โจรใบ้ตระเวนลัก จยย. นอนคุกไร้คนประกัน ตร.ต้องใช้ล่ามภาษามือช่วยแปล

เจ้าของรถดีใจ ตำรวจรวบชายใบ้ตระเวนขโมยมอเตอร์ไซค์ คืนเดียว 2 คันรวด หลังขยายผลจับกุมถึงกับผงะ เจอมอเตอร์ไซค์ถูกขโมยซุกอีกหลายคัน


กล้องวงจรปิดหน้าบ้านหลังหนึ่ง เผยให้เห็นเหตุการณ์ช่วงกลางดึกของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ชายรูปร่างผอมสูง สวมหมวกแก๊ปสีขาว ใส่เสื้อแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงขายาวสีขาว เดินเข้าไปที่มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าเวฟ สีแดงขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน ที่จอดอยู่หน้าบ้านของนายไชยันต์ ทองสุวรรณ อายุ 40 ปี ช่างไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอทุ่งใหญ่ ที่อยู่ในตลาดเทศบาล ตำบลท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช แล้วขับหลบหนีไป


ห่างกันไม่ถึง 2 ชั่วโมง ชายคนเดิมยังใช้กุญแจผีไปขโมยมอเตอร์ไซค์คาวาซากิ สีดำ ทักซิโด ทะเบียน ขฉท 346 นครศรีธรรมราช ของนายสมพจน์ ขวัญเมือง อายุ 68 ปี อยูที่ซอยพุทธรักษา ต.ท่ายาง กระทั่งตอนสายวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้เสียหายทั้ง 2 คน ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ทุ่งใหญ่


หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามจุดที่คาดว่า คนร้ายน่าจะใช้หลบหนียังไม่ทันเจอที่ซ่อน กลับมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแส ว่า เจอมอเตอร์ไซค์ซูซุกิคริสตัล สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน ถูกจอดทิ้งไว้ริมถนนหน้าธนาคารกสิกรไทย มาข้ามคืนแล้ว ตำรวจจึงไปยึดจอดที่โรงพักเพื่อตามหาเจ้าของรถ


จากนั้นก็มีคนเห็น นายอำพล ชัยสิทธิ์ อายุ 51 ปี ชาว อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช มาเดินวนเวียนอยู่ที่หน้าธนาคารกสิกรไทย เหมือนมองหามอเตอร์ไซค์คันที่ตำรวจยึดไป ดูท่าทางมีพิรุธ จึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ แต่เมื่อตำรวจไปถึงก็คุยกับนายอำพลไม่รู้เรื่อง เพราะนายอำพลเป็นใบ้ จึงนำตัวมาที่ สภ.ทุ่งใหญ่


จากนั้นได้นำคลิปวีดีโอวงจรปิดคนร้ายขโมยมอเตอร์ไซค์ ที่มีผู้เสียนำมาแจ้งความ เพื่อเปรียบเทียบดู ปรากฏว่ามีลักษณ์คล้ายนายอำพลมาก จึงไล่เช็กกล้องวงจรปิดว่า พบว่า นายอำพลขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามอำเภอ ไปซุกไว้ที่บริเวณขนำไม่มีเลขที่ในสวนยางพารา หมู่ 3 บ้านหนองน้ำขาว อ.นาบอน


เมื่อตำรวจตามไปตรวจสอบถึงกับผงะ เพราะไปเจอมอเตอร์ไซค์จอดอยู่อีก 4 คัน ในจำนวนนี้มีรถ 2 คัน ที่ถูกขโมยเมื่อคืนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ด้วย จึงยึดมาตรวจสอบทั้งหมด พร้อมคุมตัวนายอำพล ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน และรับของโจร


แต่ตำรวจไม่สามารถสอบปากคำผู้ต้องหาได้ จำเป็นต้องหาล่ามภาษามือมาช่วยแปล กระทั่งนายอำพลยอมรับสารภาพว่า ลงมือทำคนเดียว และขโมยมอเตอร์ไซค์มาเพียง 2 คัน เหตุเกิดกลางดึกของวันที่ 12 กุมภาพันธ์  ส่วนมอเตอร์ไซค์อีก 3 คัน ได้ซื้อมาจากเพื่อนคันละ 3,000 บาท และซื้อเครื่องชิ้นส่วนอะไหล่ให้ร้านช่วยซ่อมประกอบให้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ


ส่วนผู้เสียหายทั้ง 2 รายหลังตำรวจจับคนร้ายได้ และได้รถกลับคืนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ขอขอบคุณตำรวจที่ทำงานจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่ทันข้ามวัน

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/vRag6eHpkw4