สังคม
ผู้ช่วย ผบ.ตร. อดีตนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความขอความเป็นธรรม ปัดรักษา "ทักษิณ"
โดย JitrarutP
14 พ.ค. 2568
304 views
ผู้ช่วย ผบ.ตร. อดีตนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ส่งทนายความยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กรณีคณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ชั้น 14 ยืนยัน ไม่ได้เป็นผู้รักษาหรือผู้วินิจฉัยเป็นเพียงผู้รายการข้อมูล
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา รับหนังสือขอความเป็นธรรมจากนายสุรินทร์ สู่สวัสดิ์ ทีมทนายความ ของพลตำรวจโทนายแพทย์โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ที่เดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เนื่องจากคณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ กล่าวว่า พลตำรวจโทนายแพทย์โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ติดต่อมาเมื่อวานนี้ ว่าวันนี้จะส่งทีมทนายความเข้ามายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ตนเองจึงได้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขทราบตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ว่าวันนี้ผู้ช่วย ผบ.ตร.จะมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม
ประเด็นที่ผู้ช่วย ผบ.ตร. รู้สึกไม่สบายใจมีทั้งหมด 8 ประเด็น จากการสอบถามข้อมูลพบว่าขณะนี้ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยังไม่ได้รับหนังสือจากแพทยสภา แต่เป็นการทราบข้อมูลจากสื่อมวลชนและอุปนายกแพทยสภา จากการแถลงข่าว สาเหตุที่ผู้ช่วย ผบ.ตร.คาดว่าตนเองเป็นหนึ่งในแพทย์ที่ถูกลงโทษ เนื่องจากผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหนึ่งในแพทย์ที่ถูกแพทยสภาไต่สวนและส่งข้อมูลให้แพทยสภาไป จึงได้ส่งทีมทนายมาขอความเป็นธรรมในวันนี้
ประเด็นหลักที่ได้หารือกับผู้ช่วย ผบ.ตร. สรุปได้ว่า สิ่งที่เป็นความอึดอัดใจของ ผู้ช่วย ผบ.ตร.คือประเด็นเรื่องภาวะวิกฤติ / ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยืนยันว่าไม่เคยพูดคำว่า “ผู้ป่วยวิกฤติ” ขนาดไหนอย่างไร ท่านเองเป็นเพียงผู้บังคับบัญชา ไม่ได้เป็นผู้วินิจฉัยโรคด้วย แต่สิ่งที่ได้รับ กลายเป็นว่ามีความเห็นของผู้บริหารแพทยสภา ระบุว่าท่านไปให้ข่าวกับสื่อมวลชน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุว่าเป็นการพูดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่ามีการรับตัวผู้ป่วยมา พร้อมทั้งดูการวินิจฉัยโรคของหมอ และดูผลทะเบียนประวัติ ที่ถูกส่งมาในช่วงที่อดีตนายกฯทักษิณรักษาตัว ในต่างประเทศ ซึ่งก็พบรอยโรคที่เกิดขึ้น
แต่ด้วยกฎหมาย PDPA และกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิผู้ป่วย จึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากบางคนมีโรคที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจได้ ดังนั้นผู้ช่วย ผบ.ตร.จึงให้ข้อมูลได้ไม่ครบถ้วน หรือให้ข้อมูลได้เท่าที่ผู้อนุญาตเท่านั้น ดังนั้นเนื้อหาสำคัญทั้ง 8 เรื่องที่ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยื่นมา คือความไม่สบายใจ เนื่องจากผู้ช่วย ผบ.ตร. ไม่ใช้ผู้วินิจฉัยโรค แต่เป็นเพียงผู้ที่รายงานข้อมูลให้สื่อมวลชนรับทราบเท่านั้น / หากความไม่สบายใจที่เกิดขึ้น นำไปสู่การถูกลงโทษ เปรียบเสมือนการประหารชีวิตการทำงานราชการ ตลอดระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมา เพราะเป็นคุณหมอที่ดูแลคนไข้ที่รักษาผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลตำรวจ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเกียรติยศและศักดิ์ศรี เพราะว่าตลอดชีวิตการทำงานได้ทำประโยชน์ต่อสำนักงานตำรวจอย่างมาก หากไม่ได้ชี้แจงหรือเปิดพื้นที่ให้บอกกล่าว ทำให้ผู้ช่วย ผบ.ตร.รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้รวบรวมเอกสารมาชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบในวันนี้
ดร.ธนกฤต กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบ ว่ามีแพทย์ถูกลงโทษกี่ท่าน เท่าที่ได้ยินมามีการพิจารณาแพทย์ 4 ท่าน และน่าจะมีแพทย์ที่โดนลงโทษ 3 ท่าน สำหรับการยื่นหนังสือของแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจท่านปัจจุบัน เมื่อวานนี้ เป็นการยื่นเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลเชิงประจักษ์ ส่วนผู้ช่วย ผบ.ตร.อดตแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นการยื่นเพื่อยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้วินิจฉัยโรค เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลที่มี ตามที่สื่อมวลชนสอบถาม ดังนั้นต้องนำเอกสารของทั้ง 2 ท่านมาดูในรายละเอียด ในเบื้องต้นผู้ช่วย ผบ.ตร.มีเรื่องที่ไม่สบายใจ 8 ข้อ แต่ของแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีเรื่องไม่สบายใจเพียง 1 ข้อ แต่ด้วยหนังสือของแพทยสภายังมาไม่ถึงกระทรวงสาธารณสุข จึงยังไม่รู้ว่าแพทยสภาได้กล่าวหาใครบ้าง ดังนั้นจึงต้องรอหนังสือของแพทยสภา มาประกอบการพิจารณากับคำร้องทั้ง 2 ท่านที่ยื่นเรื่องมาแล้ว
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ได้อธิบายให้สื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามหมอ เกี่ยวกับคำว่าวิกฤติ ของผู้ที่เข้ามารับการรักษาโรคนั้น สาระสำคัญคือโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต้องไม่สามารถรักษาโรคนั้นได้ จึงต้องส่งมาโรงพยาบาล แต่ทำการทำหัตถการ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ถือว่าทุกอย่างมีความเสี่ยง เพราะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาได้ ยกตัวอย่างเช่น เคยมีผู้ป่วยเข้าผ่าตัดนิ้วในถุงน้ำดีแล้วทำให้เสียชีวิต ดังนั้นคำว่าวิกฤติหรือไม่วิกฤติ ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์แต่ละคน แต่ทั้ง 2 ท่านที่ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมมา ยืนยันว่าไม่เคยพูดคำว่าวิกฤติเลย ดังนั้นต้องไปดูว่าสาระสำคัญในเรื่องนี้ใครเป็นคนพูด แต่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และทำงานการเมืองมา 40 กว่าปี ท่านจะไม่ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนตัว ดร.ธนกฤตเอง เป็นนักกฎหมาย มีใบประกอบวิชาชีพทนายความ มีเกียรติและศักดิ์ศรี พูดอะไรพูดตรงๆ ได้ก็ได้ ไม่ได็ก็ไม่ได้ ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่
ด้านทนายความของผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การมาวันนี้เป็นการร้องขอความเป็นธรรม ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่าไร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้คุยเนื้อหา ดร.ธนกฤตทั้งหมดแล้ว สำหรับที่ผู้ช่วย ผบ.ตร.ตัดสินใจมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะรายการเจาะลึกทั่วไทย ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ที่มีการระบุรายชื่อชัดเจน ว่าเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ถูกลงโทษ สาเหตุที่มายื่นหนังสือวันนี้ เพราะต้องการยื่นเรื่องก่อนครบกำหนด 15 วัน ที่สภานายกพิเศษ แพทยสภา ส่งความเห็นกลับไปที่แพทยสภา เพราะถ้าสภานายกพิเศษ แพทยสภา ไม่แจ้งข้อมูลอะไรตอบกลับไปที่แพทยสภา แพทยสภาก็จะยึดตามคำสั่งเดิม ซึ่งถ้าถึงตอนนั้น จะทำได้เพียงอย่างเดียวคือการฟ้องศาลปกครอง สาเหตุที่ต้องมายื่นหนังสือวันนี้ เพราะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ช่วย ผบ.ตร.ในขณะนั้น ไม่ใช้ผู้วินิจฉัย ไม่ใช่ผู้รักษา เป็นเพียงผู้รายงานข้อมูลจากแพทย์ผู้รักษา ให้สื่อมวลชนทราบเท่านั้น เป็นการรายงานข้อมูล 2 ครั้งเท่านั้น (วันที่ 22 สิงหาคม 66และวันที่ 25 สิงหาคม 66 ) พร้อมยืนยันว่า ผู้ช่วย ผบ.ตร.ไม่ได้เซ็นเอกสารเกี่ยวกับการรักษานายกฯทักษิณ แม้แต่ใบเดียว
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทักษิณชินวัตร ,แพทย์ชั้น14