รวบหลานคลั่งยา อาละวาดขวานทุบบ้าน ตายายสุดทนแจ้งตำรวจจับ วอนส่งบำบัดนานๆ

ตายายสุดทนแจ้งตำรวจจับหลาน หลังเสพยาแล้วเกิดอาการคลั่ง ใช้ขวานทุบพังทำลายข้าวของ วางเพลิงเผาบ้าน วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลานไปรักษาให้หายป่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Khukhanpolice โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ว่า “ยุไฮยุนาคือเก่าหละพี่น้อง เหตุ 191 จิตเวชอาละวาดมีอาวุธขวาน ร้อยเวร 2-0, สายตรวจรถยนต์, สายฟ้า และสายตรวจหัวเสือ ว.4 นำตัวส่ง รพ. ทำการรักษาต่อไป #khukhanpolice” โดยคลิปที่ลงเป็นคลิปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งไล่จับหนุ่มจิตเวชในมือถืออาวุธขวาน

โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็น หมู่ 10 บ้านคลองสุด ตำบลหัวเสือ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ไปถึงได้พบกับ นายเสาร์ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นตาของผู้ก่อเหตุ คือ นายกฤษณพงศ์ อายุ 23 ปี หรือ เป้ ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูสภาพบ้าน สภาพห้องนอนที่ไอ้เป้ทุบทำลายพังเสียหาย

ตาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ไอ้เป้เป็นหลานแท้ๆ ของตนที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ไอ้เป้ติดยาตั้งแต่อายุ 15 ปี ไม่ได้ทำมาหากิน จะชอบขอเงินตากับยายใช้อยู่เป็นประจำ หรือบางทีก็จะชอบขโมยของที่บ้านไปขาย ถ้าไม่ได้เงินก็จะดุด่าและอาละวาด หรือ เวลาเสพยาเข้าหนักๆ ก็จะมีอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของในบ้านเสียหาย บางครั้งก็วางเพลิงเผาบ้าน ไอ้เป้ก่อเหตุมาหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยมาจับไป 1 ครั้ง แต่ก็ถูกปล่อยตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม

นายเสาร์ กล่าวต่อไปว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ไอ้เป้ออกไปจากบ้านข้ามวันข้ามคืน พอกลับมาบ้านก็มาอาละวาดใช้อาวุธขวานทุบทำลายข้าวของทำลายบ้านจนพังเสียหาย ตนจึงโทรแจ้งตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ และช่วยจับตัวไอ้เป้ โดยตนอยากให้ตำรวจนำตัวไอ้เป้ไปบำบัดให้นานๆ จนหายป่วยจิตเวช เพราะตอนนี้ครอบครัวอยู่กันลำบากมาก กลัวว่าไอ้เป้จะมาทำร้ายร่างกายตนกับยาย และหลานที่ยังเล็ก กลัวว่าจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้

ด้าน ร.ต.อ.อาภากร โสภา รองสารวัตร (ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม) สภ.ขุขันธ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 18 ก.พ.68 ช่วงประมาณ 09.00 น. หลังตนได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ สภ.ขุขันธ์ ว่ามีหนุ่มจิตเวชคลุ้มคลั่งอาละวาดที่บ้านคลองสุด จึงรีบเข้าไประงับเหตุ ซึ่งพอไปถึงได้มีการเข้าไปพูดคุย เจรจาตามยุทธวิธีที่ฝึกมา เพื่อให้หนุ่มจิตเวชยอมไปกับเราโดยดี

แต่หนุ่มจิตเวชคนดังกล่าวพูดจาไม่รู้เรื่อง พูดจาสับสนวกไปวนมา และก็ไม่ยอมวางอาวุธขวานแต่โดยดี พร้อมกับเดินหนีไม่ยอมให้จับตัวด้วย ตนกลัวว่าเหตุการณ์จะบานปลาย ตนเลยต้องใช้หลักยุทธวิธีไม้ง่ามที่ฝึกมาเข้าระงับเหตุ เพราะกลัวหนุ่มจิตเวชจะไปก่อเหตุไม่คาดฝันกับพี่น้องประชาชน เลยชาร์จตัวหนุ่มจิตเวชดังกล่าว ก่อนจะได้นำตัวหนุ่มจิตเวชส่งโรงพยายาลขุขันธ์ เพื่อไปรักษาอาการต่อไป