้านหลังนี้ ก็ไม่มีคนอยู่อาศัย ประกอบกับ ไม่ได้มีเพื่อนบ้านหรืงใครเข้ามาทักท้วงจึงดำเนินการไปเรื่อยๆ พร้อมกับรื้อของออกหมด รวมถึงของที่มีคุณค่าทางจิตใจของผู้เสียหาย เพราะตามกฎหมายแล้ว เมื่อธนาคารซื้อบ้านมาแล้ว ของทุกอย่างถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคาร จึงได้ทำการย้ายออกทั้งหมด โดยบางส่วนนำไปทิ้ง และมีบางส่วนที่เก็บเอาไว้

แต่หลังปรับปรุงบ้านเสร็จเรียบร้อย ก็มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารไปปิดป้าย ว่าขายบ้านเลขที่ 99/44 ในราคา 2 ล้าน 6 แสนบาท ซึ่งไม่รู้มาก่อนว่าปิดป้าย และรีโนเวทผิดหลัง ก่อนที่ในวันที่ 15 กันยายน จะมาทราบว่าเข้าไปดำเนินการรีโนเวทผิด จากการที่เพื่อนบ้านของผู้เสียหาย ลองโทรไปติดต่อขอซื้อ


ซึ่งยอมรับว่ากระบวนที่เกิดขึ้น เป็นข้อผิดพลาดตั้งแต่เจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่ไม่ไปเป็นคนไปปิดป้ายเอง และมีการส่งงานกันทางไลน์ เพราะตามหลักการทุกกระบวนการเจ้าหน้าที่ของธนาคารต้องไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ในส่วนนี้ธนาคารขอยอมรับผิด


ส่วนประเด็นเรื่องที่ธนาคารทำหนังสือชี้แจงว่า บ้านของผู้เสียหายไม่ได้มีการติดบ้านเลขที่นั้น ทางรองผู้อำนวยการ ยืนยันว่า ทางช่างที่เข้าไปดำเนินการ ไม่เห็นว่ามีป้ายบ้านเลขที่ติดอยู่ และอย่างที่ชี้แจงไปว่า บ้านมีลักษณะคล้ายกัน


ผู้สื่อข่าว จึงถามทางผู้เสียหายอีกครั้ง ยืนยันว่ามีป้ายบ้านเลขที่ ก่อนที่ทางทนายรณณรงค์ จะนำภาพที่ธนาคารชี้แจงมาแสดงว่า ถ้าสังเกตให้ดีในภาพ จะเห็นตู้ไปรษณีย์อยู่ แม้จะไม่เห็นว่ามีเลขหรือไม่ก็ตาม หลังจากนี้ ได้พักงานช่างรีโนเวทเป็นเวลา 6 เดือน พร้อมกับมีการตั้งคณะกรรมสอบสวนทางวินัย หากพบความผิดก็จะมีโทษตามกฎของบริษัท


นอกจากนี้ ธนาคารก็ได้พักงาน ทนายความที่คุยกับผู้เสียหายในวันที่ไปแจ้งความที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว อีก 6 เดือน หลังจากไปพูดว่า หากผู้เสียหายอยากได้เงินให้ไปฟ้องร้อง อีก 6 เดือน


อย่างไรก็ตามนอกจากของธนาคารออมสินจะยอมรับผิด ก็ได้ทำการจ่ายค่าเยียวยาจำนวน 2,200,000 บาท กับผู้เสียหาย ภายในวันศุกร์นี้ พร้อมยืนยันว่า ตลอด 109 ปี ที่ธนาคารก่อตั้งมา ไม่เคยมีเรื่องผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องไปแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการยึดบ้านผิดหลัง แต่เป็นการรีโนเวทบ้านผิดหลัง


ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณกาญจนา ผู้เสียหาย อีกครั้ง หลังการเจรจา และได้เห็นทรัพย์สินที่หลงเหลือบางส่วน ก็รู้สึกดีใจที่ได้ทรัพย์สินคืน โดยเฉพาะพระพุทธชินราช ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ แต่ก็ยอมรับว่าเสียดายข้าวของที่มีค่าทางจิตใจที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ แต่การเจรจาในวันนี้ เป็นไปด้วยดี ทางธนาคารตอบรับข้อเรียกร้องของตน แต่ก็มองว่า ข้าวของบางอย่างไม่ได้มีค่าแต่ทำไมจึงเก็บไว้ให้ เช่นก้อนหินประดับ แต่กับเครื่องปรับอากาศกลับถอดทิ้ง และอ้างว่าเสียแล้ว


ส่วนเมื่อวานนี้ ที่ทางธนาคารออกเอกสารชี้แจงว่า บ้านของตนไม่มีเลขที่บ้านนั้น ยอมรับว่า รู้สึก เอ๊ะ! และตกใจ พร้อมยืนยันว่าที่บ้านมีบ้านเลขที่ติดไว้ชัดเจน แต่ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้เหตุการณ์มันยืดเยื้อไปกว่านี้ จึงอยากให้เรื่องราวจบลง


หลังจากนี้ ก็คงเอาของมีค่ากลับไปเก็บไว้ที่บ้านอีกหลังที่อยู่ประจำแทน ไม่เอาไว้ทั่บ้านหลังที่ไม่ค่อยอยู่แล้ว


รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/3Kx3UFSW5Z8

คุณอาจสนใจ

Related News