สังคม

กฟน.พร้อมจ่ายเต็มที่ หากหม้อแปลงเป็นเหตุ “ไฟไหม้สำเพ็ง” ย่างสด 2 ศพ เสียหายกว่า 10 ล้าน

โดย pattraporn_a

27 มิ.ย. 2565

158 views

ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ที่สำเพ็งเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ล่าสุดทางสำนักงานเขตมีคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร 2 ห้อง เพราะถูกไฟไหม้เสียหายหนัก ด้าน ผู้ว่า กฟน.เผย หากผลพิสูจน์ยืนยันเกิดจากหม้อแปลง ยินดีชดใช้เต็มที่ หลังเจ้าของอาคารเตรียมฟ้องค่าเสียหายหลายสิบล้าน ขณะที่ญาติผู้ตายจากเหตุเพลิงไหม้ในตลาดสำเพ็ง ติดต่อรับศพประกอบพิธีทางศาสนา เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ และป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำ


จากเหตุเพลิงไหม้ร้านขายถุงพลาสติก ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ ตั้งอยู่ริมถนนราชวงศ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตภายในอาคาร 2 ราย เป็นลูกจ้างของร้าน และยังมีผู้บาดเจ็บอีกรวม 11 ราย ซึ่งสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด ล่าสุด ครอบครัว น.ส.จิราพัชร สุ่มมาตร์ อายุ 52 ปี พนักงานแคชเชียร์ ของร้านจำหน่ายถุงพลาสติก ย่านตลาดสำเพ็ง ที่ถูกเพลิงไหม้เมื่อวานนี้ เดินทางมาติดต่อรับร่างของผู้ตาย ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้นำร่างมาลงโลงศพที่เตรียมไว้ บรรจุลงโลง พร้อมนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธี ก่อนขึ้นรถตู้ออกไป


ญาติได้เดินทางไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ หน้าร้านจำหน่ายถุงพลาสติก ตลาดสำเพ็ง โดยมีพี่สาวของผู้ตายเป็นผู้ถือกระถางธูป โดยมีเจ้าของร้านที่เกิดเหตุ และผู้ค้าละแวกใกล้เคียง มาร่วมพิธีด้วย ซึ่งทันทีที่ครอบครัว และญาติๆ เห็นสถานที่เกิดเหตุถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ญาติๆ เอ่ยปากขณะทำพิธีว่า "มารับกลับบ้านแล้วนะ" ก่อนที่จะร้องไห้ และโอบกอดกัน


ญาติได้นำร่างของ น.ส.จิราพัชร มาประกอบพิธีทางศาสนาที่ศาลา 3 วัดอ่างแก้ว แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ เพื่อมาประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืน ก่อนที่จะฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีนี้ โดยทีมข่าวพูดคุยกับคุณปางสิมา สุ่นมาตร์ น้องสาวผู้ตาย เล่าว่า เมื่อวานนี้ เมื่อทราบข่าวไฟไหม้ ก็รีบไลน์หาพี่สาว


โดยโทรไลน์หาตอนประมาณ 12.56 น. ก็ไม่มีคนรับ ก่อนที่จะส่งข้อความไปหาว่า โทรกลับมาหน่อย เป็นห่วง โทรติดต่อไม่ได้เลย พร้อมส่งข้อความว่า เป็นไงบ้าง ปลอดภัยดีมั้ย แต่พี่สาวกลับไม่ตอบข้อความ ตอบไลน์เลย ซึ่งผิดปกติของพี่สาวที่จะตอบข้อความ และรับโทรศัพท์ตลอด ตอนแรกเข้าใจว่าพี่สาวกำลังขนข้าวของหลบหนีอยู่


กระทั่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย มาแจ้งว่า พบร่างผู้เสียชีวิต ความสูงใกล้เคียงกับพี่สาวตน ประกอบกับเจ้านายพี่สาวบอกว่า ยังติดต่อไม่ได้ คาดว่าติดอยู่ในร้าน ตนจึงมั่นใจว่าจะเป็นพี่สาวตนแน่นอน แต่ที่เสียใจคือ ก่อนหน้านี้มีคลิปที่มีประกายไฟมาก่อน ทำไมพี่สาวไม่ออกมา และเสียใจกับ เพชร คนงานชาวกัมพูชาที่เสียชีวิตอีกราย ที่วิ่งเข้าไปช่วยพี่สาวตน และอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเมื่อวานไม่ไปทำงาน พี่สาวก็คงจะไม่เป็นอะไร


ด้าน น.ส.อนงค์วรรณ สุ่มมาตร์ พี่สาวผู้ตาย สันนิษฐานว่า ที่น้องสาววิ่งออกมาได้ เพราะมีควันเป็นจำนวนมาก ประกอบกับข้างในมีเชื้อเพลิง จึงคิดว่าน่าจะหนีไปด้านบน แต่ไปไม่ถึง เสียชีวิตอยู่ชั้น 2 ซึ่งแสดงว่าเพลิงแรงและเร็ว ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับผิดมอบมากกว่านี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หม้อแปลงระเบิด ไม่ใช่เฉพาะที่สำเพ็ง แต่ที่อื่นก็มีเยอะ แต่ไม่เคยเกิดแต่เหตุการณ์นี้ มันสูญเสียเรียกร้องกลับมาไม่ได้ ไม่อยากให้เกิด เมื่อเกิดแล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบ ควรให้แก้ไข ปรับปรุง อย่าทำแบบมักง่าย


ขณะที่นายสุรชาติ กิตติฤดีกุล เจ้าของร้านจำหน่ายถุงพลาสติก ระบุว่า ศพของนายเพชร ชายชาวกัมพูชา ที่เสียชีวิต ยังไม่สามารถรับศพได้ในวันนี้ อยู่ระหว่างการทำเรื่องกับทางสถานทูตกัมพูชา โดยจะต้องให้ญาติ ซึ่งอาศัยอยู่ที่กัมพูชา ทำใบมอบอำนาจส่งมาที่สถานทูต แล้วจึงจะประสานติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศล และวันพรุ่งนี้ ได้นัดผู้เสียหาย และครอบครัวผู้เสียชีวิต มาปรึกษากับ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ในการดำเนินการหลังจากนี้ โดยเฉพาะการเรียกร้องค่าเสียหาย และดำเนินการทางคดี


ทีมข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับ พ่อค้าตลาดสำเพ็งที่อยู่ใกล้เคียงละแวกที่เกิดเหตุ บอกว่า หม้อแปลงนี้มักจะมีควันพุ่งขึ้นมาบ่อยครั้ง และก็จะเรียกเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาดู กระทั่งมื่อวันศุกร์ หม้อแปลงมีไฟลุกขึ้นมา แต่ชาวบ้านช่วยกันดับได้ทัน พอแจ้งการไฟฟ้าไปเจ้าหน้าที่ถึงเข้ามาซ่อมเช้าวันอาทิตย์ และก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ซึ่งหม้อแปลงไฟฟ้าที่ละแวกนี้ ค่อนข้างเก่ามากแล้ว อยากให้เข้ามาดูแก้ซ่อมบำรุง รวมถึงแก้ปัญหา เรื่องสายสื่อสารที่พันกันยุ่งเหยิงด้วย


และวันนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน , สภาวิศวกร พร้อมด้วย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. , การไฟฟ้านครหลวง และสำนักงานเขต ลงพื้นที่ ตรวจสอบโครงสร้างของอาคาร โดยใช้เวลาราว 30 นาที


ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ บอกว่า อาคารภายในเสียหายเกือบ 100 เปอร์เซนต์ โดยเฉพาะห้องที่ 2 และ 3 ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายถุงพลาสติก ได้รับความเสียหายมากที่สุด เพราะผนังของอาคารเป็นอิฐก่อเสริมโครงเหล็ก เพื่อทำเป็นชั้นวางของ เมื่อเจอความร้อน เหล็กจึงเสียรูป ทำให้พื้นแอ่นตัวลามไปจนถึงชั้น 3 และความร้อนยังแผ่ไปจนถึงผนังด้านหลังอาคารจนบิดตัวเช่นกัน ส่วนห้องที่ 3 ที่อยู่ใกล้กับหม้อแปลง ความเสียหายไม่มาก เพราะโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังจากนี้ต้องตรวจสอบตามหลักวิศวกรเพื่อปรับปรุง


สอดคล้องกับข้อมูลสำนักการโยธา กทม. ยืนยันว่าตัวโครงสร้างอาคารไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ต้องรื้อถอนทิ้ง โดยต้องทำการค้ำยันกันฝ้าและผนังอาคารทรุดตัว ส่วนตึกพาณิชย์ที่อยู่ตรงหม้อแปลง ความเสียหายน้อย เพราะเป็นอาคารเสริมเหล็ก ตอนนี้จุดเกิดเหตุกั้นเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่เด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนให้อยู่ห่างจากอาคารเท่าที่ทำได้


นางสาว อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเขต สัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เสียหายทั้งหมด 4 คูหา มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเร่งสำรวจสายไฟเก่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า และจะเชิญการไฟฟ้ามาประชุมร่วมกัน เพื่อตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้าในพื้นที่ว่ามีจุดไหนเก่าหรือชำรุดอีกหรือไม่


ด้านนาย วิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ยืนยันว่า หม้อแปลงลูกดังกล่าวไม่ได้เปิดใช้งานมา 10 วันแล้ว เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบระบบภายในและสายไฟที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มาเตรียมการเปิดใช้งาน เพื่อให้กระแสไฟเข้าสู่ระบบ แต่ในช่วงระหว่างเดินทางกลับไปเพื่อรายงาน ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟดับ และเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งขณะนี้ได้เคลื่อนย้ายหม้อแปลงไปตรวจสอบที่การไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบแล้ว


ส่วนผู้เสียหายที่บอกว่าจะฟ้องร้องเรียกเงินกว่า 10 ล้านบาท นายวิลาส บอกว่า ขอให้เข้ามาคุยกันก่อน เพราะต้องพิสูจน์สาเหตุของการเกิดเหตุ หากเป็นความผิดพลาดของการไฟฟ้าจริง ก็ยินดีที่จะเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับกระทบโดยตรงจากเหตุหม้อแปลงขัดข้อง


ส่วนความคืบหน้าทางคดี พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบา กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.จักรวรรดิ์ สอบปากคำไปแล้ว 5 คน ทั้งผู้ที่อยู่ในร้านค้า รวมทั้งผู้ที่เห็นควันไฟออกมาจากหม้อแปลงก่อนเกิดเหตุ หลังจากนี้จะเชิญเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาให้ปากคำด้วย ส่วนต้นเพลิงเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากที่หม้อแปลงไฟฟ้า แต่ต้องผลผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ และตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาประกอบด้วย


สำหรับผู้เสียชีวิต 2 ศพ คือ นางสาว จิราพร สุ่มมาตร์ จะได้รับค่าทำศพจากกองทุนเงินทดแทน จำนวน 50,000 บาท ค่าทดแทนการขาดรายได้ 1,260,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 134,653 บาท พร้อมดอกผล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,444,653 บาท ส่วนลูกจ้างชาวกัมพูชา จะได้รับค่าทำศพจากกองทุนเงินทดแทนจำนวน 50,000 บาท ค่าทดแทนการขาดรายได้ 722,904 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ 17,512 บาท พร้อมดอกผลเป็นเงินทั้งสิ้น 790,416 บาท


ขณะที่การประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานครนานกว่า 2 ชั่วโมง หนึ่งในหัวข้อสำคัญ คือถอดบทเรียนเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ในกทม.ทั้งที่อาคารพาณิชย์ย่านสำเพ็ง และไฟไหม้ชุมชนบ่อนไก่


โดย คุณชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า บทเรียนที่สรุป มี 2 ส่วน ส่วนแรกคือ สาเหตุเกิดเพลิงไหม้ เกิดจากหม้อแปลงร้อนและระเบิด อีกทั้ง จุดนี้มีสายไฟ สายสื่อสาร ที่รกรุงรังและจุดที่ลุกไหม้อยู่ใกล้ตัวอาคารที่มีพลาสติกจำนวนมาก เบื้องต้นได้ประสานกฟน.สำรวจสภาพและอายุการใช้งาน หม้อแปลงขนาดใหญ่ ในกรุงเทพชั้นในที่มีอยู่ กว่า 400 หม้อแปลง ส่วนสายสื่อสารได้ประสานทางกสทช.ให้เร่งเอาสายลงดิน


 ส่วนที่ 2 การเข้าพื้นที่เผชิญเหตุ ต้องจัดระเบียบให้ดีขึ้น ระหว่างหน่วยอาสากับผู้บัญชาการเหตุการณ์ ว่าใครเป็นผู้บัญชาการเหตุ และรถน้ำควรฉีดอย่างไร เหตุการณ์ที่ผ่านมา ที่ทุกหน่วยงานรุมกันฉีดน้ำเข้าไปที่อาคาร อาจจะเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เพราะ แต่หลักที่ควรทำควรหาต้นเพลิงและฉีดน้ำไปที่ต้นเพลิงมากกว่า ดังนั้น กทม.จะเร่งทำแผนในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว


ส่วนบทเรียนไฟไหม้ชุมบ่อนไก่ คุณชัชชาติ สรุปว่า เกิดจากบ้านหลังแรกที่ไฟช็อต จากนั้นไฟลุกลามไปจุดอื่นอย่างรวดเร็ว เพราะส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ติดไฟง่าย ในช่วงเพลิงไหม้มีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมปฏิบัติงาน มีการแจ้งอาสาสมัครในชุทชน แต่เวลา 13.07 น. แต่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ผ่านไป 5 นาที สถานีดับเพลิงจึงได้รับแจ้งเหตุ ถึงได้เข้าพื้นที่ จึงเป็นเรื่องการแจ้งเหตุที่มีปัญหา เป็นบทเรียนให้กับชุมชน


อีกปัญหาสำคัญ คือ ไม่มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ ควรต้องปรับปรุง และตั้งศูนย์บัญชาการสั่งการในจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การปฏิบัติงานได้รวดเร็ว ทั้งนี้จะสำรวจจุดหนาแน่น จุดเสี่ยงใน กทม.และสำรวจความพร้อมของประปาหัวแดง เมื่อเกิดเหตุ จะปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/rR7BH03gNYs

คุณอาจสนใจ

Related News