รวบติวเตอร์วัย 52 ขืนใจ-ทำอนาจาร 3 นักเรียนหญิง พ่อแม่ใจสลาย เอาผิดให้ถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 เวลา 17.30 น. ที่ สภ.เมืองปทุมธานี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาพ่อแม่ผู้ปกครองและนักเรียนหญิง 3 ราย อายุ 14, 15 และ 18 ปี ที่ถูก นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ติวเตอร์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาชื่อดังใน จ.ปทุมธานี ข่มขืนกระทำชำเราและล่วงละเมิดทางเพศ โดยกลุ่มผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี และล่าสุด ตำรวจออกหมายจับผู้ก่อเหตุ และควบคุมตัวได้แล้ว    


คดีนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ม.ค.68 ผู้ปกครองของนางสาวเอ อายุ 18 ปี เข้าร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาฯ ว่าลูกสาวที่เรียนอยู่ชั้น ม.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง การเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี และลูกสาวฝันว่าอยากเป็นเภสัชกร จึงไปเรียนพิเศษที่สถาบันกวดวิชาของนายเอ็ม เนื่องจากมีชื่อเสียงว่า เด็กที่มาเรียนพิเศษจะสามารถสอบเข้าคณะแพทย์ได้หลายคน ซึ่งนายเอ็มเป็นติวเตอร์ด้วย สถาบันแห่งนี้มีนักเรียนชาย-หญิง มาเรียนประมาณ 50 คน


นางสาวเอ เรียนพิเศษที่นี่มา 4 ปีแล้ว โดยเรียนตั้งแต่อยู่ชั้น ม.2 เรียนทุกวันหลังเลิกเรียน และในวันเสาร์อาทิตย์ด้วย ที่ผ่านมา นายเอ็มจะให้ความสนิทสนมกับเด็ก ๆ โดยเฉพาะนักเรียนหญิง เวลาเลิกเรียนนายเอ็มจะให้เด็ก ๆ ช่วยเก็บโต๊ะเก้าอี้ทำความสะอาดห้องเรียน ซึ่งนางสาวเอช่วยมาตลอด บางครั้งกลับบ้านเป็นคนสุดท้าย ประมาณ 17.45 น. เพราะนายเอ็มอาสาพาไปส่งที่บ้าน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากสถาบันกวดวิชา และพ่อแม่ไม่เคยสังเกตเห็นความผิดปกติใด ๆ


กระทั่งวันที่ 15 ธ.ค.67 หลังนางสาวเอ สอบ GAT/PAT เสร็จ ก็บอกพ่อแม่ว่า ถูกนายเอ็มล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่เดือน ก.ย.67 เรื่อยมา โดยการจับก้น กอด และจูบปาก ซึ่งนางสาวเอพยายามขัดขืนมาตลอด และไม่กล้าบอกใคร เพราะยังอยากจะเรียนพิเศษกวดวิชา เพื่อจะสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยให้ได้ จนช่วงเย็นวันที่ 19 ต.ค.67 หลังกวดวิชาเสร็จ นางสาวเอกำลังทำความสะอาดห้องเรียนอยู่เป็นคนสุดท้าย นายเอ็มเข้ามาประชิดตัวและกอดจูบ จากนั้นนายเอ็มได้ลากน้องไปอีกห้องหนึ่งของอาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องเรียนที่ไม่ได้เปิดใช้และใช้มือปิดปากลงมือข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งตัวน้องเองสู้แรงนายเอ็มไม่ไหว  


หลังจากนั้น นายเอ็มทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้องยังทนเรียนกวดวิชา และถูกล่วงละเมิดทางเพศเรื่อยมา ครั้งสุดท้ายถูกข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.67 ซึ่งเป็นวันที่สอบ GAT/PAT หลังสอบเสร็จ น้องจึงบอกพ่อแม่ เพราะคิดว่าไม่ต้องไปเรียนที่สถาบันกวดวิชาของนายเอ็มอีกแล้ว


พ่อแม่จึงพานางสาวเอ เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองปทุมธานี เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 และขอให้มูลนิธิปวีณา ช่วยติดตามคดีให้ด้วย เพราะลูกสาวบอกว่า ยังมีน้องนักเรียนหญิงอายุ 14 ปี และ 15 ปี ที่มาเรียนกวดวิชา แล้วถูกนายเอ็มทำอนาจาร โดยการจับก้นและจูบปาก เหตุเกิดในช่วงเดือน ส.ค.67 ซึ่งทั้งสองคนกลัวมากจนไม่มาเรียนพิเศษแล้ว ซึ่งผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้ง 2 รายนี้ ก็ต้องการแจ้งความเอาผิดกับนายเอ็มให้ถึงที่สุดเช่นกัน  


หลังรับเรื่อง นางปวีณาได้ประสาน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาพ่อแม่และน.ส.เอ อายุ 18 ปี ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองปทุมธานี และนางปวีณาได้ประสาน นางดุสิตา เชาวน์เลิศ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี ส่งเจ้าหน้าที่ พม.ไปร่วมด้วย


จากนั้น นางปวีณาได้ติดต่อกับพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงอายุ 14 และ 15 ปี ที่ถูกนายเอ็มทำอนาจาร ซึ่งผู้เสียหายทั้งสองรายยืนยันขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเอาเรื่องให้ถึงสุด นางปวีณาจึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ พม. และมอบหมายเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาเข้าแจ้งความเพิ่มเติม ในวันที่ 23 ม.ค.68


ขณะเดียวกัน นางปวีณาได้ประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อประสานศึกษาธิการจังหวัด ตรวจสอบสถาบันกวดวิชาของนายเอ็มที่เปิดดำเนินการ พบว่าไม่มีการขออนุญาตเปิดดำเนินการเรียนการสอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้มีคำสั่งหยุดดำเนินกิจการไปเมื่อวันที่ 24 ม.ค.68


ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยความคืบหน้าว่า พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและผลตรวจร่างกายของ น.ส.เอ อายุ 18 ปี ไปขอศาลจังหวัดปทุมธานี เพื่ออนุมัติหมายจับเจ้าของสถาบันกวดวิชารายนี้ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราฯ โทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี ปรับตั้งแต่ 8 หมื่น - 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาทำอนาจารแก่บุคคลอายุมากกกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้ายฯ โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ส่วนที่ก่อเหตุกับนักเรียนหญิงอายุ 14 และ 15 ปี ทางสหวิชาชีพได้สอบปากคำเด็กหญิงอายุ 14 ปีแล้ว ส่วนเด็กหญิงอายุ 15 ปี จะสอบปากคำในวันที่ 6 ก.พ.นี้ ซึ่งจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายไพรัชต่อไป โดยหลังจับกุม เจ้าหน้าที่จะคุมตัวไว้สอบปากคำ ก่อนจะนำตัวฝากขังต่อศาล ซึ่งจะคัดค้านการประกันตัวด้วย


ด้านผู้ปกครองของผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ขอบคุณนางปวีณา ที่ช่วยติดตามคดี และขอบคุณ พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี ที่เร่งรัดคดีให้ พร้อมกับขอให้ตำรวจคัดค้านการประกันตัวผู้ก่อเหตุ เพราะกลัวว่าจะไปกระทำกับเด็กคนอื่น ๆ และหลบหนี ซึ่งคาดว่ายังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความ


นายแจ็ค พ่อของผู้เสียหายอายุ 18 ปี บอกว่า วันที่ลูกสาวยอมบอกความจริงว่าถูกข่มขืน ทำให้ตนถึงกับช็อก เพราะตนคิดมาตลอดว่า ผู้ก่อเหตุมีสถานะเป็นผู้ให้ความรู้ เหมือนเป็นพ่อคนที่ 2 ของลูกสาวตน พอถามว่าทำไมลูกไม่บอกพ่อตั้งแต่ตอนแรก ๆ ลูกบอกว่า กลัวว่าถ้าไม่ไปเรียนพิเศษจะสอบไม่ติด ทำให้ต้องทนไปเรียนกวดวิชา และทนถูกกระทำเรื่อยมา ตอนที่ลูกสาวรู้ว่าผู้ก่อเหตุถูกจับกุม ลูกก็สบายใจขึ้น แต่ก็ยังกลัว ยังถามว่าเขาจะได้ประกันตัวหรือไม่


ส่วน นางสาววรรณ แม่ของเด็กหญิงอายุ 14 ปี เล่าว่า สถาบันกวดวิชาดังกล่าวค่อนข้างมีชื่อเสียง เพราะมักจะว่าจ้างนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เก่ง มาสอนนักเรียน ตนจึงไว้ใจให้ลูกไปเรียนกวดวิชาที่นี่ถึง 3 ปี ผู้ก่อเหตุมักให้ความสนิทสนมกับเด็ก ๆ ที่ไปเรียนพิเศษ รวมทั้งลูกสาวของตนด้วย มักจะบอกให้เด็ก ๆ เรียกว่าลุง ทำให้ลูกสาวตนเคารพนับถือเขามาก บางครั้งผู้ก่อเหตุก็จะเรียกลูกสาวตนไปนั่งตัก หอมแก้ม ตนเห็นแล้วรู้สึกไม่เหมาะสม ก็บอกลูก ลูกจึงไม่ยอมให้เขาจับนั่งตักอีก จนช่วงเดือนสิงหาคม 67 ตนสังเกตว่าลูกสาวคุยโทรศัพท์นาน เมื่อสอบถามถึงทราบว่า ผู้ก่อเหตุเรียกลูกสาวตนไปที่บ้าน และกอดจูบ ทำมาแล้วถึง 3 ครั้ง ตนจึงให้ลูกเลิกเรียนกวดวิชาที่สถาบันดังกล่าวทันที


ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง  ที่เจ้าของสถาบันกวดวิชาและเป็นติวเตอร์ ฉวยโอกาสที่เด็กไว้วางใจนับถือเป็นครู เป็นเหมือนพ่อคนที่ 2 แต่กลับมากระทำกับเด็กแบบนี้ ดังนั้นหากมีนักเรียนคนใดตกเป็นเหยื่อในลักษณะนี้ หรือผู้ปกครองรายใดที่มีลูกหลานเรียนที่สถาบันแห่งนี้ อยากให้พูดคุยสอบถามลูกว่าถูกล่วงละเมิดหรือไม่ หากตกเป็นเหยื่อ ขอให้มาแจ้งความที่ สภ.เมืองปทุมธานี หรือติดต่อมาทางมูลนิธิปวีณาฯ ก็ได้ ทางมูลนิธิฯ จะช่วยติดตามคดีและประสานงานต่าง ๆ ให้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/AiWXI2mOhpo