จับแล้ว! โจรชิงทอง 160 บาท ที่แท้เป็นทหารอากาศ อ้างมีปัญหาหนี้สินเกือบครึ่งล้าน

ที่แท้ทหารอากาศ ยศ ‘จ.อ.อ.’ ชิงทอง 160 บาท ทอ.ร่วมตำรวจล็อกตัว เจ้าตัวอ้าง ปมหนี้สินเกือบครึ่งล้าน 

จากกรณีคนร้ายชาย ใช้ปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณ ห้างทองชื่อดัง ภายในห้างสรรพสินค้า ย่านบางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป คือสร้อยคอทองคำ รวมทั้งสิ้นน้ำหนัก 160 บาท มูลค่าประมาณ 7.8 ล้านบาท เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมานั้น

กระทั่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค1 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้สืบสวนขยายผลจากพยานและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดจนพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย มาจอดไว้ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง ใกล้กับห้างสรรพสินค้า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ก่อนก่อเหตุ 1 วัน เพื่อมาดูลาดเลา และในวันที่ 23 มี.ค. ได้มาจอดรถไว้ลานจอดรถที่เดิมแล้วใช้วิธีการเดินเท้าไปที่ห้างสินค้าและตรงเข้าไปที่ร้านทองก่อเหตุ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทองรูปพรรณ แล้วเดินเท้าออกมาว่าจ้างสินรถจยย.ให้ไปส่งใกล้กับจุดที่จอดรถ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของรถยนต์กระบะคันต้องสงสัย พร้อมกับการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนทราบตัวผู้ก่อเหตุ เป็นชาย อายุ 43 ปี ติดตามไปจับกุมที่ในพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานีใต้ พร้อมของกลางทองรูปพรรณเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ

โดยมีข้อมูลจากชาวบ้านว่า วันเกิดเหตุเห็นรถกระบะคนร้าย จอดซุกอยู่ในซอยรกร้าง ริมถนนสายเอเชีย ก่อนถึงหลักกิโลเมตรที่ 3 ขาขึ้นเหนือ ห่างจากจุดที่คนร้ายชิงทอง แล้วว่าจ้างรถจักรยานยนต์ ไปส่งริมถนนสายเอเชีย แล้วแกะรอยจากรถกระบะ จนทราบเบาะแส และขอศาลออกหมายจับดังกล่าว ส่วนทองรูปพรรณทั้งหมดที่คนร้ายได้ไป ยังเก็บไว้ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงยึดมาพร้อมกับรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ  

วานนี้ (27 มี.ค.) ที่สภ.พระอินทร์ราชา พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภาค 1 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ร่วมกันแถลงจับกุมตัว พันจ่าอากาศเอกวรพจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 160 บาท มูลค่า 7.8 ล้านบาท จากร้านทองภายในห้างดังแห่งหนึ่ง สาขาบางปะอิน ริมถนนสายเอเชีย ขาออก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 1 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางสร้อยคอทองคำ จำนวน 12 เส้น อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เสื้อผ้า รองเท้า และหมวกที่ใช้สวมใส่ก่อเหตุ พร้อมรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน อุบลราชธานี โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมหาข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆ อย่างเร่งด่วนทันที เพื่อติดตามการจับกลุ่มของคนร้าย ต้องยอมรับว่าคนร้ายมีการเตรียมตัววางแผนในการก่อเหตุและการหลบหนีมาอย่างดี แต่เจ้าหน้าที่จะไม่ได้ลดละ ยังคงเดินหน้าสืบสวนแสวงหาข้อมูลต่าง ๆ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ต้องหาเข้ามาฝึกอบรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะเดินทางกลับที่พักใน จ.อุบลราชธานี ทุกวันศุกร์

ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุมีปัญหาหนี้สินเกิดความเครียดหาทางออกไม่ได้ เคยเข้ามาแวะเข้าห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้า และพบเห็นว่ามีร้านทองอยู่ภายในห้างใกล้กับทางเข้าออกของห้างได้สะดวก จึงกลับไปวางแผน โดยกลับมาในวันที่ 22 มี.ค. เข้ามาดูลาดเลาโดยการเข้ามาซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าเพื่อวางแผนอีกครั้ง

จากนั้นในช่วงเวลา 14.00 น.ของวันที่ 23 มี.ค. กลับมาทำทีซื้อสินค้า เพื่อดูลาดเลาอีกครั้ง แล้วนำรถกระบะไปจอดในลานดิน ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่มีการวางแผนเอาไว้ มีการตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีกล้องวงจรปิดเป็นจุดที่อับ

จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินเท้าเข้ามาก่อเหตุชิงทอง หลังก่อเหตุได้หลบหนีโดยว่าจ้างวินรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งที่บริเวณใกล้กับจุดที่จอดรถ จากนั้นขับรถกระบะที่จอดซ่อนเอาไว้หลบหนีไป จนกระทั่งถูกเจ้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุม

การนำไปสู่การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิด กล้องหน้ารถและข้อมูลของพยานที่พบรถของผู้ต้องหาจอดรถทิ้งไว้ และพบเห็นผู้ต้องหาแต่งกายที่รัดกุม ปิดบังใบหน้าจนเป็นที่สังเกต เดินและลงจากรถจักรยานยนต์รับจ้าง จนมีการสืบสวนขยายผล ไปจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง

โดยในคลิปกล้องหน้ารถบรรทุกดินวิ่งผ่านช่วงเวลาที่คนร้ายซึ่งใส่ชุดเดียวกับตอนก่อเหตุว่าจ้างวิน จยย. มาส่งริมถนนสายเอเซียชัดเจน โดยคลิปแรกจะเป็นคลิปกล้องมุองข้างรถ พบว่า รถได้วิ่งผ่านสะพานกลับรถ จะเห็นรถกะบะของคนร้ายจอดอยุู่ปากซอยริมถนน แล้วผ่านมาพบคนร้ายกำลังลงรถ จยย. รับจ้าง ในภาพเป็นจังหวะเดียวกับที่คนร้ายกำลังจ่ายค่าจ้างวิน จยย. แล้วเดินย้อนหลังไปขึ้นรถกระบะที่จอดไว้ขับหลบหนี  อีกคลิปเป็นกล้องหน้ารถเป็นภาพคนร้ายกำลังจอดลง จยย. เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้าย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lVvAlQK5Auc