ครอบครัวเหยื่อตึกถล่ม เปิดใจหลังรับเงินช่วยเหลือ เผย สตง.ไร้เยียวยา มีแค่ช่วยงานศพ 1 หมื่นบาท

ครอบครัวเหยื่อตึกถล่ม เปิดใจหลังรับเงินช่วยเหลือจากบริษัทผู้รับเหมา เผย สตง.ไร้เยียวยา มีแค่เงินช่วยงานศพ 1 หมื่นบาท ทั้งที่เป็นต้นตอตึกถล่ม ทำโครงสร้างไม่ตามมาตรฐานจากการทุจริต มองความยุติธรรมก็ยังไม่เกิดขึ้น

ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้พูดคุยกับนายศุกมล สิทธิศร อายุ 51 ปี พี่ชายของนายวิทยา สิทธิศร อายุ 36 ปี ชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมารับมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา เปิดเผยว่า ตัวนายวิทยาเพิ่งมาทำงานที่โครงการดังกล่าวได้เดือนเศษ ตำแหน่งสุดท้ายคือเป็นช่างไฟอยู่ที่ชั้น 23 ก่อนเสียชีวิต ซึ่งทางครอบครัวเพิ่งมารับทราบว่าเจอร่างนายวิทยาเมื่อวันที่ 14 เมษายน หลังผ่านเหตุการณ์มาแล้วเกือบ 10 กว่าวัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รอคอยอย่างยาวนานและสร้างความเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบครบ 3 เดือน ทางครอบครัวก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะตัวแทนผู้รับเหมาจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ที่มอบเงินช่วยเหลืองานศพเบื้องต้นให้แล้ว 50,000 บาท รวมทั้งวันนี้ กิจการร่วมค้าทั้งไชน่า เรลเวย์ และอิตาเลียนไทย ซึ่งเป็นผู้รับเหมาโครงการ มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวละ 1 ล้านบาท

แต่สิ่งที่ตนอยากเรียกร้องให้ออกมาช่วยเหลือเยียวยามากที่สุดคือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ทั้ง ๆ ที่เป็นเจ้าบ้านเจ้าของโครงการ เพราะตั้งแต่หลังเกิดเหตุ หน่วยงานดังกล่าวไม่เคยออกมาพูดแสดงความรับผิดชอบช่วยเหลือเยียวยาใด ๆ ทางครอบครัวผู้สูญเสียสักรายเลย มีเพียงแค่เงินช่วยเหลือในงานศพแค่ 10,000 บาท แต่ตนเองมองว่า สตง. ซึ่งเป็นเจ้าบ้าน ควรจะต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะหากมองย้อนกลับไปแล้ว ต้นตอที่ทำให้อาคารหลังดังกล่าวพังถล่มลงมา ก็คือโครงสร้างที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานอันเกิดจากการทุจริต ถ้า สตง. ควบคุมโครงการให้เป็นไปตามมาตรฐานและไม่เกิดการทุจริตตั้งแต่แรก ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เสมือนว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้คือการเปิดโปงความทุจริตที่เกิดขึ้นภายใน สตง.

นายศุกมลกล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าตอนนี้หน่วยงานราชการจะเริ่มตรวจสอบโครงการอย่างกล่าวอย่างละเอียดและดำเนินคดีกับผู้รับผิดชอบโครงการหลายราย รวมทั้งวันนี้ที่ครอบครัวผู้สูญเสียจะได้รับเงินเยียวยาจากกิจการร่วมค้าผู้รับเหมา แต่ตนมองว่า ความยุติธรรมก็ยังไม่เกิดขึ้นและคงไม่ทำให้นายวิทยากับผู้เสียชีวิตอีกหลายรายฟื้นขึ้นมา ต่อให้ได้เงินจำนวนมากเพียงใด ก็ไม่สามารถทดแทนชดเชยกับสิ่งที่สูญเสียไปได้ ถ้าโครงการก่อสร้างตึก สตง. หลังนี้ไม่เกิดการทุจริตตั้งแต่แรก ก็จะไม่เกิดความสูญเสียจำนวนมหาศาลเช่นนี้ โดยหลังจากนี้ตนเองและครอบครัวผู้สูญเสียอีกหลายครอบครัวจะหารือกัน เพื่อเตรียมเรียกร้องความหาความรับผิดชอบจาก สตง. ต่อไป หากตราบใดที่ สตง. ยังไม่ถูกชดใช้รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น