สังคม

ยังไร้เงา! พ่อนายแบบจีนร้อง ผบ.ตร. ช่วยตามหาลูกชาย หลังมาไทยหายไปเกือบเดือน หวั่นซ้ำรอย 'ซิงซิง'

โดย petchpawee_k

17 ม.ค. 2568

229 views

พ่อ 'หยาง เจ๋อ ฉี' นายแบบจีน ร้อง ผบ.ตร. ช่วยติดตามตัวลูกชาย หลังมาไทยหายไปเกือบเดือน หวั่นซ้ำรอย “ซิงซิง” นักแสดงซีรีส์ชาวจีน พบพิกัดโลเคชั่น เบาะแสสุดท้ายโผล่แถว อ.พบพระ อ.แม่สอด จ.ตาก  

วานนี้ (16 ม.ค.) นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พานาย หยาง ไห่ เทา พ่อของนาย หยาง เจ๋อ ฉี นายแบบชาวจีน ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเร่งรัดติดตามตัวลูกชายหลังถูกรับเชิญมาถ่ายภาพภาพยนตร์ที่ไทย


พ่อของ หยาง เจ๋อ ฉี เล่าว่า ลูกชายเดินทางมา ประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยขึ้นเครื่องจากปักกิ่งมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ


ครั้งล่าสุดที่ได้พูดคุยกับลูกชาย คือ วันที่ 29 ธันวาคม ลูกชายวีดีโอคอลผ่าน WeChat มาหาแม่ ซึ่งลักษณะการพูดคุย เหมือนคนวิตกกังวล อยู่ในอาการตกใจ อีกทั้งยังเห็นรอยช้ำบริเวณดวงตา ซึ่งพ่อคิดว่าลูกชายอาจถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนั้นยังเห็นความผิดปกติอีกอย่างคือลักษณะท่าทางการวางมือขณะพูดคุยกับเห็นว่าลูกชายวางมือบนโต๊ะตลอด ไม่ได้ถือโทรศัพท์เหมือนเวลาวิดีโอคอลคุยกันทั่วไป จึงคิดว่า อาจมีคนถือโทรศัพท์ให้


เมื่อถามว่าในระหว่างที่พูดคุยกันลูกชายมีการขอความช่วยเหลือหรือไม่ ผู้เป็นพ่อบอกว่า ลูกไม่ได้พูดขอความช่วยเหลือ หรือส่งสัญญาณใดใด โดยเชื่อว่าขณะนั้นอาจมีคนจับตาและถูกควบคุมตัวอยู่


เบื้องต้นทั้งครอบครัวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. เมื่อวันศุกร์ ที่10 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้รับเรื่องและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยติดตามตัวลูกชายแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดใดและไม่รู้ว่าลูกยังอยู่ในไทยหรือออกนอกประเทศ ทำให้ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงมาก


ขณะที่พิกัดล่าสุด หยาง เจ๋อ ฉี มีข้อมูลโลเคชั่นส่งให้แฟนสาวและเพื่อนในกลุ่มพบว่าพิกัดไปอยู่แถว อ.พบพระ อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ไม่รู้ว่าข้าแม่น้ำไปชายแดนแล้วหรือไม่ ส่วนในโซเชียลก็ยังไม่มีการอัพเดทข้อมูลใดใด


ด้านผู้เป็นพ่อบอกว่าตอนแรกที่ลูกมาทำงานประเทศไทยก็ไม่เป็นห่วงเพราะคิดว่าประเทศไทยปลอดภัย เวลามาเที่ยวก็รู้สึกว่าคนไทยให้ความต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นมิตร แต่พอลูกหายไปก็รู้สึกเป็นห่วงจึงอยากขอให้ทางรัฐบาลและตำรวจช่วยตามหาลูกชาย


ด้านทนายรัชพล เชื่อว่าเรื่องนี้มีคนไทย คนจีน รวมไปถึงคนพม่ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากรูปถ่ายที่ตรวจสอบมา หยางเจ๋อฉี มีการถ่ายทะเบียนรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวมีการจดทะเบียนในประเทศไทย หากตำรวจไปตามทะเบียนรถ ตามเจ้าของรถ เชื่อว่าก็จะตามสืบได้บ้าง และทำให้ขยายผลต่อได้ โดยสิ่งที่คาดหวังอยากให้ทางรัฐบาลไทยหรือจีนหรือพม่า ประสานงานและร่วมมือกันในการที่จะติดตามคดีนี้ เพราะเป็นคดีที่เป็นผลเกี่ยวเนื่องกันทั้งสามประเทศ หากประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือ ก็อาจจะทำให้การดำเนินคดียากขึ้น จึงอยากฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามคดีนี้


ซึ่งหลักฐานที่มีขณะนี้ มีภาพถ่ายที่เห็นทะเบียนรถ โดยพบว่ามีรถรับส่ง 2 คัน คันแรกรับจากสุวรรณภูมิแล้วไปเปลี่ยนรถก็ไม่ทราบว่าที่ไหน และมีภาพต่างๆ ที่ทางหยางเจ๋อฉี ถ่ายส่งกับเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งในส่วนนี้ก็ไม่ทราบว่าคุณพ่อของหยางเจ๋อฉี ได้นำหลักฐานส่วนนี้ให้ตำรวจหรือยัง


ขณะที่เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.)  พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก ได้บูรณาการทำงานร่วมทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสกัดกันการกระทำผิดกฎหมายในพื้นแนวชายแดน โดยได้สนธิกำลังร่วมกับทุกฝ่าย จัดทำโปสเตอร์ขนาดใหญ่ มีทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย มีข้อความประกาศเตือนทั้งคนไทยและต่างชาติที่อาจถูกหลอกไปทำงานออนไลน์ งานประชาสัมพันธ์ยังต่างประเทศ เพราะเป็นการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 12 จุด คือด่านตรวจความมั่นคง 4 จุด และบริเวณเส้นทางชายแดนไทย-เมียนมา 8 จุด


พ.อ.ณัฐกร เปิดเผยว่า ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน เราอยู่ในพื้นที่และเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดทุกคน เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหา และการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญ เพราะสามารถรู้และเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น การที่เรามีความรับผิดชอบต่อสังคมก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วขึ้น ทำให้พี่น้องประชาชนเราเกิดความสงบสุขแล้วจะปลอดภัยจากสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ZUDMr54wFKg

คุณอาจสนใจ

Related News