ปล่อยตัว 'แซม-มิน' คดีดิไอคอน เปิดใจหลังอยู่คุก 84 วัน - 16 บอสไม่รอด สั่งฟ้อง 5 ข้อหา

อสส. มีความเห็นสั่งฟ้อง บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป และ 16 บอส รวม 5 ข้อหา ส่วน แซม และ มิน อัยการสั่งไม่ฟ้อง ก่อนราชทัณฑ์ปล่อยตัวออกจากเรือนจำ โดยมีครอบครัวเดินทางมารับ ทั้งคู่เปิดใจ ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม


ภายหลังอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง นางสาวพีชญา วัฒนามนตรี หรือ มิน และ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ แซม โดยศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวทั้งสอง เนื่องจากพนักงานอัยการยื่นคำร้องขอยุติการฝากขังในคดี The iCon


สำหรับบรรยากาศที่ด้านหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง พบว่ามีรถตู้โตโยต้า รุ่นเวลไฟร์ (Vellfire) สีขาว ซึ่งเป็นรถครอบครัวของ มิน พีชญา ขับเข้าไปเตรียมรับตัวตั้งแต่ช่วง 16.00 น.


จากนั้นเวลา 18.30 น. รถตู้ที่เข้าไปรับ มิน พีชญา เคลื่อนออกมา โดยในรถมีทั้ง บิดา มารดา และนายเคลวิน แฟนหนุ่มของมิน พีชญา อยู่ภายในรถ เมื่อรถเคลื่อนมาถึงด้านหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง มิน พีชญา ได้ลดกระจกลง ยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชนด้วยใบหน้าที่สดใส โดยเจ้าตัวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว กางเกงยีนส์ พร้อมสวมหมวกสีดำ และคาดแว่นไว้บนหมวก แล้วการสังเกตพบว่าผมของมินไม่ได้ถูกตัดแต่อย่างใด


จากนั้น มิน พีชญา เปิดใจครั้งแรก ซึ่งบางช่วงบางตอนมีน้ำตาซึมด้วย ระบุว่า ขอขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ขอบคุณศาล ขอบคุณความยุติธรรมที่คืนให้ตน และขอบคุณทัณฑสถานหญิงกลางที่ดูแลมินเป็นอย่างดี ขอบคุณแฟนคลับทุกคนด้วยที่ส่งกำลังใจให้ตนมาตลอด


เมื่อถามถึงเรื่องสุขภาพ เจ้าตัวบอกว่า ขอกลับไปพักฟื้นก่อน น้ำหนักลดเยอะ ส่วนเรื่องการรับงานหลังจากนี้ก็สามารถติดต่อมาได้ แต่จะให้ผู้จัดการช่วยดูอีกที


เมื่อถามถึงกรณีที่อธิบดีดีเอสไอ จะต้องมีความเห็นแย้งหรือความเห็นพ้องกับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ จะให้เป็นไปตามกระบวนการเลยใช่หรือไม่ มิน พีชญา ระบุว่า อย่างที่มินเคยแถลงข่าวตั้งแต่แรกว่ายินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งในวันนี้มันได้พิสูจน์แล้ว ขอบคุณความยุติธรรมและทุกคนที่เป็นกำลังใจให้


เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะต้องเข้าไปขึ้นศาล หรือต่อสู้คดี หรือชี้แจงอะไรเพิ่มเติมต่อหรือไม่ มินส่ายหัวและยิ้ม เมื่อถามอีกว่าตอนนี้อยากทำอะไรมากที่สุด มินตอบว่า จะขอกลับไปอยู่กับครอบครัวก่อน ถ้ามีโอกาสจะออกมาแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่มินถูกออกหมายจับ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ กระทั่งฝากขังต่อศาล ช่วงเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เจ้าตัวพยายามปกปิดใบหน้ามาตลอด สำหรับการปล่อยตัวครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวเปิดหน้าพูดคุยทักทายสื่อมวลชน


สำหรับประเด็นเรื่องทรงผม นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เคยออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องทรงผมของ มิน พีชญา ว่า สำหรับการดูแลผู้ต้องหาระหว่างพิจารณาคดีนั้น จะมีความแตกต่างกับการดูแลผู้ต้องขังเด็ดขาด ทั้งเรื่องกายภาพ จะมีการแยกกันอยู่ ไม่ปะปนกัน และผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีผู้หญิงสามารถไว้ผมยาวได้ เพียงแต่ให้มัดรวบเรียบร้อย หรือหากร้อนและอยากตัดผมก็สามารถตัดได้เช่นกัน


สำหรับประเด็น เรื่องการตัดผมของผู้ต้องขังนั้น ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการตัดผมผู้ต้องขัง พ.ศ.2557 พบว่า ในข้อ 8 ระบุว่า นักโทษเด็ดขาดหญิงให้ไว้ผมยาวไม่เกินต้นคอ หรือหากไว้ผมยาวเกินกว่าต้นคอต้องรวบผม หรือผูกผมให้เรียบร้อยในกรณีมีเหตุที่ไม่อาจจะดำเนินการตามความวรรคหนึ่งได้ ให้เรือนจำแจ้งเหตุผลและความจำเป็น เพื่ออธิบดีพิจารณาสั่งผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษ ข้อ 9 คนฝากและคนต้องขังชายให้ต้ดผมแบบชนสามัญ เว้นแต่อธิบดีสั่งผ่อนผันเป็นกรณีพิเศษจะให้ตัดผมแบบอื่นก็ได้ และในข้อ 10 คนฝาก และคนต้องขังหญิงให้ไว้ผมตามประเพณีนิยม กรณีที่ไว้ผมยาวเกินกว่าต้นคอต้องรวบผมหรือผูกผมให้เรียบร้อย


ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องขังทั้งหมดครบระยะเวลาการกักโรค ก็จะถูกจำแนกไปยังแดนแรกรับของแต่ละเรือนจำ ในส่วนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะถูกควบคุมอยู่ที่แดนแรกรับ และทัณฑสถานหญิงกลาง จะเป็นแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลาอยู่ในแดนแรกรับของเรือนจำ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินให้เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดต่อไป


ขณะที่ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางมาริษา ภมรมนตรี ภรรยา, นายยุรการ ภมรมนตรี ลูกชาย พร้อมด้วย น.ส.ยุรริษา ภมรมนตรี ลูกสาว ของนายแซม ยุรนันท์ และทนายความ เดินทางเข้ามารับตัวนายแซม ยุรนันท์ ด้วยรถตู้ฮุนไดสีขาว โดยมีภรรยานำเสื้อผ้าพร้อมรองเท้าลงจากรถ และเข้าไปข้างในเรือนจำเพื่อให้นายแซมเปลี่ยนชุด และทำการรับตัวนายแซมออกมา


ต่อมาทางด้านของนายยุรการ ก็ได้เดินเข้ามายกมือไหว้สื่อมวลชนที่รอปักหลักทำข่าว พร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า ขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนที่เดินทางมารับพ่อด้วยกัน เมื่อถามว่ามีความรู้สึกอย่างไรที่อัยการสั่งไม่ฟ้องตัวคุณพ่อ นายยุรการ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ พร้อมกล่าวย้ำว่า ไม่มีอะไร และขอบคุณที่มารับพ่อด้วยกัน และขอให้เป็นเรื่องของครอบครัว ถามต่อว่าสาเหตุที่อัยการไม่สั่งฟ้องคุณพ่อคืออะไร นายยุรการส่ายหัวไม่ตอบ พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณสื่ออีกครั้ง ก่อนเดินแยกออกไป


ต่อมา นายแซม ยุรนันท์ ก็ได้เดินออกมาบริเวณประตู โดยสวมเสื้อโปโลแขนยาวลายทางสีเทาดำ สวมกางเกงแสลคสีดำ และปิดบังใบหน้าด้วยการสวมหมวกสีดำ และใส่แมสก์สีขาว พร้อมเดินไปไหว้ศาลจิตรคุปต์ และเดินมาสวมกอดครอบครัว ด้วยสีหน้ามีความสุข โดยขณะที่นายแซม ยุรนันท์ เดินออกมาจากเรือนจำนั้น นายแซม ยุรนันท์ ได้ถือพระ 1 องค์ออกมา พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ขอบคุณที่มาต้อนรับในวันนี้ ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ส่วนหลังจากนี้จะมีการชี้แจงแถลงเปิดใจหรือไม่นั้น ขอกลับบ้านก่อน


เมื่อถามถึงในส่วนของคดีจะดำเนินการอย่างไรต่อหลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง นายแซม ยุรนันท์ ไม่ตอบแต่อย่างใด และพูดย้ำอีกครั้งว่า ขอกลับบ้านก่อน ก่อนที่ตัวนายแซม ยุรนันท์ จะเดินขึ้นรถไปพร้อมกับหันมายกมือไหว้ขอบคุณสื่อ และโบกมือลา


อย่างไรก็ตามคดีดิไอคอน ในส่วนของ แซม-มิน ยังไม่จบ เพราะหลังจากที่ทางอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 ส่งสำนวนความเห็นสั่งไม่ฟ้องสองดาราไปยังพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้พิจารณาความเห็นทางคดี หากเห็นชอบตามความเห็นอัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็จะถือว่าทั้งแซมและมิน ก็จะพ้นจากข้อกล่าวหา แต่หากพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เห็นแย้ง ก็ส่งสำนวนความเห็นแย้งให้อัยการสูงสุดพิจารณาเป็นผู้ชี้ขาด หากอัยการสูงสุดเห็นพ้องกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ คดีก็จะเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลอีกครั้ง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/GS3qgSQCUWc