ดีเดย์ เปิดร้านแบบผ่อนคลายมาตรการ ผู้ประกอบการหวังประคองธุรกิจ

สำรวจบรรยากาศร้านอาหาร ร้านตัดผมที่เปิดให้บริการวันแรก หลังผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิดในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หลายร้านหวังว่าจะช่วยให้มีรายได้ประคองธุรกิจเดินต่อไปได้

ร้านอาหารญี่ปุ่น ชินโซโคะ ซูชิ (SHINSOKO SUSHI) ย่านสุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นร้านห้องแอร์ เจ้าของร้าน เล่าว่า ร้านมีมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ จัดร้านปรับลดจำนวนโต๊ะเหลือครึ่ง จากนั่งทาน 4 คน ทางร้านจะให้นั่งเพียง 2 คน พร้อมทั้งยกโต๊ะที่หนาแน่นออกไปร้อยละ 50 เพื่อไม่ให้อัดมากนัก แต่ละโต๊ะห่าง 2 เมตร และมีฉากกันแยกเป็นสัดส่วน ให้เหลือนั่งได้ร้อยละ 50 ตามมาตรการของรัฐ

ส่วนโซนโต๊ะอาหารและโซนทางเดิน จะมีฉากม่านขนาดใหญ่แยกออกจากนั้น เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสบายใจมากขึ้น ภานในร้าน ยังมีพัดลดูดอากาศ 3 ตัว ที่ดูดอากาศออกสู่ภายนอกตลอดเวลา ดังนั้นขอให้ลูกค้ามั่นใจ เรื่องความปลอดภัย ส่วนลูกค้าก็ต้องปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดด้วย หากมีอาการส่อติดเชื้อก็จะเชิญออกจากร้านทันที

ในส่วนของพนักงานได้ให้สลับทำงานคนละ 20-25 วัน จากเดิมจะทำเต็มเดือน สลับกันหยุด เพราะร้านเปิดให้บริการทุกวัน และเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่รายได้ลดลง พร้อมขอบคุณภาครัฐ ที่ยกเลิกให้ลูกค้าต้องนำผลฉีดวัคซีนและผลตรวจ ATK มายืนยันก่อนนั่งทานในร้าน ไม่เช่นนั้นจะต้องทะเลาะกันแน่นอน ทั้งนี้ให้มาตรการนี้ผ่านไปด้วยดี ยอดขายจะได้เพิ่มมาเป็น 50-60 ก็ยังดี ให้เพียงพอกับรายจ่ายที่มีแต่ละเดือน

ขณะที่ร้านตัดผม  เพชรบาร์เบอร์ ปากซอยอุดมสุข 9-11 กลับมาเปิดให้บริการเป็นวันแรก หลังจากต้องปิดให้บริการมา 2 เดือน 

เจ้าของร้านเล่า สามี-ภรรยา เปิดร้านตัดผมมากว่า 20 นี้ โควิดครั้งนี้กระทบหนักที่สุด โดยเปิดร้านวันแรกให้กลับมาตัดผมได้ ยังไม่มั่นใจว่าจะถูกสั่งปิดอีกหรือไม่ เลยยังไม่ตามช่างประจำร้านที่อยู่ต่างจังหวัดกลับมา ตอนนี้ตัดกัน 2 คน สามี-ภรรยาก่อน จากปกติจะตัดกันทั้งหมด 4 คน ทั้งนี้ได้ขอความมั่นใจว่า รัฐบาลจะไม่สั่งปิด และการเปิดครั้งนี้ หวังว่า จะช่วยให้ลูกค้ากลับมาได้อย่างน้อย ร้อยละ 50 ก็ยังดี เพราะลูกค้าที่มาตัดผม จะใช้การโทรจองคิวล่วงหน้า ไม่ให้ลูกค้ามานั่งรอในร้าน

ส่วนการป้องกัน ลูกค้าทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนช่างตัดผมเองก็ต้องสวมหน้ากากอนามัยและสวมถุงมือตลอดเวลา แม้จะกังวลจะติดโควิด เพราะชุมชนรอบร้านติดเชื้อจำนวนมาก แต่การเปิดร้านก็ยังดีกว่า ไม่มีรายได้เลย

ด้าน อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า หลังประเมินผลมาตรการนี้ 1 เดือน ต้องให้พนักงานผู้ให้บริการฉีดวัคซีนครบโดส หรือเคยติดเชื้อโควิด-19 ในช่วง 1 - 3 เดือน มีผลรับรองการตรวจ เอทีเค หรือ Rt PCR และให้ตรวจคัดกรองทุก 7 วัน ส่วนลูกค้าต้องตรวจคัดกรอง ก่อนเข้าร้าน หากเป็นร้านอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศ ต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบโดส ตรวจเอทีเคเป็นลบใน 7 วัน โดยจะบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/9ic3EFkdkTs