หมอเสริมความงามร้อง ถูกคนร้ายขโมยเงินสดเกือบ 1 ล้านบาท ตร.รวบใน 3 วัน แต่ตามเงินคืนได้แค่ 1 แสนบาท

หมอเสริมความงาม ร้องมูลนิธิดัง หลังถูกคนร้ายลักเงินสดเกือบ 1 ล้านบาท ตำรวจจับได้แต่ตามของกลางคืนได้แค่แสนกว่าบาท แปลกใจส่วนที่เหลือหายไปไหน ไม่เชื่อโจรใช้เงินเกือบหมดใน 3 วัน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 ม.ค. 68 ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นพ.สุรการ แพทย์ศัลยกรรมด้านความงามเจ้าของคลินิก ในซอยพหลโยธิน 31 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. พร้อมแฟนสาว เดินทางนำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับว่าที่ร้อยตรีรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิ, นางชฎาภรณ์ พงศ์ทองเมือง ที่ปรึกษามูลนิธิ หลังตนเองถูกคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ เป็นเงินสด 983,000 บาท พระเลี่ยมทอง 3 องค์ โทรศัพท์มือถือ OPPO 1 เครื่อง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 68 เวลา 23.00 น.

ต่อมาให้หลังเพียง 3 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.พหลโยธิน สามารถจับกุมตัวนายประเวศ อายุ 53 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุเข้ามาลักทรัพย์ในคลินิกของตนเองได้เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 68 โดยผู้ต้องหาเคยต้องคดีลักทรัพย์และเพิ่งออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังจับกุมตัวคนร้ายได้ ตนเองได้เงินคืนเพียง 127,500 บาท ส่วนที่เหลืออีก 855,500 เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าคนร้ายใช้เงินไปหมดแล้ว ซึ่งก็แปลกใจว่าทำไมเพียงแค่ 3 วัน คนร้ายจะใช้เงินได้มากมายขนาดนี้ เงินจำนวนเกือบล้านบาทนี้เก็บไว้ในคลินิก และเป็นเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงในการเก็บหอมรอมริบมากว่า 1 ปี

ต่อมาพยายามหาข้อมูลพบหลักฐานในโทรศัพท์มือถือพร้อมข้อความในแชทที่ผู้ต้องหาพูดคุยกับครอบครัว จึงได้เดินทางไปที่บ้านพบลูกสาวของนายประเวศ ก็สามารถตามคืนได้เพียงพระที่ผู้เป็นพ่อนำมาฝากไว้ ส่วนเงินสดจำนวนหนึ่งลูกสาวอ้างว่านำไปซื้อทองและขายไปก่อนหน้านี้แล้ว มีเพียงพระที่หลงเหลืออยู่ที่ส่งคืนมาให้กับตนเองเท่านั้น หลังเกิดเหตุจับกุมตัวคนร้ายได้ ตนเองต้องออกติดตามหาทรัพย์สินที่ยังขาดหายไปคืนด้วยตัวเอง แต่ก็ยังตามหาไม่เจอ และไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะใช้เงินจำนวนเกือบล้านบาทหมดภายใน 3 วัน อีกทั้งแปลกใจ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงตามเงินส่วนที่เหลือคืนกับตนเองไม่ได้ ทำไมไม่เรียกตัวครอบครัวผู้ต้องหา มาสอบสวนขยายผล เพื่อติดตามทรัพย์สินกลับคืนมา

นอกจากนี้ยังพบแชทข้อความในโทรศัพท์มือถือของนายประเวศว่า ก่อนถูกจับกุมตัวในวันที่ 16 มกราคมช่วงกลางคืนปรากฏว่าในช่วงเช้า ผู้ต้องหาไปพบกับผู้คุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีการพูดคุยฝากฝังอะไรกันหรือเปล่า ผู้ต้องหาเคยติดคุกคดีลักทรัพย์ติดไม่นานก็ออกมา มีความสนิทสนมกับผู้คุมเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรื่องของตนเองจะมีอะไรลับลมคมในหรือเปล่า แล้วเงินจำนวนมากเกือบล้านหายไปไหน อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสนใจและดูแลคดีนี้ให้ด้วย

ด้านรองประธานมูลนิธิ กล่าวว่า คดีนี้ตนเองรู้สึกแปลกๆ และไม่ชอบมาพากล ฟังจากปากคำผู้เสียหาย น่าจะตามของกลางและทรัพย์สินคืนได้มากกว่านี้ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาอ้างกับตนว่านายประเวศนำเงินไปละลายใช้จ่ายหมดแล้วนั้น รู้สึกว่ามีข้อพิรุธหลายอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะทำงานละเอียดในเชิงลึกมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามจะพาผู้เสียหายไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ช่วยติดตามทรัพย์สินของคุณหมอเจ้าของคลินิกในส่วนที่ยังขาดเหลือกลับมาด้วย ไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน แต่ไม่ใช่หายไปเป็นจำนวนเงินมากมายแบบนี้