สังคม

รวบคนจีนครอบครองสัตว์ป่า ตรวจยึดสิงโต เศร้าลูกเสือโคร่งตกรถตายขณะนำส่งเจ้าหน้าที่

โดย chutikan_o

26 ก.พ. 2568

467 views

รวบคนจีน พร้อมของกลางเสือโคร่ง-สิงโต ครอบครองผิดกฎหมาย เศร้าลูกเสือหลุดกรงตกรถตายขณะนำส่งพนักงานสอบสวน ส่วนสิงโตนำเคลื่อนย้ายไปสถานที่ที่เหมาะสม

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2568 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี จับกุมตัวนายอาน อี  สัญชาติจีน ในข้อหา ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือโคร่ง) โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีสัตว์ป่าควบคุมไว้ในครอบครองโดยไม่แจ้งความตามกฎหมาย ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยสามารถตรวจยึดของกลางเป็น 1.ลูกเสือโคร่ง 1 ตัว ซึ่งระหว่างนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ได้เกิดอุบัติเหตุ กระโดดหลุดจากกรงตกจากรถเสียชีวิต 2.สิงโตเพศผู้ อายุราว 2 ปี

เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้ชันสูตรซากลูกเสือโคร่ง เบื้องต้นพบว่า มีอายุประมาณ 6-8 เดือน ชื่อวิทยาศาสตร์ Panthera tigris จากการตรวจสอบพบว่า เขี้ยวขวาบนหัก 1 ข้าง ขาซ้ายหลังผิดรูป เข่าซ้ายหัก ขาหลังขวาหัก และฟันล่างขึ้นไม่ครบ ฟันบนขึ้นครบแล้ว

ปกติแล้วลูกเสือจะถูกฝังไมโครชิพเมื่ออายุ 4 เดือนขึ้นไป แต่จากการใช้เครื่องสแกนไม่พบไมโครชิพในร่างของลูกเสือ จึงต้องนำไปผ่าพิสูจน์ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนเผาทำลายหลักฐานตามระเบียบ

จากการตรวจสอบที่บ้านพักดังกล่าว พบสิงโต สีขาว เพศผู้ อายุประมาณ 2 ปี ชื่อวิทยาศาสตร์ Panthera leo ถูกเลี้ยงอยู่บริเวณหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสแกนไมโครชิพ พบหมายเลขตรงกับใบอนุญาตที่ออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่พบว่ามีการเลี้ยงผิดสถานที่ เนื่องจากใบอนุญาตระบุว่าสิงโตตัวนี้ต้องถูกเลี้ยงอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า จากการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.ได้รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวโพสต์ภาพถ่ายคู่กับเสือโคร่งลงบนโซเชียลมีเดีย โดยภาพดังกล่าวถ่ายที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร หลังจากตรวจสอบจนพบว่าเสือโคร่งตัวนี้ถูกนำมาไว้ที่จันทบุรี และขยายผลจนพบ สิงโตอีก 1 ตัว จึง ได้สั่งการให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายสิงโตไปยังสถานที่ที่เหมาะสม เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกหวาดกลัวว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน สิงโตอาจหลุดออกมาทำร้ายประชาชน

ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำนายอาน อี อย่างละเอียด พร้อมทั้งให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงิน ของผู้ต้องหา เพื่อตรวจสอบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ และหาตัวเจ้าของที่แท้จริงของสัตว์ป่าเหล่านี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายต่อไป



คุณอาจสนใจ