ขสมก.ยอมรับผิด พร้อมเยียวยาเหตุรถเมล์เฉี่ยวชนนักศึกษาดับ

ขสมก.แสดงความเสียใจและขออภัยเหตุรถเมล์เฉี่ยวชนนักศึกษาดับ เผยประสานชดเชยค่าเสียหายแล้ว พร้อมสั่งพักงาน พนง.ขับรถคันที่เกิดเหตุ-ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง

วันที่ 30 ม.ค. 2568 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 เวลา 23.55 น. รถโดยสารปรับอากาศ สาย 522 (1 – 22E) หมายเลข 1 - 56121 ได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 ถนนพหลโยธิน (ขาเข้า) มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย

ขสมก.ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และขออภัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ภายหลังเกิดเหตุ ขสมก. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่อุบัติเหตุไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และได้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมทั้ง ประสานบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จัดส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการชดเชยค่าเสียหาย และเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทั้งในส่วนของ ความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองผู้ประสบภัยที่ ขสมก. ได้จัดทำไว้

ทั้งนี้ ขสมก.ได้กำชับหัวหน้างาน ผู้เกี่ยวข้อง ในการให้บริการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และจะเข้มงวดกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของการเดินรถ ให้มีความระมัดระวังต่อการปฏิบัติงานให้มากขึ้น เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น และเป็นการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ขณะนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผอ.ขสมก. กล่าวว่า ได้เห็นคลิปภาพขณะเกิดเหตุแล้ว และยอมรับว่าเป็นความผิดของพนักงานขับรถ ซึ่ง ขสมก.ขอแสดงความเสียใจ และขออภัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และพร้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ภายหลังเกิดเหตุ ขสมก. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และได้ติดต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมประสานบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการชดเชยค่าเสียหาย และเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทั้งในส่วนของความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และ ประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองผู้ประสบภัยที่ ขสมก. ได้จัดทำไว้

นอกจากนี้ได้สั่งพักงานพนักงานขับรถคันที่เกิดเหตุ และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นอาจต้องใช้เวลา 3-5 วัน เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ ของพนักงานขับรถ ก่อนพิจารณาโทษตามระเบียบ ขสมก. ทั้งนี้ ได้กำชับหัวหน้างาน ผู้เกี่ยวข้องในการให้บริการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และจะเข้มงวดกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของการเดินรถ ให้มีความระมัดระวังต่อการปฏิบัติงานให้มากขึ้น เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น และป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก