คอลเซ็นเตอร์โทรหา 'สรยุทธ' ร้องไห้อยากกลับบ้าน ผบช.สอท.ย้ำกลับไทยโดนดำเนินคดีทุกราย

คุณสรยุทธ คุยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดใจหมดจะร้องไห้ อ้างกลับไทยไม่ได้ เพราะไม่มีเงินจ่าย ทางด้าน ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เผย คนไทยที่ไปทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ส่วนใหญ่รู้ว่าไปทำงานอะไร หากโดนจับได้จะถูกส่งตัวกลับไทย และต้องถูกดำเนินคดีที่ไทยต่อ

วานนี้ (27 มี.ค. 65) หลังจากที่คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้จัดรายการข่าวเสร็จ ได้พักผ่อน ทีมงานซึงกำลังเตรียมงานได้รับสายเรียกเข้าจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งปลายสายได้บอกว่ามีพัสดุส่งมา ทีมงานจึงได้ตอบกลับไปว่าทำไมถึงมาทำแบบนี้ ด้านปลายสายซึ่งเป็นผู้หญิงได้ตอบกลับมาทันทีว่า "คิดว่ามีทางเลือกอะไรหรอ" จากนั้นทีมงานจึงได้ส่งโทรศัพท์ให้สรยุทธได้คุย

ซึ่งเมื่อพิธีกรดังได้คุย คอลเซ็นเตอร์จำเสียงได้ สรยุทธจึงได้ถามถึงความเป็นมาเป็นไป ปลายสายได้บอกว่าอยู่กันตรงนั้นหลายคน ซึ่งทางนั้นบอกว่า เขาได้ถามข้อมูลอะไรไหม บอกได้เลยว่าไม่ แต่มันมีข้อบังคับว่า ’ต้องโทร’

ปลายสายบอกว่า โดนบังคับให้ทำ ซึ่งทางนั้นก็จะมีการรวมกันของกลุ่มคน แล้วก็มีหน้าที่ให้ว่า ต้องโทร และได้บอกว่า ต้องคุยกับเหยื่อ แล้วก็ตัดสายวางไป จะได้ถือว่าได้ทำหน้าที่ในการโทรหาคนเสร็จแล้ว ซึ่งตนเคยโทรบ่ายเบี่ยงวันละ 400 สาย

และยังบอกอีกว่า เดี๋ยวนี้ไม่มีใครหลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว บางวันมีคนหลงกลโอนให้แค่หลักพัน หลักร้อย ตนก็ไม่อยากทำ แต่ต้องทำเพราะค้างเงิน 15,000 บาท เป็นค่าลาออก สมัครใจไปทำนะ คิดว่าทำงานแอดมินออนไลน์เว็บพนัน ไม่ได้คิดว่าจะได้ทำเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตนจะติดต่อขอความช่วยเหลือก็ไม่มีสัญญาณ เพราะอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้ดูข่าวสาร ซึ่งจะมีเงินเดือนให้ แต่จะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น หากหลอกเหยื่อไม่สำเร็จ ตอนนี้เหลือพนักงานประมาณ 30 คน จากเริ่มต้นที่มีเป็นร้อยคน คนที่เหลือส่วนใหญ่เลือกที่จะหยุดงาน และแจ้งลาออกทั้งหมด ซึ่งต้องรอตามคิว และต้องขอวางสาย เพราะคุยนาน อาจผิดสังเกต และอาจถูกจับได้ ซึ่งหลังคุยเสร็จต้องลบสายออกจากระบบ

ทางด้าน พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวถึงกรณีคนไทยที่อ้างว่าถูกหลอกให้ไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา แล้วอยากขอความช่วยเหลือ จะกลับประเทศไทยว่า บอกว่า เปอร์เซนต์ของคนที่ถูกหลอกไปจริงๆ ถือว่ามีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะสมัครใจไปทำงานโดยรู้ว่าเป็นการไปแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่การถูกหลอก คือหลอกว่าไปทำงานด้านอื่น ไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น

หากคนที่ไปแล้วรู้สึกว่าเดือดร้อน อยากกลับประเทศไทย สามารถที่จะติดต่อไปที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศกัมพูชาได้ โดยแจ้งรายละเอียดและความประสงค์ไป จากนั้นทางสถานทูตฯ จะติดต่อประสานงานกับหน่วยงานของทางการไทยให้เข้าไปช่วยเหลือ แต่ต้องให้ข้อมูลเรื่องสาเหตุที่ไม่สามารถเดินทางกลับออกมาได้ตามความจริง

ที่สำคัญหากกลับมาแล้วต้องถูกดำเนินคดีหรือไม่ ต้องมาพิจารณากันตามข้อกฎหมายว่า ไปทำหน้าที่อะไร มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับขบวนการอย่างไร และที่ผ่านมากว่า 90% มีความผิดที่ต้องดำเนินคดีแทบทั้งหมด ส่วนมากคนที่ทำหน้าที่โทรศัพท์มาแอบอ้างหลอกลวง ถือว่ามีความผิดเรื่องการสนับสนุนการฉ้อโกง แต่กฎหมายก็ให้ความเป็นธรรม โดยจะพิจารณาโทษหนักเบาตามเจตนาลดหลั่นกันไป แต่ไม่สามารถละเว้นได้

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/VeCOCtMrDDs