เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว! อุ่นแกงลืมปิดแก๊ส โทรแจ้งตำรวจ รีบปรี่ช่วย ปีนระเบียงไปปิดแก๊ส

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.68 เพจเฟซบุ๊ก สน.บางยี่ขัน BangyiKhan PoliceStation โพสต์คลิปจากกล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ เป็นภาพขณะที่ ด.ต.จาตุรพงศ์ รักแก้ว ผบ.หมู่ (ป) สน.บางยี่ขัน กำลังปฏิบัติหน้าที่ และรับแจ้งเหตุผ่านศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีประชาชนขอความช่วยเหลือว่าลืมปิดถังแก๊ส เกรงว่าไฟจะไหม้บ้าน จึงขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจไปที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับ จ.ส.ต.ภูริวัฒน์ สมภักดี ผบ.หมู่ (ป) สน.บางยี่ขัน  


โดยบ้านที่ร้องขอความช่วยเหลือ เป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น อยู่ในซอยบรมราชชนนี 17 แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. ซึ่งทางเจ้าของบ้านแจ้งว่า ล็อกประตูรั้วไว้ แต่ไม่ได้ล็อกประตูระเบียงบ้านที่อยู่ชั้น 2 ตำรวจทั้งสองนายจึงไปขออนุญาตบ้านข้าง ๆ ที่อยู่ติดกัน เพื่อจะปีนผ่านระเบียงชั้น 2 ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งหญิงเพื่อนบ้านผู้ใจดี ก็อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในบ้าน แถมยังนำทางขึ้นไปชั้น 2 เปิดประตูระเบียงและชี้ให้เจ้าหน้าที่ปีนข้ามไประเบียง เดินผ่านหลังคาไปยังระเบียงบ้านที่เกิดเหตุ แล้วเปิดประตูบ้านชั้น 2 รีบลงบันไดไปยังห้องครัว พบว่าภายในบ้านมีกลิ่นไหม้ฟุ้งกระจาย มีหม้อใส่แกงกะทิไหม้เกรียมตั้งอยู่บนเตา เจ้าหน้าที่จึงหมุนปิดวาล์วถังแก๊ส โดยไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต


ทางเพจ สน.บางยี่ขัน โพสต์ข้อความว่า “เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วนะ” เดือนร้อน ไม่ปลอดภัย ตำรวจไทย พร้อมดูแล เกือบวอดทั้งหลัง หากเพื่อนบ้านแจ้งไม่ทัน


ผู้สื่อข่าวไปที่ สน.บางยี่ขัน พบ ดาบตำรวจจาตุรพงศ์ รักแก้ว ผู้บังคับหมู่การป้องกันปรามปราม สน.บางยี่ขัน เล่าว่า ตนเองได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีประชาชนเปิดแก๊สอุ่นแกงทิ้งไว้ ตัวผู้แจ้งบอกว่า อยู่ไกลไม่สามารถกลับมาบ้านได้ทัน ตนจึงไปตรวจสอบพร้อมกับ จ.ส.ต.ภูริวัฒน์ สมภักดี ผบ.หมู่ (ป) สน.บางยี่ขัน


เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบเป็นบ้านทาวเฮาส์ สูง 2 ชั้น ปลูกติดกัน มีประมาณ 30-40 หลังคาเรือน บ้านที่เกิดเหตุประตูบ้านล็อกทั้งหมดอย่างแน่นหนาไม่สามารถเข้าได้ แต่ผู้แจ้งบอกว่า ประตูที่ระเบียงชั้น 2 ไม่ได้ล็อก และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าบ้านได้เลย จึงไปขอความร่วมมือเพื่อนบ้านข้าง ๆ เพื่อปีนเข้าไปและรีบวิ่งลงไปยังห้องครัวที่อยู่ด้านล่าง พบหม้อแกงที่ตั้งไฟทิ้งไว้ แห้งจนจะเกิดประกายไฟ จึงรีบปิดวาล์วแก๊ส และเติมน้ำเข้าไปในหม้อ เพื่อลดความร้อน เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ไม่เพียงบ้านที่แจ้งขอความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังมีบ้านเรือนประชาชนอีกหลายหลังที่อยู่ติดกัน หากเกิดเหตุขึ้น คงประเมินค่าความเสียหายไม่ได้ โดยหลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ก็โทรศัพท์แจ้งเจ้าของบ้าน


หลังจากนั้น เจ้าของบ้านได้ติดต่อขอบคุณแล้ว ซึ่งตนเป็นตำรวจ ยินดีให้บริการประชาชน และยึดตามนโยบายผู้บังคับบัญชาว่า เมื่อได้รับแจ้งเหตุ ต้องช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงทีและเร่งด่วน พร้อมกับฝากไปถึงตำรวจรุ่นน้อง ขอให้มีระเบียบวินัย และช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ และช่วยแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน


ด้าน นางรจนา อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านที่อนุญาตให้ตำรวจเข้าไปในบ้านเพื่อปีนข้ามไปช่วยเหลือบ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนเองได้กลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง จึงพยายามมองหาต้นเหตุว่าอยู่ตรงไหน และคาดว่าน่าจะมาจากบ้านข้าง ๆ ตนจึงโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เพราะหากบ้านข้าง ๆ เกิดไฟไหม้ ก็คงลามมาถึงบ้านตนด้วย เมื่อตำรวจมาถึงแล้วเข้าบ้านที่เกิดเหตุไม่ได้ ตนจึงบอกให้เข้าบ้านตน แล้วปีนขึ้นชั้น 2 ข้ามไปบ้านที่เกิดเหตุได้เลย ทั้งนี้อยากขอบคุณตำรวจทั้ง 2 นาย ที่มาถึงจุดเกิดเหตุได้ไว และเข้าระงับเหตุได้ทันท่วงที

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RxPhAdQbsII