สังคม
ก.อุตสาหกรรม บุกโรงงาน “ซินเคอหยวน” ดูเหล็กของกลาง - ลักลอบเปิดกิจการหรือไม่
2 เม.ย. 2568
125 views
“เอกนัฏ” สั่งทีมสุดซอยปูพรม “ซิน เคอ หยวน” ลักลอบประกอบการหรือไม่ เช็กเหล็กยึดอายัด พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจเทียบเหล็กตึก สตง. อึ้ง! พบซุกฝุ่นแดงไม่ตรงที่รายงาน ลุยตรวจสอบต่อ หากผิดจริงดำเนินคดีถึงที่สุด
วันที่ 2 เม.ย.68 นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายนนทิชัย ลิขิตาภรณ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. เข้าตรวจสอบผลิตโรงงานผลิตเหล็ก บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
จากการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจาก กระทรวงอุตสาหกรรม นำตัวอย่างเหล็กในอาคาร สตง.มาตรวจสอบคุณภาพแล้ว พบว่าเหล็กข้ออ้อยขนาด 20 มิลลิเมตร และเหล็กข้ออ้อยขนาด 32 มิลลิเมตร ไม่ได้มาตรฐาน จึงต้องมาตรวจสอบเพื่อดูของกลางที่ถูกยึดอายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม จำนวน 2,441 ตัน มูลค่าราว 50.1 ล้านบาท
จุดแรกที่เข้าตรวจสอบเป็นบริเวณโกดังที่ได้มีการเก็บเหล็กเส้นที่ถูกอายัดเอาไว้ เพื่อตรวจสอบดูว่า ได้มีการแกะของกลางออกไปไหนหรือไม่ ส่วนจุดที่สองคือบริเวณโรงงานผลิตเหล็ก เพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่าได้มีการเปิดเตาหลอมเหล็กหรือไม่
ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบในโรงงาน ทางหัวหน้าชุดทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เข้าไปพูดคุยกับตัวแทนบริษัท โดยขอดูบิลค่าไฟเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่ามีการใช้ไฟมากน้อยแค่ไหน เพราะก่อนโดนอายัดโรงงานแห่งนี้ มีค่าไฟสูงถึงเดือนละ 130 ล้านบาท
ซึ่งในเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา มีการใช้ไฟฟ้า 1.2 ล้านบาท เดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีการใช้ไฟไป 6.4 แสนบาท เดือนมีนาคม 2568 มีการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 786,033 บาท แต่มีการจ่ายจริงอยู่ที่ 6.4 ล้านบาท
ซึ่งทางพนักงานของโรงงานแจ้งว่าการที่เดือนมีนาคมค่าไฟสูงขึ้นเป็นหลักล้านนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการแอบผลิต แต่ค่าไฟสูงเนื่องจากทางโรงงานได้แจ้งไปกับทางการไฟฟ้าว่า โรงงานถูกกระทรวงอุตสาหกรรมให้หยุดเครื่องจักรผลิต ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 แต่ทางการไฟฟ้านั้นสามารถคิดค่าไฟฟ้าตามจริงให้ได้แค่ 2 เดือนต่อปี ซึ่งภายในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ 2568 เท่านั้น
หลังจากนี้ทางโรงงานจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเป็นยอดขั้นต่ำ คือ 5.9 ล้านบาท และรวม vat รวมภาษีต่างๆ ก็อยู่ที่ 6.4 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ทางโรงงานจะต้องจ่ายในเรทราคาขั้นต่ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เนื่องจากการขอใช้ไฟฟ้าในการจัดตั้งโรงงานนั้นเป็นการขอใช้ไฟฟ้าแรงสูงเพื่อใช้ในการผลิต ซึ่งจะมีเรทขั้นต่ำในการชำระค่าไฟ
นอกจากนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้ขอเอกสารบันทึกการขายเหล็ก เพื่อตรวจสอบว่ามีการส่งเหล็กล็อตไหนบ้าง ที่ส่งไปสร้างอาคาร สตง. ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ทางตัวแทนบริษัทเปิดเผยว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเหล็กล็อตไหนบ้าง
เนื่องจากทางบริษัทไม่ได้มีการขายตรงให้กับ สตง. แต่เป็นการขายผ่านบริษัทที่เป็นตัวกลางแล้วไปขายต่อให้กับผู้รับเหมาสร้างอาคารอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้ตัวแทนบริษัทรับปากว่า จะมีการส่งข้อมูลไปให้กับกระทรวงอุตสาหกรรมตรวจสอบภายใน 7 วัน (เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568)
ซึ่งจากการตรวจสอบโรงงานทางผู้สื่อข่าวยังสังเกตเหล็กที่ถูกกระทรวงอุตสาหกรรมยึดไว้ ซึ่งในมัดเหล็กข้ออ้อยนั้นยังมีป้าย มอก.(ป้ายสีน้ำเงิน) ติดไว้ที่กับตัวสินค้า นั่นหมายความว่า เหล็กขนาดนี้ผ่านการตรวจจาก มอก.แล้ว ซึ่งยังมีข้อขัดแย้งกับป้ายคำเตือนของกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีการยึดเหล็กไว้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2568 ว่าเหล็กล็อตนี้ไม่ได้มาตรฐาน
จากการสอบถามนางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า หลังจากเดือนธันวาคมปี 2561 ที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และพบว่าเหล็กล็อตผลิตนี้ไม่ผ่านมาตรฐาน แต่มีการติดป้าย มอก.ซึ่งทางโรงงานเองก็จะโดนข้อหาในเรื่องของการติดป้าย มอก. ซึ่งคุณสมบัติไม่ตรงกับมาตรฐานที่ระบุไว้ และผลิตสินค้าที่ไม่ตรงกับมาตรฐาน และถ้าหากตรวจสอบได้ว่าสินค้าชุดนี้ได้มีการนำออกไปขาย ทางผู้ผลิตก็จะโดนเพิ่มอีก 1 ข้อหาในการขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
นายตุ้ย ตัวแทนจากทางโรงงานเผยว่า เหล็กที่ทางกระทรวงอุตสาหกรรมนั้นได้มีการตัดและนำไปตรวจสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ซึ่งตนนั้นอยากให้ทาง อุตสาหกรรมนำเหล็กไปตรวจเพิ่มอีก 1 สถาบันคืออุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะทางโรงงานเชื่อว่าค่าโบรอน (boron) มาตรฐานไปทางสถาบันยานยนต์จะสามารถ ตรวจค่าได้แม่นยำกว่า เนื่องจากตนต้องการให้ค่าแลปนั้นออกมา ให้มันตรงกันถึงจะยอมรับได้ว่าเหล็กโรงงานตนนั้นไม่ได้คุณภาพไม่ตรงมาตรฐานจริงๆ
นายธนพงศ์ จูสนิท ทนายฝ่ายโรงงาน เผยว่า จากการที่พบเหล็กของทางโรงงานไปอยู่ในตึก สตง.ที่ถล่ม ทางโรงงานต้องเช็คก่อนว่า ขายเหล็กให้ใครไปและตึก สตง. ใช้เหล็กทางโรงงานในส่วนใดบาง ใช้ไปเท่าไหร่ ทางเรายังไม่มีข้อมูล
ซึ่งนางสาวฐิติภัสร์ ก็ยินดีถ้าหากตัวแทนบริษัทต้องการนำเหล็กไปตรวจที่อุตสาหกรรมยานยนต์แต่ตนต้องขออธิบายอย่างหนึ่งว่าก่อนที่ทางโรงงานจะจัดตั้งจะขอมกทางโรงงานได้ไปยื่นหนังสือเอกสารที่สถาบันเหล็กกล้าเพราะฉะนั้นในการส่งเหล็กไปตรวจจากสถาบันเหล็กกล้าทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งผลออกมาแล้วว่าต่ำกว่ามาตรฐานแต่ทางโรงงานก็ยังไม่ยอมรับในผลตรวจนั้น มีการยื่นอุทธรณ์มาทั้ง 2 ครั้งทางตนก็ยินดีที่จะให้ทดสอบใหม่ แต่ผลทั้ง 2 ครั้งออกมาก็ตรงกันเหล็กของทางโรงงานไม่ผ่านมาตรฐาน
อีกทั้งตัวแทนของทางอุตสาหกรรม ยังได้ชี้แจงกับคณะทำงานของทางบริษัทอีกว่า เหล็กทั้งหมดที่ทางอุตสาหกรรมได้ยึดไว้ทางโรงงานไม่มีสิทธิ์ที่จะเคลื่อนย้ายหรือตัดเหล็กออกไปตรวจเอง
แล้ววันนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะขอตัดเหล็กไซส์ต่างๆ ในปริมาณที่มากกว่าปกติ เพื่อตรวจหาคุณสมบัติของเหล็กว่าต่ำกว่ามาตรฐานหรือไม่
ผู้สื่อข่าวยังได้พบเห็นอีกว่าเศษสแคป (scrap) ในโรงงานนั้นมีจำนวนมาก ซึ่งทางตัวแทนจากโรงงานเองก็ไม่ทราบว่ามีจำนวนกี่พันตัน ยังอยู่เต็มภายในโกดัง ประมาณ 3-4 โกดัง เนื่องจากหยุดการผลิต วัตถุดิบจึงยังไม่ถูกนำใช้ และเตาหลอมนั้นก็ไม่ได้มีการเดินเครื่องแต่อย่างใด อีกทั้งทางกระทรวงอุตสาหกรรมยังได้เก็บฝุ่นเศษเหล็ก ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อไปตรวจสอบว่าเศษฝุ่นนี้เป็นเศษฝุ่นเก่าหรือใหม่
แท็กที่เกี่ยวข้อง บริษัทเหล็ก ,ซินเคอหยวน ,ตึกถล่ม ,โรงงานเหล็ก ,สตง.