สังคม

นายอำเภอแม่สาย เผยเตรียมรื้อ 45 จุด บ้านไทยรุกล้ำเขตเมียนมา ไม่รื้อจะโดนดำเนินคดี

โดย chutikan_o

6 มี.ค. 2568

1.9K views

นายอำเภอแม่สาย เผยเตรียมรื้อ 45 จุด บ้านเรือนไทยรุกล้ำเขตเมียนมา ไม่รื้อจะดำเนินคดี ขณะเมียนมารื้อ 33 จุดรุกล้ำไทย ก่อนเร่งขุดลอกลำน้ำสาย-น้ำรวกไปพร้อมกัน


เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2568 นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย เปิดเผยว่า การขุดลอกลำน้ำแม่สาย ระหว่างไทย-เมียนมา รวมทั้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนประชาชนระหว่าง 2 ประเทศ ตลอดลำแม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก ได้ประชุม (JCR) เมื่อวันที่ 16-17 ม.ค. 2568 ที่จังหวัดเชียงรายที่ผ่านมานั้น ทางการเมียนมาจะรับผิดชอบขุดลอกแม่น้ำสายระยะทางประมาณ 13 กม.ตั้งแต่ชุมชนบ้านถ้ำผาจม ม.1 ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปจนถึงเขตติดต่อตำบลเกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ส่วนฝ่ายไทย ทางกองทหารช่างจะเป็นผู้ดำเนินการขุดลอกลำน้ำรวก ตั้งแต่เขตพื้นที่ตำบลเกาะช้าง อ.แม่สาย ไปจนถึงบ้านสบรวก สามเหลี่ยมทองคำ เขตพื้นที่ อ.เชียงแสน ไปออกแม่น้ำโขง ระยะทางประมาณ 33 กม.


ในส่วนเขตรุกล้ำระหว่างไทย-เมียนมา ของเมียนมารุกล้ำเข้าไทยมาทั้งหมด 33 จุด และไทยรุกล้ำไปในพื้นที่เมียนมาจำนวน 45 จุด ซึ่งทางเมียนมาได้แจ้งให้ทางการไทยทราบว่า ได้รื้อถอนไปแล้ว 20 จุด ในส่วนที่เหลือจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว ในส่วนการรื้อถอนฝั่งไทยยังติดปัญหาหลายด้าน แต่ได้เร่งรื้อถอนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปแล้ว 7 จุด ซึ่งจะรีบเร่งดำเนินการให้ได้เร็วตามข้อตกลง ซึ่งในวันที่ 10 มี.ค. 68 ทางเจ้าหน้าที่ไทย นำโดยนายประสงค์ หล้าอ่อน จะนำคณะเจ้าหน้าที่ไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ข้ามไปยังจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อลงนามข้อตกลงในการขุดลอกลำน้ำสาย-น้ำรวก ตามสนธิสัญญาในข้อตกลง หลังจากลงนามร่วมกัน จะเร่งรีบขุดลำน้ำไปพร้อมกัน




ขณะเดียวกัน ปัญหาที่บ้านเรือนประชาชนตลอดริมฝั่งแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนบ้านเกาะทราย ได้รุกล้ำเข้าอยู่ในเขตพื้นที่เมียนมา หากมีการรื้อขุดลอกลำน้ำในเขตรับผิดชอบ ทางเมียนมาต้องให้ทุบ หรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกให้หมด เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นที่เมียนมา หากไม่ทำการรื้อถอนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเมียนมา ในส่วนของไทยไม่สามารถไปดำเนินการได้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เมียนมา และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่เมียนมา แต่ผืนดินอยู่ฝั่งไทย จะไม่ได้รับการเยียวยาจากไทย

ขณะเดียวกันได้สอบถามไปยังนางขันแก้ว อายุ 54 ปี ซึ่งมีบ้านตั้งใกล้ลำน้ำสาย กล่าวว่า ตนเองได้มาอยู่บ้านหลังดังกล่าว ทราบว่าผ่านมาหลายรุ่นที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ไม่ทราบว่าบริเวณไหนเป็นดินแดนเมียนมา หากมีการรื้อคืนพื้นที่ ก็อยากจะให้หน่วยงานไทยช่วยเข้ามาดูแลหาที่อยู่ใหม่ให้ เช่นหาที่ดินให้ ซึ่งแต่ละคนที่อยู่บริเวณริมลำน้ำสายจนแก่เฒ่า ไม่มีปัญญาไปต่อสู้หาที่ดินปลูกสร้างบ้านใหม่ได้ จึงอยากขอความเห็นใจด้วย

ขณะเดียวกันได้พบเห็นทางเมียนมา ตั้งแต่ใต้สะพานไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ได้ทุบกำแพงที่ได้รุกล้ำลำน้ำ และมีอีกหลายจุดทางฝั่งเมียนมาเริ่มขุด-รื้อ เตรียมก่อสร้างกำแพง ในส่วนของคนมีฐานะทางเมียนมาสามารถก่อสร้างกั้นน้ำได้เลย โดยมีเจ้าหน้าที่เมียนมาคอยชี้จุด ซึ่งทางเมียนมามีงบประมาณพร้อมขุดลอกแล้ว




คุณอาจสนใจ

Related News