ชายเมาขับชนแล้วหนี อ้างเป็นรองอธิบดี ล่าสุดยันแล้วเป็น 'ผู้พิพากษาศาลยุติธรรม'

จากข่าวเหตุการณ์ที่ชายเมาขับท่านหนึ่งไปเฉี่ยวชนรถคันอื่นแล้วหนี จากนั้นอ้างตัวเป็นรองอธิบดีภาค 5 ซึ่งต่อมาโฆษกศาลยุติธรรมออกมายืนยันแล้วว่าเป็นผู้พิพากษา ล่าสุดชายคนดังกล่าวยังเก็บตัวเงียบ ไม่สามารถติดต่อได้

กรณีชายวัย 59 ปี ขับรถยนต์อีซูสุ มิวเอ็กซ์ สีเทา ย้อนศรไปชนกับรถตุ๊กตุ๊ก บริเวณสี่แยกแสงตะวัน ถนนช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ แล้วได้ขับรถหนี ก่อนจะไปเฉี่ยวชนกับกู้ภัยที่ขับรถตามอีก 1 ครั้ง เป็นอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แล้วยังขับหนีเป็นรอบที่สอง กู้ภัยคันเดิมต้องขับรถไล่ตามไปอีกประมาณ 500 เมตร ก่อนตัดสินใจขับปาดหน้า จึงสามารถหยุดรถไว้ได้

จากนั้นกู้ภัยได้ลงจากรถไปพูดคุยอีกครั้ง พร้อมสอบถามว่า ขับรถชนแล้วหนีได้อย่างไร ทำไมไม่จอดรอร้อยเวรในที่เกิดเหตุ แล้วยังอ้างว่าเป็นรองอธิบดีภาค 5 อีก ทำแบบนี้ได้อย่างไร กลับถูกคู่กรณีสวนกลับมาว่า ไร้สาระ

ระหว่างนั้นก็มีตำรวจสายตรวจตามมาสมทบ พร้อมกับเรียกคนขับรถอีซูสุ มิว เอ็กซ์ ลงจากรถมาคุย

คราวนี้ชายคนดังกล่าว อ้างกับตำรวจว่า ไม่ได้หนี แต่บอกตั้งแต่ที่เกิดเหตุแล้วว่า ให้ไปคุยกันที่โรงพัก ตนเป็นรองอธิบดี ตนจะหนีทำไม แล้วพยายามจะขึ้นรถขับออกไป แต่ตำรวจบอกว่า ให้รอร้อยเวรที่เกิดเหตุ ชายคนนี้ก็บอกว่า งั๊นกลับไปรอที่เกิดเหตุ โดยพยายามจะขับรถออกไปให้ได้

สุดท้ายรู้ตัวว่าหนีไม่ได้แล้ว แถมยังถูกถ่ายคลิปมาเยอะ จึงเดินมาบอกคนถ่ายคลิปว่า ฝากเอาเรื่องนี้ไปลงด้วยนะ ตนรณรงค์เรื่อง พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ หากเจอกรณีคนเมาแล้วขับ ให้ยึดรถไปขาย นำเงินเข้าหลวง อย่างกรณีรถเฟอรารี่ราคา 20 ล้านบาท เมาขับไปชนคนตาย ให้ยึดเงิน 10 ล้านเข้าหลวง อีก 10 ล้าน ไปเยียวผู้เสียหาย พร้อมย้ำว่า อย่าลืมเอาไปลงให้พี่นะ

จากนั้นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้พาคู่กรณีทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพัก โดยพันตำรวจเอก ภูวนาท ดวงดี ผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงใหม่ เผยว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุ เป็นชาวสมุทรปราการ อายุ 59 ปี ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้คนขับรถตุ๊กตุ๊ก เป็นเงิน 1,000 บาท เคสนี้จบไปแล้ว เหลือเพียงคดีเมาแล้วขับ และคดีเฉี่ยวชนกับนายไพโรจน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ยังเจรจาไม่ลงตัว โดยจะนัดมาเจรจากันอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่แจ้งข้อหาใด ๆ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

ด้านนายไพโรจน์ อายุ 32 ปี กู้ภัยในคลิป ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้พาไปดูรถเก๋งส่วนตัวที่ถูกชน จนมีรอยขีดข่วน และประตูบุบ พร้อมเล่าว่า เหตุเกิดช่วง 5 ทุ่ม ของวันที่ 28 ธันวาคม ตนเองเข้าเวรเฝ้าระวังเหตุ 7 วันอันตราย อยู่ที่สี่แยกแสงตะวัน ได้รับแจ้งอุบัติเหตุ จึงรีบไปตรวจสอบ แต่รถอีซูสุมิวเอ็กซ์ขับรถหนี ตนขับตามจึงเกิดการเบียดกันเกิดขึ้น แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป ตอนไปถึงโรงพัก คู่กรณีไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพราะยืนยันว่าตนเองเป็นผู้เสียหาย

ขณะที่ นาย สรวิศ ลิปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม ยอมรับว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้พิพากษาศาลยุติธรรม และกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ทั้งจากข้อมูลของตำรวจและประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ล่าสุดทีมข่าวพยายามติดต่อไปที่ผู้พิพากษาศาลท่านนี้ ก็ยังติดต่อไม่ได้

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Zxp6fSt9FAM