สังคม

ไทยสั่งยกระดับ 'ปิดทุกด่าน' ชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นเพื่อมนุษยธรรม-นักเรียน

24 มิ.ย. 2568

192 views

กองทัพใช้ยาแรง สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ไทย-กัมพูชา ตลอดแนว ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน


เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 กองทัพภาคที่ 1 เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด-ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1


สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด


จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฏการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scam ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง


กองทัพภาคที่ 1 ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ได้พิจารณาถึงผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย จึงให้มีมาตรการดำเนินการเพิ่มเติมในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว ดังนี้


1. งดการผ่านเข้า-ออก ของยานพาหนะทุกประเภท

2. งดการเดินทางผ่านเข้า-ออก ของประชาชน, นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และการค้าขายทุกประเภท

3. ตามข้อ 1 และข้อ 2 อนุญาตให้อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ตามความเหมาะสม และความจำเป็น เช่น ด้านการรักษาพยาบาล, การส่งต่อผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วน และด้านการศึกษาของนักเรียน รวมทั้งการดำเนินการที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน


วันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่ง (เฉพาะ) ที่ 177/2568 เรื่อง มาตรการยกระดับการควบคุมการผ่านแดน ในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์, จุดผ่านแดนถารช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์


เนื่องด้วยปัจจุบันปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกล้ำอธิปไตย ในพื้นที่ของประเทศไทย โดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อีกทั้งได้ปรากฏการก่ออาชญากรรมข้ามชาติขบวนการ Call Center และ Hybrid Scam เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพภาคที่ 2 จึงให้ยกเลิก คำสั่งกองทัพภาคที่ 2 (เฉพาะ) ที่ 136/2568 ลง 21 มิถุนายน 2568 เรื่อง อนุมัติปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และกำหนดมาตรการควบคุมการผ่านแดน บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์, จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีมาตรการ ดังนี้


1. งดการผ่านเข้า-ออก ของยานพาหนะทุกประเภท

2. งดการเดินทางผ่านเข้า-ออก ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

3. ตามข้อ 1 และข้อ 2 อนุญาตให้อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ตามความเหมาะสม เช่น ด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วน ด้านการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาในพื้นที่ การซื้อขายผักผลไม้ เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือนตามความเหมาะสมและจำเป็น เป็นต้น


เช่นเดียวกับ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ออกคำสั่ง (เฉพาะ) ที่ 1092/2568 เรื่อง มาตรการยกระดับการควบคุมการผ่านแดน ในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต่าบลเทพนิมิต อําเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตําบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ตําบลหาดเล็ก อําเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด จุดผ่อนปรนการค้า บ้านซับตารี ตําบลทุ่งขนาน อําเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี จุดผ่อนปรนการค้าบ้านสวนส้ม ตําบลสะตอน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี และ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง ตําบลนนทรีย์ อําเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด


ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคําสั่งกองทัพเรือจึงให้หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรีและหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ควบคุม การสัญจรข้ามแดนของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการตลอดจนแรงงานในพื้นที่ ผ่านจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้าทุกแห่งในพื่นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราดดังนี้


1. งดการเดินทางผ่านเข้า-ออก ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

2. งดการผ่านเข้า-ออก ของยานพาหนะทุกประเภท

3. ตามข้อ 1 และข้อ 2 อนุญาตให้อํานวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม ตามความเหมาะสม เช่น ด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วน ด้านการศึกษา นักเรียนและนักศึกษาในพื้นที่ การซื้อขายผักผลไม้ เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ตามความเหมาะสม และจําเป็น เป็นต้น


https://youtu.be/gq2mMKaEPjk

คุณอาจสนใจ

Related News