สังคม

เปิดใจทหารหญิง ถูก 'เมียน้อยส.ว.' กักขังร่วมปี ทารุณโหดเหมือนไม่ใช่คน บช.ส. ฮึ่ม! เร่งตามตัวสอบ

โดย panwilai_c

18 ส.ค. 2565

213 views

เปิดใจทหารหญิงยศสิบโท ถูกเอาตัวไปรับใช้นายจ้างหญิง ซึ่งเป็นตำรวจยศสิบตำรวจเอก และอ้างตัวเป็นภรรยาของ ส.ว. ทำร้ายร่างกาย และทารุณนานร่วมปี ก่อนที่ครอบครับจะเข้าช่วยเหลือ และประสาน กัน จอมพลัง ช่วยคดี



หญิงผู้เสียหายรายนี้ เป็นทหารยศสิบโท อายุ 32 ปี ถูกนายจ้างหญิง ซึ่งเป็นถึงตำรวจยศสิบตำรวจเอก สังกัดสันติบาล ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นภรรยาของสมาชิกวุฒิสภา ดึงตัวเธอมารับใช้ที่บ้าน ในอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี นานร่วม 2 ปี ก่อนจะถูกทำร้ายตามร่างกาย และครอบครัวเพิ่งช่วยออกมาได้เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเธอมีคลิปหลักฐานที่บันทึกไว้



คลิปนี้ทหารยศสิบโท ผู้เสียหายบันทึกไว้ ในคลิปจะเห็นว่าหญิงนายจ้างยืนข้างๆ และสั่งให้บันทึกภาพขณะลงโทษ โดยใช้ไม้แขวนเสื้อฟาดไปที่ใบหน้า และด่าทอ จังหวะหนึ่งนายหญิงบอกให้ไปทิชชู่มาเช็ดเลือดที่ขา ที่พื้น และให้เอากางเกงนายจ้างหญิงไปซักขยี้รอยเลือกออกให้หมด



เป็นคลิปที่นายจ้างหญิง สั่งให้ทหารสิบโทรายนี้ รีดผ้าหลังถูกทำโทษแล้ว ในคลิปจะเห็นว่าเธอยืนรีดผ้า มือข้างก็ถือกระดาษซับเลือดบนบริเวณที่ถูกทำร้าย



ทหารยศสิบโท อายุ 32 ปี เล่าว่า รู้จักกับนายจ้างหญิงรายนี้ เมื่อประมาณปี 59-60 หลังจากไปเป็นลูกจ้าง ทำงานที่ร้านกาแฟซึ่งระหว่างที่ทำ นายจ้างรายนี้ ก็เสนอว่าสามารถฝากเข้าเป็นทหารได้ หากเธอรับปากว่าจะยอมมารับใช้ดูแลที่บ้าน จึงตัดสินใจรับข้อเสนอ และก็ได้เป็นทหาร เธอเป็นทหารอยู่ประมาณหนึ่งปี หลังจากนั้นช่วงประมาณปี 2563 ชื่อก็ถูกย้ายไปช่วยราชการที่อื่น แต่ตัวไปอยู่รับใช้ที่บ้านของนายจ้างหญิงรายนี้อย่างเต็มตัว เธอดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน



ช่วงแรกไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งช่วงกลางปี 2564 เริ่มถูกกระทำรุนแรง โดยนายจ้างหญิงอ้างว่า เธอไม่ใส่ใจเหมือนเดิม จึงเริ่มไม่ให้กลับบ้าน และใช้ความรุนแรง เริ่มจากถูกตบปาก อ้างว่าเพราะพูดจาไม่เพราะ หาว่าโกหก บางครั้งถูกว่าว่า "ตอแหล" ต่อมาก็เริ่มรุนแรงขึ้น เป็นการบังคับให้ตบปากตัวเองให้เลือดออก จนปากแตก ถ้าเลือดไม่ออกห้ามหยุด ก่อนจะใช้น้ำยาล้างห้องน้ำมาเทที่ปาก เพื่อให้ปวดแสบปวดร้อน โดยอ้างเหตุผลว่าพูดจาไม่เพราะเช่นเดิม



ซึ่งก็ถูกกระทำรุนแรงมาเรื่อย จนเดือนกุมภาพันธ์ 65 ก็ถูกใช้เครื่องหนีบผมหนีบเข้าที่มือขวาจนกลายเป็นแผลเป็น เนื่องจากหนีบผมให้นายจ้างไม่ทันใจ ช้า นายจ้างจึงคว้ามือมาแล้วเอาเครื่องหนีบทาบลงไป ก่อนจะพูดว่า "ไม่คิดว่าเครื่องมันจะร้อน"



จากนั้นช่วง 5-6 เดือนก็รุนแรงขึ้น เริ่มจากเดือนมีนาคม ก็ถูกเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย อ้างว่าตนเองชอบพูดจาโกหก ชอบแถ โดยเริ่มช๊อตจากในร่มผ้า ต่อมาช็อตที่ศรีษะ หัวสมอง และปาก พร้อมกับบอกว่าที่ปากมีน้ำ จะนำพากระแสไฟฟ้าได้ดี บางทีช็อตจนทรุดลงไปกับพื้น แต่กลับถูกกล่าวหาว่าแอ็คติ้ง เธอบอกว่าถูกเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตบ่อยครั้ง จนนายจ้างหญิงบอกว่าเครื่องใกล้เสียแล้ว ถ้าเสียแล้วเธอต้องจ่ายค่าซ่อมด้วย



จนกระทั่งช่วงเดือนสิงหาคม ก็ถูกกระทำรุนแรงมากขึ้น ทั้งไม้ถูพื้นตีเข้าที่หูซ้าย จนเลือดไหล และทำให้หูซ้ายดับไม่ได้ยิน สาเหตุเพราะคุณเอหลับตอนเวลากลางคืน และทวีความรุนแรง มาจนถึงเอาสเปย์แอลกอฮอล์ฉีดพ่นที่ผม แล้วจุดไฟเผา เนื่องจากอ้างว่าทำงานไม่เรียบร้อย



รวมถึงใช้ไม้ฟุตเหล็กฟาดศีรษะ และดั้งจมูก เหตุเพราะหลับในเวลากลางคืน และทำให้นายจ้างไม่พอใจ

บางครั้งก็เคยถูกปลากระป๋องที่เป็นแพคฟาดมาตามร่างกาย ส่วนจมูกที่หักนั้นไม่แน่ใจว่าโดนอะไร แต่รู้สึกว่าหายใจได้ข้างเดียวมาสักระยะหนึ่งแล้ว แพทย์บอกว่าน่าจะหักมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว



ทุกครั้งที่ถูกทำร้ายร่างกาย จะไม่ได้ไปพบแพทย์ เต็มที่มากสุดคือรับประทานยา โดยในจ้างหญิงรายนี้จะให้รีบทานยาเพื่อหายเร็วๆ ก่อนออกไปงานนอกบ้าน



ขณะที่เงินเดือนราชการ หลังหักสหกรณ์ออมทรัพย์ไปแล้ว เหลือ 5,300 บาท ก็จะต้องโอนให้นายจ้างหญิง โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ช่วยทำให้เธอมีอาชีพ พาเข้ารับราชการทหาร เธอบอกว่าโอนให้กับนายจ้างมาประมาณสองปีแล้ว และเธอต้องหาเงินอีกจำนวนหนึ่งในแต่ละเดือน โอนเพิ่มเติมให้นายจ้าง และยังไม่รวมถึงค่าปรับต่างๆจากการทำงาน ในแต่ละเดือนเธอไม่มีรายได้ทางอื่น ทำให้ต้องไปหยิบยืมเงินจากพ่อแม่ ซึ่งหาเช้ากินค่ำแต่แม้จะไม่มีด้วยความรักลูกก็จะพยายามหามาให้ ในชีวิต เคยมีรถ และโน๊ตบุก ก็ขายหมด



เพราะนายจ้างเรียกเงินค่าพาเข้าทหาร เลยไปขอทางบ้าน ให้มา 2 แสน นายจ้างบอกว่าไม่พอ เลยเอารถไปขาย เงินเหลือจากขายรถ 70,000 ก็โอนให้นายจ้างไป เธอบอกว่า สิ่งที่ถูกกระทำสภาพจิตใจย่ำแย่มาก จนรู้สึกว่าไม่ใช่คน ไม่สมควรที่จะอยู่บนโลกใบนี้ เพราะทำให้ครอบครัวเดือดร้อน และกลัวมาก เพราะนายจ้างบอกกับทุกวันว่า จะจัดการกับพ่อแม่ มันเลยทำให้คุณเอไม่กล้าทำอะไร และไม่กล้าหลบหนี



กระทั่งเธอรู้สึกทนไม่ไหว จึงส่งข้อความไปหาคนในครอบครัว ทั้งพ่อแม่พี่น้อง และน้าทำให้ทางครอบครัวสงสัย และมาหาเธอที่บ้าน ในอำเภอเมือง ราชบุรี เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม และเห็นรอยบาดแผล ครอบครัวจึงขอพาตัวกลับ แต่ในจ้างหญิงอ้างว่าจะต้องหาเงินจำนวน 91,500 บาทมา เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่ช่วยพาเข้าทหาร



ทีมข่าวถามว่าอยากบอกอะไรถึงนายจ้างหญิงไหม เธอบอกว่าจริงๆก็ผูกพันกันมานาน อยากให้เขายุติความรุนแรง



ด้านน้าสาว เล่าว่า หลังจากทราบเรื่อง จึงช่วยกันหาเงิน และในวันที่ 13 สิงหาคม ตนเอง จึงติดต่อประสานงานทางปลัด และอำเภอ รวมถึงตำรวจท้องที่ว่า เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น เพื่อให้เข้าไปช่วยหลานสาวออกมา จนตอนเช้าที่ไปถึงก็นำเงินจำนวนดังกล่าวไปให้ แต่นายจ้างหญิงไม่ยอม จนตอนบ่ายครอบครัวกลับไปอีกรอบ พร้อมกับประสานตำรวจท้องที่ส่งพิกัดอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงหน้าบ้านก็เห็นหลานสาวยืนอยู่หน้าบ้าน โดยมีนายจ้างยืนอยู่ข้างๆ ทางน้าสาวจึงรีบเข้าไปล็อคคอหลานสาวออกมา และโทรบอกตำรวจให้นำกำลังเข้ามา ก่อนที่จะนำตัวนายจ้างไปที่ สภ.เมืองราชบุรี



ทางด้านแม่ของคุณเอ เล่าว่า รู้สึกเอะใจตั้งแต่ลูกสาวส่งข้อความมาหา บอกว่ารักแม่และไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลได้นานเพียงใด จึงตัดสินใจไปหาที่บ้านพัก และเห็นรอยบาดแผลที่ใบหน้า เมื่อเห็นเช่นนั้นหัวใจแทบแตกสลาย ไม่รู้มาก่อนว่าลูกถูกทำร้าย และถูกทรมาน จึงรีบกลับไปปรึกษาคนในครอบครัวหาเงินมาจ่ายให้กับนายจ้างเพื่อพาลูกสาวออกมา



ซึ่งในเรื่องนี้ หลังจากได้รับการช่วยเหลือ ทางครอบครัวจึงติดต่อไปที่รายการโหนกระแส และกัน จอมพลัง เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือทางด้านคดี และให้ดำเนินการกับนายจ้างหญิงรายนี้ เพราะผู้เสียหายต้องอยู่อย่างหวาดระแวง

โดยกัน ระบุว่าก่อนหน้านี้มีโทรศัพท์ปริศนาโทรมาเตือนไม่ให้เข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่มีใครจะห้ามได้ จะต้องให้ความช่วยเหลือเหยื่อรายนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม และอยากทราบว่าคนที่จะไปช่วยเหลือทางฝ่ายนายจ้างหญิงนั้นเป็นใคร เพราะถือว่าเข้าข่ายสนับสนุนการใช้ความรุนแรง ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/7tMC-49eAL0

คุณอาจสนใจ

Related News