สังคม
หนุ่มเก็บของเก่าเจอเงินแสนตก รีบเก็บส่งตำรวจ เจ้าของเงินสุดดีใจได้เงินคืน จ้างงานตอบแทน
โดย petchpawee_k
14 มี.ค. 2568
817 views
คนจนผู้ยิ่งใหญ่! น้ำฝน หนุ่ม 28 ฐานะยากจน เก็บของเก่าขาย เจอเงินแสนหล่น รีบเก็บส่งตำรวจ หญิงเจ้าของเงินสุดดีใจได้คืน มอบเงินเป็นรางวัล พร้อมรับหนุ่มคนดีไปทำงานด้วยที่ลานยาง
วานนี้ (13 มี.ค.) เวลา 10.07 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ ร.ต.อ.เมธี ทัพสุริย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี นายบุญกอง มั่นเมืองปัก หรือน้ำฝน อายุ 28 ปี ปั่นจักรยานพ่วงรถเข็นของเก่า เข้ามาแจ้งความว่า ตนเก็บเงินสดเป็นธนบัตร 1,000 บาท ได้ 1 ปึก ไม่ทราบว่าเป็นเงินของใคร จึงอยากให้ตำรวจช่วยตามหาเจ้าของ โดยเก็บได้อยู่ริมถนนกลางใหญ่-น้ำโสม หน้า บ.เมืองไทยแคปปิตอล สาขา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ตำรวจได้ทำการนับธนบัตรพบว่าเป็นจำนวน 100,000 บาท จึงได้ทำการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ก่อนที่จะพานายน้ำฝนไปชี้จุดที่เก็บเงินสดได้ เพื่อจะได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน และกำลังจะตรวจเช็คกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสว่าใครเป็นเจ้าของ ระหว่างนั้นมีนางปิยะนุช ศรีทอง หรืออุ๊ อายุ 41 ปี ได้ขับรถกระบะมากับครอบครัวที่จุดเกิดเหตุ เพื่อมาตามหาเงินสดที่ทำหล่นหายไว้เช่นกัน จึงได้เชิญตัวทั้งหมดไปทำการสอบสวน และพิสูจน์ทราบเรื่องราวทั้งหมดที่โรงพัก
เมื่อมาถึงโรงพักแล้ว พ.ต.อ.ชัยศักดิ์ บูรณะบัญญัติ ผกก. สภ.กลางใหญ่ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาทำการพูดคุย และสอบถามถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ทั้งหมด และทางนางปิยะนุช ยืนยันได้ว่าเงินสดจำนวนดังกล่าว มีที่มาที่ไปอย่างไร และทำตกไว้ในลักษณะไหน เมื่อพิสูจน์ได้แน่ชัดแล้ว จึงมอบเงินทั้งหมดคือแก่นางปิยะนุชฯ ท่ามกลางความดีใจของญาติ นางปิยะนุช ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมนายน้ำฝน ที่เป็นพลเมืองดีเก็บเงินได้แล้วนำมาแจ้งตำรวจ จากนั้นได้มอบสินน้ำใจให้นายน้ำฝน 3,000 บาท และนำจักรยานและรถเข็น ขึ้นรถกระบะไปส่งที่บ้าน พร้อมกับดูสภาพความเป็นอยู่ที่บ้านของน้อง
นางปิยะนุช เปิดเผยว่า ตนทำธุรกิจรับซื้อยางพารา วันนี้จะต้องใช้เงินสดจำนวนมากเพื่อรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่ จึงได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 11 เส้น ไปจำนำที่ร้านทอง ได้เงินสดมา 450,000 บาท เมื่อกลับมาถึงลานรับซื้อ ตรวจเช็คดูเงินอีกครั้ง ก็พบว่าเงินสดหายไป 1 ปึก เหลือเงินอยู่แค่ 350,000 บาท พยายามหาในรถแล้วก็ไม่เจอ จึงพากันย้อนกลับมาที่ร้านทอง เช็ควงจรปิดก็เห็นว่าส่งมอบเงินครบถ้วน จึงย้อนมาตรงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่จอดรถเพื่อกดเงินจากตู้ ATM ก็เห็นตำรวจอยู่ตรงนั้นพอดี
“จากนั้นพวกตนก็รีบถามตำรวจเลยว่า มาเรื่องเงินหาย 1 แสนบาทใช่หรือไม่ ตำรวจก็งงว่ารู้ได้ยังไง ตนก็อธิบายที่มีที่ไป จนได้พากันไปที่โรงพักเพื่อพิสูจน์ความจริง และส่งมอบเงินคืนกันในที่สุด ดีใจมากที่ได้เงินคืนครบถ้วน ไม่นึกว่ายังมีคนดีแบบนี้อยู่ในสังคม หากเป็นคนอื่นคนเก็บเงินเอาไปใช้แล้ว แต่นายน้ำฝนเป็นคนดีมาก ไม่คิดอยากได้ของคนอื่นเลย น้องเขาเป็นคนดีจริงๆ ไม่รู้ว่าจะขอบคุณนายน้ำฝนยังไง เบื้องต้นจึงได้ให้เงินเป็นน้ำใจไปเล็กน้อย”
นางปิยะนุช เล่าให้ฟังด้วยความตื้นตันใจอีกว่า แต่จากที่ไปเห็นสภาพบ้านแล้ว น้องเขาน่าสงสารมาก ต้องเก็บของเก่าขาย 10 วันเอาไปขายทีนึง ได้เงินมาไม่ถึง 500 – 600 บาท ถามชาวบ้านก็บอกน้องเป็นคนดี อยู่กับยาย 2 คน น้องน้ำฝนต้องหาเลี้ยงยายเพียงลำพัง น้องไม่มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากนี้จะปรึกษากับครอบครัว จะหาทางช่วยเหลือน้องเพิ่มอีก อยากจะจ้างเขาไปดูแลสวนยาง หรือมาทำงานอยู่ที่ลานรับซื้อยาง คนดีๆ แบบนี้หายาก เป็นการตอบแทนน้อง และส่งเสริมน้องให้มีรายได้เลี้ยงยายในอนาคต
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.กลางใหญ่ พบกับ พ.ต.อ.ชัยศักดิ์ บูรณะบัญญัติ ผกก. สภ.กลางใหญ่ ได้เชิญนายบุญกอง มั่นเมืองปัก หรือน้ำฝน อายุ 28 ปี หนุ่มพลเมืองดี เพื่อมารับทราบข่าวดี โดยให้ตำรวจขับรถตราโล่ไปรับถึงบ้านมาพร้อมกับจักรยานและรถเข็น 2 ล้อพ่วงข้างคู่ใจมาที่โรงพัก
หลังจากทาง นางปิยะนุช ศรีทอง หรืออุ๊ ซึ่งความจริงแล้วเป็นเสมียนลานยางปรีชากลางใหญ่ ที่เปิดรับซื้อยางก้อนถ้วย ได้ปรึกษากับนางวิไล ปราบคนชั่ว หรือเจ๊วิ อายุ 50 ปี และนายปรีชา ปราบคนชั่ว อายุ 59 ปี สามีภรรยา นายจ้างที่เป็นเจ้าของกิจการลานรับซื้อยางพารา และตกลงกันว่าจะรับนายน้ำฝน เข้าทำงานประจำที่ลานรับซื้อยาง
โดย ผกก.สภ.กลางใหญ่ ได้แสดงความยินดีกับนายน้ำฝน พร้อมกับให้โอวาสว่า ให้รักษาความดี ความซื่อสัตย์ต่อไป และแสดงความยินดีกับเรื่องราวดีๆ ของคนดีๆ ที่ยังมีอยู่ในสังคม แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูไม่ดี แต่จิตใจภายในของนายน้ำฝนสูงส่งกว่าที่คิด ที่มีน้อยมากในสังคมปัจจุบัน ถือว่าเป็นคนดีของสังคมอีกคนหนึ่ง ที่เก็บเงิน 1 แสนบาท มาแจ้งตำรวจส่งคืนเจ้าของ ไม่เอาไปเป็นของตัวเอง ส่วนเจ้าของเงินก็เหมือนกับเงินตกเข้ากองไฟ หรือตกน้ำจมหายไปแล้วได้กลับคืนมา จากนั้นนางวิไลฯ เจ้าของเงินตัวจริง และเจ้าของกิจการลานรับซื้อยางพารา ได้มอบเงินเป็นสินน้ำใจอีกจำนวนหนึ่ง ให้กับนายน้ำฝน เพื่อตอบแทนในความดีที่ทำ
นายน้ำฝน เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ไม่ค่อยมีคนว่าจ้าง เวลาไม่มีคนจ้าง ตนก็จะปั่นจักรยานยนต์พ่วงรถเข็น 2 ล้อ ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เพื่อหาเก็บขยะรีไซเคิลไว้ขาย และทำมายังไม่ถึง 1 ปี ส่วนจักรยานตนได้เงินหมื่นดิจิตอลวอลเล็ตจากรัฐบาล แล้วไปซื้อมาในราคา 2,600 บาท เพราะอยากมีรายได้มาจุลเจือครอบครัว เมื่อก่อนตนจะเดินเก็บขยะ ถ้าวันไหนไม่มีใครจ้าง แล้วก็มีรถมารับซื้อที่บ้าน 10 วันถึง 15 วัน ถึงจะรวบรวมขาย ส่วนเงินที่ตนเก็บได้เอามาแจ้งตำรวจติดตามหาเจ้าของนั้น และไม่เอาไปเป็นของตัวเองนั้น เพราะไม่ใช่ของเรา และเราไม่อยากได้ เพราะว่ายายเป็นคนสอนตนไว้
ขณะเดินหาเก็บขยะรีไซเคิล เห็นเงินเป็นปึกวางอยู่พื้นริมถนนข้างเสาไฟฟ้า พอเห็นก็เลยหยิบขึ้นมา รีบปั่นจักรยานไปแจ้งตำรวจลงบันทึกไว้ตามหาเจ้าของเงิน และดีใจที่จะได้มีงานทำ เพราะเจ้าของลานยางจะรับเข้าทำงาน แล้วจะกลับไปบอกยาย ถ้าเก็บเงินได้มากกว่านี้ หรือเป็นล้านบาท ก็จะนำมาแจ้งความตามหาเจ้าของเช่นเดิม หรือว่าจะมากว่านี้ก็ชั่ง เพราะว่ามันไม่ใช่เงินของเรา”
นางวิไล ปราบคนชั่ว หรือเจ๊วิ เจ้าของกิจการลานยางปรีชากลางใหญ่ เปิดเผยว่า หลังได้ปรึกษากับสามี และนางปิยะนุช หรืออุ๊ เสมียนลานยาง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสาว ว่าทางเราก็จะรับน้ำฝนเข้าทำงาน และจะดูแลเขา ให้เขามาทำงานประจำที่ลานนยาง ก็ดูที่น้องว่าจะเหมาะกับงานส่วนไหน ตนชอบที่น้องไม่มีความโลภ แล้วน้องก็เป็นคนนิ่ง มีจิตใจดี ไม่อยากได้ของใคร ที่สำคัญเป็นคนซื่อสัตย์ ก็เพิ่งเคยเจอน้องเป็นครั้งแรก
“น้องบอกว่าน้องมาแถวนี้บ่อย น้องอยู่กับยายอายุประมาณ 70 กว่าปี และก็ยังไม่คิดว่าจะเจอคนแบบนี้ในสังคม เหมือนสวรรค์โปรด ถ้าไม่ใช่น้องหรือคนอื่นหยิบไป เราจะทุกข์ใจไปอีกกี่วัน เพราะว่าเงินส่วนนี้เราจะไปจ่ายค่ายาง ที่เรารับซื้อกับลูกค้าที่เอามาชั่งขายในวันนี้ แต่เงินไม่พอจ่าย เราเลยได้นำทองที่สะสมไว้ไปจำนำ จำนวน 11 บาท เป็นเงิน 450,000 บาท
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wjOujuehEJ8
แท็กที่เกี่ยวข้อง เก็บเงินแสน ,จ้างงาน ,อุดรธานี ,พลเมืองดี