สังคม
วิศวกรวัย 85 ปี ลั่น! ไม่รู้เรื่องปมออกแบบตึก สตง. - ‘ดร.วรศักดิ์’ ชี้สร้างตึก สตง.ไม่สมมาตร ไม่ใช่เหล็กเส้น
โดย petchpawee_k
17 เม.ย. 2568
293 views
วิศวกรอายุ 85 ปี ลั่น! ไม่รู้เรื่องปมออกแบบตึก สตง. ด้าน ‘ดร.วรศักดิ์’ ชี้สร้างตึกสตง. ไม่สมมาตร ไม่ใช่เหล็กเส้น อย่าหลงประเด็น
จากกรณีที่มีข้อมูลว่าผู้ออกแบบอาคาร สตง. อายุ 80 ปี ล่าสุดมีข้อมูลออกมาว่าจริง ๆ อายุ 85 ปีแล้ว ชื่อว่า คุณพิมลเจริญยิ่ง ในเอกสารแบบแปลนจะมีชื่อพร้อมลายเซ็นคุณพิมล กำกับไว้ด้วย
โดยสำนักข่าวอิศรา ได้สัมภาษณ์คุณพิมล เจริญยิ่ง เขาบอกว่า ตัวเองเป็นวิศวกร ของบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับผิดชอบงานออกแบบอาคาร สตง. แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับงานนี้ด้วย ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจากบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด จะดีกว่า เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ แต่ทำไมถึงมีลายเซ็นในแบบก่อสร้าง นายพิมล ตอบว่า "ไม่รู้เรื่องด้วย ปัจจุบันเขาอายุ 85 ปี แล้ว ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว "ผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ไปถามบริษัทดีกว่า"
สำนักข่าวอิศรา ยังรายงานด้วยว่า คุณพิมล เกิด 3 ต.ค. 2482 ทีมข่าวตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าเขาเป็นวิศวกรโยธา ระดับวุฒิวิศวกร ได้รับใบอนุญาต ตั้งแต่ 12 พ.ย. 2527 และเป็นใบอนุญาตแบบตลอดชีพด้วย
ขณะที่ วานนี้ (16 เม.ย.) ศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง ออกมาวิเคราะห์การถล่มของอาคาร สตง. ที่ถล่มลงมาเป็นแพนเค้กภายในเวลาเพียง 8 วินาที
ศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ กล่าวว่า หากวิเคราะห์ตามหลักการ จากสิ่งที่ตนมองเห็นจากแพลนเท่านั้น แต่ไม่ได้เข้าไปดูรายละเอียด ที่ตนเห็นก็คือ อาคารนี้วิบัติด้วยวิธีถล่มลงมาด้วยน้ำหนักของตัวเอง ลงมากองเป็นชั้น ซึ่งการที่จะวิบัติในลักษณะนี้ สามารถเกิดได้จากตัวที่รับน้ำหนักชั้นล่าง เหมือนกับเป็นขาของอาคาร ประกอบด้วย กำแพงปล่องลิฟต์ หรือ Shear Wall กับเสา ที่ไม่สามารถรับน้ำหนักได้แล้วเกิดวิบัติไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ขณะนั้นอาคารทั้งอาคาร จะเหมือนลอยอยู่ในอากาศ แล้วถูกแรงโน้มถ่วงของโลกดึงให้ตกลงมาด้วยน้ำหนักของตัวเองที่มหาศาล
ซึ่งเมื่อตนไปดูที่ชั้นล่าง ส่วนของปล่องลิฟต์และเสา ว่ามีความผิดปกติอย่างไรบ้าง ก็พบว่า การจัดตำแหน่งของปล่องลิฟต์นั้น ไม่สมมาตรกับพื้น ทำให้เวลาฐานเกิดการสั่นไหว อาคารจะแกว่งไปตามฐานที่สั่นไปด้วย และไม่ใช่แค่สั่น แต่จะเกิดการบิดด้วย เสาและกำแพงข้างล่างจะบิดไปบิดมา
ซึ่งหากวิศวกรได้ออกแบบขนาดของเสาและกำแพง ใส่เหล็กให้ถี่พอสมควร ก็น่าจะรับได้ เพราะก็มีหลายตึกที่ออกแบบไม่สมมาตร แต่วิศวกรก็มาออกแบบส่วนนี้ให้แข็งแรงขึ้น แต่กรณีนี้มองว่า ไม่ได้ออกแบบให้มีเหล็กมากพอ เวลาที่บิดไปบิดมาจึงทำให้คอนกรีตแตกร้าว ปูนยุ่ย จนขั้นล่างวิบัติไปทั้งหมด แล้วตัวอาคารตกลงมาด้วยพลังมหาศาล
ศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ บอกด้วยว่า หากเป็นการออกแบบอาคารสูง ผู้ที่เรียนมา ออกแบบอาคารสูงเป็น ต้องเข้าใจประเด็นนี้อยู่แล้ว ต้องออกแบบให้ทั้งปล่องลิฟต์และเสามันทนแรงสั่นสะเทือนได้ เรื่องนี้อยู่ในบทเรียนการออกแบบอาคารสูงสำหรับรับแผ่นดินไหวอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นวิศวกรเด็กๆ อาจจะไม่ได้เรียน ซึ่งเขาไม่ได้มีหน้าที่มาออกแบบอาคารสูงอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยนี้แล้ว อาจจะมีการออกแบบส่วนอื่นเผื่อไว้ เพื่อให้สามารถป้องกันได้ หากส่วนหลักนี้ไม่สามารถรับแรงสั่นได้ เช่น การค้ำยัน เมื่อชิ้นหนึ่งเกิดวิบัติแล้วจะได้มีส่วนอื่นรับน้ำหนักแทน แต่ชั้นล่างของอาคารนี้ค่อนข้างโปร่ง ไม่มีการยึดระหว่างเสากับกำแพงทั้งหลายเข้าด้วยกัน พอเกิดวิบัติจุดหนึ่ง จึงวิบัติตามๆ กันไปหมด
สำหรับการที่ตนออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ เพราะไม่ต้องการให้สังคมหลงประเด็น จริงๆ แล้วการตรวจสอบคุณภาพเหล็ก เป็นเรื่องดี แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำตอนนี้ เพราะไม่ใช่ส่วนสำคัญที่ทำให้อาคารถล่ม ตนจึงช่วยชี้ประเด็นให้ เพื่อให้หน่วยงานที่จะตรวจสอบการถล่มของอาคาร มุ่งไปที่การวิบัติจากการบิดตัวเป็นหลัก ต้องไปดูที่ชั้นล่าง ดูการคำนวณการออกแบบ เก็บชิ้นส่วนที่ยังพอมี และทำโมเดลคอมพิวเตอร์ ใส่สัญญาณแผ่นดินไหว ว่าเมื่อมีแรงสั่น โมเดลจะเกิดแรงที่กำแพงและเสาชั้นล่างขนาดไหน อาคารมันทนได้หรือไม่
ส่วนจะมีการแก้ไขแบบภายหลังหรือไม่ มองว่าเรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยาก เพราะปกติการก่อสร้างอาคารจะต้องมีแบบ 2 ชุดอยู่แล้ว คือ แบบที่ได้รับการอนุมัติก่อนก่อสร้าง และแบบที่เรียกว่า As Built Drawing ตามที่สร้างจริง ก็ต้องมาดูว่าแตกต่างกันแค่ไหน ความแตกต่างนี้ผู้ออกแบบได้รับทราบหรือไม่
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Uw8kLFZVuUo
แท็กที่เกี่ยวข้อง ตึกถล่ม ,ตึกสตง.ถล่ม ,วิศวกร