สังคม

“ทรัมป์” ฉะ “เซเลนสกี” ผู้นำยูเครน ทำลายสันติภาพ หลังไม่ยอมรับให้รัสเซียยึดครองไครเมีย

โดย JitrarutP

24 เม.ย. 2568

239 views

ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ของสหรัฐอเมริกา ฉุนจัด กล่าวหาประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลรสกี ของยูเครน ว่า ทำลายสันติภาพ หลังประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมรับการยึดครองไครเมียของรัสเซีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้เขียนข้อความลงบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า ข้อตกลงในการยุติสงครามใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว แต่ประธานาธิบดีเซเลนสกี ของยูเครน กลับปฏิเสธเงื่อนไขของสหรัฐฯ ซึ่งนั้นจะไม่ทำให้เกิดอะไรขึ้นเลยนอกจากการขยายความขัดแย้ง

นายเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่รัสเซียและยูเครนจะต้องยอมรับเงื่อนของสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้น สหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากกระบวนการนี้ แวนซ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่อินเดียว่าข้อเสนอของสหรัฐฯ ระบุว่าทั้งสองประเทศจะต้องยุติการยึดครองดินแดน “ในระดับที่ใกล้เคียงกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน” และ “ยุติข้อพิพาททางการทูตที่จะนำไปสู่สันติภาพในระยะยาว” และว่าวิธีเดียวที่จะหยุดการสังหารได้จริงๆ คือ กองทัพทั้งสองต้องวางอาวุธและหยุดการยุดครองนี้

แหล่งข่าววงในหลายแห่งระบุว่าข้อเสนอของสหรัฐฯ นั้นไม่เพียงแต่เสนอให้ยูเครนยอมรับการผนวกไครเมีย แต่ยังให้ยอมรับการควบคุมดินแดน 20% ของยูเครนที่รัสเซียได้ไปจากการทำสงคราม ขณะเดียวกัน ยูเครนต้องล้มเลิกความตั้งใจในการเป็นสมาชิกของนาโต และการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก

อย่างไรก็ดี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเซเลนสกีย้ำว่ายูเครนจะไม่มีวันยอมยกไครเมียให้กับรัสเซียอย่างเด็ดขาด แม้ว่ารัสเซียจะประกาศผนวกดินแดนแห่งนี้ไปตั้งแต่ปี 2557 โดยผู้นำยูเครนให้เหตุผลว่าการกระทำของรัสเซียขัดต่อรัฐธรรมนูญของยูเครน

ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ตอบโต้ว่าคำพูดของเซเลนสกีเป็นการยั่วยุ ทำให้การบรรลุสันติภาพทำได้ยาก และเมื่อถูกถามว่ารัฐบาลของเขาจะยอมรับการผนวกไครเมียของรัสเซียหรือไม่ ทรัมป์ก็ตอบเลี่ยงๆ ว่าเขาต้องการเห็นสงครามยุติลงเท่านั้นและว่าการทำงานร่วมกับผู้นำยูเครนยากกว่าที่คาดไว้ ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ยังอ้างว่าการตกลงกับรัสเซียนั้นทำได้แล้ว แม้เจ้าหน้าที่รัฐบาลคนอื่นจะบอกว่าข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้นยังคงครุมเครือ

ด้านโฆษกของทำเนียบขาว แคโรไลน์ ลีวิตต์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าประธานาธิบดีทรัมป์รู้สึกผิดหวังกับความคืบหน้าของการเจรจา และประธานาธิบดีเซเลนสกีดูเหมือนจะเดินไปในทางที่ผิด

คุณอาจสนใจ

Related News