สังคม

แรงมาแรงกลับ! “รักชนก” บอกไม่ไกล่เกลี่ยก็ไม่ไกล่เกลี่ย คดี “สุชาติ” ฟ้องหมิ่น ลั่นอยากเห็นคนติดคุกเหมือนกัน

โดย chutikan_o

26 พ.ค. 2568

1.4K views

แรงมาแรงกลับ “รักชนก” ไม่แคร์ บอกไม่ไกล่เกลี่ยก็ไม่ไกล่เกลี่ย คดี “สุชาติ” ฟ้องหมิ่นประมาท ลั่นอยากเห็นคนติดคุกเหมือนกัน ยันทุกช่องทางที่ทำได้ ดิฉันเอาหมด ไล่ไปดูองค์กรตรวจสอบในประเทศ ถ้าไม่ไร้เดียงสาคงรู้ว่าเป็นยังไง ยื่นวันนี้ 7 ปีจะได้พิจารณาหรือไม่ถ้าไม่ออกสื่อ ให้ประชาชนตัดสิน ฟ้องปิดปากหรือไม่


วันที่ 26 พ.ค. 2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวการเมือง ช่อง 3 ถึงกรณีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องตนเองในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่มีการพาดพิงถึงสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้าซื้ออาคาร Skyy9 ในสมัยที่นายสุชาติดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในราคา 7,000 ล้านบาท


น.ส.รักชนก กล่าวว่า ไม่ไกล่เกลี่ยก็ไม่ไกล่เกลี่ย ไม่เป็นไร แต่เธอเกินเยียวยาเรื่องอะไร ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ต้องย้อนกลับไปว่าสิ่งที่เธอโดนฟ้อง เพราะทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎรที่ได้ข้อมูลมาแล้วเอามาตีแผ่ให้กับผู้ประกันตนได้รับรู้รับทราบ ว่าสำนักงานประกันสังคมใช้เงินของผู้ประกันตนอย่างไร ดังนั้น คิดว่าสิ่งที่ทำ ทำไปเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตน เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ คำว่าเกินเยียวยาที่กล่าวหา เธอคงทำงานดีจนเกินเยียวยาหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจ


เมื่อถามว่านายสุชาติ ระบุว่า มีช่องทางอื่นที่สามารถทำได้ โดยไม่ต้องออกสื่อ เช่น การยื่น ป.ป.ช. น.ส.รักชนก กล่าวว่า ถ้าไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมืองเกินไป เราคงจะเห็นแล้วว่าองค์กรตรวจสอบของประเทศไทยมีปัญหาอย่างไร ตั้งแต่ สตง. กกต. ป.ป.ช. ถามพ่อแม่พี่น้องในตลาดทุกคน ก็สามารถบอกได้หมดว่าองค์กรตรวจสอบในประเทศไทยเป็นอย่างไร


“ถ้าดิฉันยื่นเรื่องไปวันนี้ อีก 7 ปีจะได้พิจารณาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดังนั้น สิ่งที่ดิฉันทำได้ในวันนี้เลยก็คือเอาข้อมูลมาตีแผ่ให้กับประชาชนได้รับรู้ และหูตาสว่าง ว่ามีใครทำอะไรกับเงินของพวกเขาบ้าง” น.ส.รักชนก กล่าว


เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการฟ้องปิดปากหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า การข่มขู่มันทำได้หลายแบบ สมัยก่อนอาจจะให้คนมาตาม ข่มขู่ด้วยวาจา ทำร้ายร่างกาย แต่ทุกวันนี้มีรูปแบบการควบคุมคือการฟ้องแบบ SLAPP หรือฟ้องเพื่อให้หยุดการกระทำฟ้องเพื่อปิดปาก สิ่งเหล่านี้ คนที่มีอำนาจหรือต้นทุนทางสังคมก็ใช้เป็นปกติ ในการที่จะทำให้คนที่มีต้นทุนทางสังคมที่ต่ำกว่าหยุดการกระทำ ซึ่งก็ให้ประชาชนตัดสินกันเอง ว่าเป็นการฟ้องปิดปากหรือไม่


เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ทุกช่องทางที่ทำได้ ตนเองเอาหมด


“ตอนนี้ดิฉันอยากเห็นคนติดคุกเหมือนกันนะคะ เพราะว่าหลายเรื่องก็ค่อนข้างชัดเจนว่ามีความไม่ชอบมาพากลในสำนักงานประกันสังคม ประชาชนก็ตั้งคำถามว่าทำไมที่เรา ฝ่ายค้านออกมาเปิดเผยในเรื่องต่างๆ ทำไมถึงไม่สามารถนำไปสู่การดำเนินคดีหรือทำอะไรได้มากกว่านี้” น.ส.รักชนก กล่าว


น.ส.รักชนก กล่าวต่อว่า ต้องยืนยันว่าได้ทำทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ แต่อำนาจรัฐไม่ได้อยู่ในมือเรา เธอไม่ได้อยู่ในฝั่งรัฐบาล จะได้ไปขอความร่วมมือจากตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือองค์กรอิสระ จะได้ดำเนินการให้เร็วขึ้น มันก็ติดขัดไปหมด ดังนั้น สิ่งที่สามารถขอความเห็นใจและอยู่ข้างเธอได้ก็คือประชาชน ซึ่งหลังจากทุกคนได้รู้แล้วก็อยากให้หูตาสว่าง และตระหนักเอาไว้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคม


เมื่อถามว่านายสุชาติระบุว่าฟ้องเป็นเคสแรก น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตลกแล้ว ไปลองเสิร์ช Google ได้ ไม่ใช่กรณีแรกแน่นอน เธอจำได้ว่าในอดีตก็มีการฟ้องเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เท่าที่เคยอ่านข่าว น่าจะเป็นเรื่องหมิ่นประมาทเหมือนกัน และเคยโพสต์ว่าจะฟ้องประชาชนที่สนับสนุนพรรคประชาชนที่ไปวิจารณ์จำนวน 20 คน ก็อาจจะเป็นปกติวิสัยของท่านหรือไม่ที่ทำแบบนี้บ่อยๆ ไม่รู้ว่าแก้เก้อหรือไม่ แต่คิดว่าคงร้อนรนมากพอสมควรเหมือนกัน


คุณอาจสนใจ

Related News