รวบลูกชายคลั่งยา ใช้คัตเตอร์กระหน่ำแทงแม่เสียชีวิต พบเคยติดคุกคดีเสพยามาแล้ว 3 ครั้ง

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ร้อยตำรวจเอกชาย พลศรี พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่ง ใช้มีดแทงแม่ของตัวเอง และยังไล่แทงชาวบ้าน เหตุเกิดภายในชุมชน 40 ห้อง ซอยดิเรกแยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 70 แยก 7 ต.บางครุ อ.พระประแดง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พันตำรวจเอกประภาส มั่งคั่ง รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ปฏิบัติราชการแทน ผู้กำกับ สภ.พระประแดง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวรโรงพยาบาลบางจาก และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบร่างของนางสมร อายุ 67 ปี นอนจมกองเลือด สภาพถูกของมีคมคล้ายมีดปลายแหลมแทงเข้าที่ลำคอหลายแห่ง รวมถึงใบหน้ายังมีบาดแผลฉกรรจ์จากคมมีดอีกด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยปฐมพยาบาลโดยทำ CPR เพื่อยื้อชีวิตนานกว่า 20 นาที แต่สุดท้ายไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายศุภชัย อายุ 38 ปี เป็นลูกชายแท้ ๆ ของผู้ตาย หลังก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์แทงแม่ ได้วิ่งไล่แทงลูกชายของตัวเองและชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ แต่สุดท้ายถูกชาวบ้านและตำรวจ ช่วยกันล้อมจับกุมตัวเอาไว้ได้ หลังเข้าไปหลบในห้องน้ำภายในบ้านหลังหนึ่ง พร้อมกับลูกชายคนเล็กวัย 12 ปี

ตำรวจพบของกลางเป็นมีดคัตเตอร์เปื้อนเลือด และยาบ้า 2 เม็ด ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว นายศุภชัย ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจับตัวนอนคว่ำ เอามือไพล่หลังเพื่อพันธนาการล็อกตัวควบคุมไปยังสถานีตำรวจ แต่ระหว่างที่นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ พบว่าเกิดการชุลมุนเล็กน้อย เมื่อชาวบ้านที่ทราบข่าว มารอดูหน้าผู้ก่อเหตุและพยายามเข้ารุมประชาทัณฑ์ จนตำรวจต้องกันตัวและรีบนำตัวขึ้นรถออกจากที่เกิดเหตุ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ถูกปืนไฟฟ้าชอร์ตบริเวณกลางหลัง ตอนเข้าไปจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ

จากการสอบสวน นายศุภชัย พูดจาวกไปวนมา พอจับใจความได้ว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่บริเวณหน้าปากทางหมู่บ้าน เคยติดคุกในคดีเสพยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง โดยล่าสุดเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อ 3 เดือนก่อน และก่อนเกิดเหตุ ตนเองและภรรยามีปากเสียงกัน เนื่องจากไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน และถูกแม่ด่าทุกวัน จึงทำให้ทนไม่ไหว จากนั้นจึงได้นำมีดมาแทงแม่

สอบถาม นายนภัสกร อายุ 19 ปี ลูกชายคนโตของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองอยู่ที่บ้านพักหลังติดกัน ได้ยินเสียงพ่อทะเลาะวิวาทโวยวายกับแม่ จากนั้นแม่ได้เข้ามาห้าม ตนเองเห็นว่าทะเลาะกันรุนแรง จึงวิ่งไปหาย่า แต่พบว่าย่านอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ใต้ถุนบ้าน ตนจึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน พ่อของตนเองไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ติดคุกคดียาเสพติดมาหลายรอบแล้ว ล่าสุดเพิ่งออกมาได้ 3 เดือน แต่ยังไม่เลิกสักที หลังก่อเหตุพ่อได้วิ่งหลบหนีไปพร้อมกับน้องชายคนเล็ก อายุ 12 ปี คาดว่าน่าจะเอาไปเป็นตัวประกัน ส่วนแม่ของตนเองวิ่งหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด

ด้าน นางสาวนิภาพร อายุ 40 ปี เมียคนก่อเหตุซึ่งยังอยู่ในสภาพหวาดกลัว เล่าว่า สามีมีอาการคล้ายคนหลอน เพราะถามถึงเรื่องมีคนขโมยพระ และกล่าวหาว่าตนขโมยพระไป ตนจึงบอกให้ไปดูกล้องวงจรปิด แต่เขาก็ยังพูดบ่นเรื่อยๆ และไล่ตนไปให้ไกล ๆ และอาละวาด ทำร้ายตบตีตน จากนั้นแม่สามีก็เข้ามาห้าม จนมีปากเสียงกัน ผู้ก่อเหตุได้ผลักแม่ตัวเองจนล้ม จากนั้นแม่สามีจึงหยิบไม้กวาดมาตี ตนเห็นท่าไม่ดีและคิดว่าถ้าอยู่ยังไงก็ไม่รอด จึงได้หนีออกมาไปหลบอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งปกติสามีจะเสพยาอยู่เป็นประจำ และเคยมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด