สังคม

ปิดฉากคดี 'ลุงวิศวะ' ศาลฎีกาแก้โทษ รอลงอาญา 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี

โดย pattraporn_a

17 มิ.ย. 2564

59 views

คดีลุงวิศวะ ยิงวัยรุ่นอายุ 17 ปี เสียชีวิตที่อ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ก็เดินทางมาถึงศาลสุดท้ายแล้ว หลังต่อสู้กันมาเกือบ 5 ปี ศาลฏีกาพิพากษาแก้โทษ จากจำคุก 10 ปี เป็นจำคุก 5 ปี ให้รอลงอาญา 3 ปี และคุมความประพฤติ 2 ปี


คดีนี้มีนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 56 ปี หรือลุงวิศวะ เป็นจำเลย ในความผิดฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยก่อเหตุยิงนายนวพล ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เสียชีวิต จากเหตุทะเลาะวิวาทกันเรื่องที่จอดรถ ใกล้ตลาดอ่างศิลา อำเภอเมืองชลบุรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560


ปี 61 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 15 ปี ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธ แต่เนื่องจากจำเลยไม่ได้มีจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงโจรผู้ร้าย เพียงแต่ขาดสติยั้บยั้งชั่งใจในการควบคุมตน จึงลดโทษให้หนึ่งในสาม ให้จำคุก 10 ปี ส่วนฐานพกพาอาวุธ ปรับ 4 พันบาท ลดกึ่งหนึ่ง เหลือ 2,000 บาท และให้ชดใช้สินไหมทดแทน 3.4 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี


จำเลยยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลุงวิศวะขอสู้ต่อในชั้นศาลฏีกา โดยยื่นประกันตัวด้วยเงินสด 8.74 แสนบาท และเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 64 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฏีกาไปแล้ว แต่จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา จึงให้ออกหมายจับ และนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้


แต่ลุงวิศวะ ก็ไม่ได้เดินทางมาเช่นเดิม มีเพียงฝ่ายโจทย์ ซึ่งก็คือ นางมณีพร ผึ่งผาย แม่ของผู้ตาย เดินทางมากับทนาย ศาลจังหวัดชลบุรี จึงอ่านคำพิพากษาศาลฏีกาลับหลังจำเลย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลย เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่น โดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เหตุคดีนี้เกิดจากฝ่ายผู้ตาย จอดรถยนต์ขวางทางรถยนต์ของจำเลย จนเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย อันเป็นความผิดของฝ่ายผู้ตายด้วยส่วนหนึ่ง การรอลงโทษให้แก่จำเลย น่าจะเป็นประโยชน์แก่จำเลย และสังคมส่วนรวม มากกว่าการลงโทษจำคุกไปเสียทีเดียว


จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ฐานฆ่าผู้อื่นโดยป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ จำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน ปรับ 6 พันบาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ให้เข้ารับการฝึกอบรมที่ีเกี่ยวกับการระงับควบคุมอารมณ์ ที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน และให้ทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ 30 ชั่วโมง เป็นอันสิ้นสุดคดีในชั้นศาล


นางมณีพร แม่ของผู้ตาย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่าน้อมรับคำพิพากษาของศาล เพราะเหนื่อยมากสู้มาตั้ง 5 ปี และอโหสิกรรมให้ฝั่งนายสุเทพ ไปตั้งนานแล้ว


ส่วนทนายบอกว่า หลังจากนี้นายสุเทพ จำเลยในคดี ต้องนำเงินค่าสินไหม จำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมๆ แล้วน่าจะประมาณ 5 แสนกว่าบาท มอบให้กับฝ่ายโจทก์ ตามที่ศาลสั่ง หากไม่ชดใช้ ก็ต้องฟ้องแพ่งต่อไป ส่วนในทางอาญาก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว สำหรับนายสุเทพ ที่ไม่มาฟังคำพิพากษาในชั้นฏีกา ศาลได้ริบเงินประกันจำนวน 8.74 แสนบาทไปแล้ว



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/EOges51sLPc

คุณอาจสนใจ

Related News