สังคม
ผู้เสียหายโผล่แฉ “แม่กานต์” โกงแชร์ หนี 2 ปี จากชุมพรไปเปิดร้านทำเล็บที่ภูเก็ต
โดย chutikan_o
5 ม.ค. 2568
1.4K views
ลูกแชร์แจ้งความ “แม่กานต์” โกงแชร์หนีไป 2 ปี จากชุมพรไปเปิดร้านทำเล็บที่ภูเก็ต ผู้เสียหายเผยมาพบอีกทีหลังมีข่าวอดีตผัวโหดทุบตีเมียปางตาย แม่พามอบตัวที่แท้เป็นหญิงคนเดียวกัน
จากกรณีเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2567 น้องนิก อายุ 27 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ให้ดำเนินการเอาผิดนายกานต์ อายุ 24 ปี อดีตสามี ในข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บทั้งกายและจิตใจ โดยนำคลิปภาพเคลื่อนไหวในพฤติการณ์ที่อดีตสามีก่อเหตุทำร้ายชกแตะต่อยจนได้รับบาดเจ็บ มามอบเป็นหลักฐาน
ต่อมาเมื่อช่วงเวลา 17.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. 2567 น.ส.กาญจนา อายุ 42 ปี ได้นำตัวนายกานต์ ลูกชายมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร หลังจากที่นายกานต์ขับรถยนต์เก๋งหนีไปบ้านแม่ ซึ่งเปิดร้านทำเล็บอยู่ ที่ จ.ภูเก็ต เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา นอกจากนี้น้องนิก ยังได้แจ้งเอาผิด น.ส.กาญจนา ผู้เป็นแม่ ในข้อหา ข่มขู่จนให้เกิดความหวาดกลัวด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ต่างวิพากษ์วิจารณ์ในความโหดร้ายและรุนแรงในการกระทำต่อผู้หญิง อีกทั้งทางผู้เป็นแม่ ยังออกมาให้ข้อมูลเชิงเข้าข้างลูกชายเป็นส่วนใหญ่
ล่าสุด น.ส.รพีพรรณ อายุ 50 ปี พร้อม น.ส.ชนกานต์ อายุ 47 ปี ผู้เสียหาย นำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินและการเจรจาพูดคุยกับ น.ส.กาญจนา มามอบให้ผู้สื่อข่าว พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2564 เธอได้รู้จักกับ น.ส.กาญจนา จากกลุ่มเพื่อนๆ ที่ร่วมวงเงินแชร์กัน โดยแนะนำว่า น.ส.กาญจนา เป็นท้าวแชร์ที่มีคนเล่นเยอะ มีทั้งรายเดือน ราย 10 วันไปจนถึงรายสัปดาห์ และแต่ละวงจะกำหนดไม่เกิน 30,000 บาท เธอเห็นว่าน่าสนใจ จึงได้ร่วมลงเล่นแชร์ไปด้วย
น.ส.รพีพรรณ กล่าวว่า แชร์ของ น.ส.กาญจนา โดยเมื่องวดแรกท้าวแชร์จะได้ก่อน โดยไม่เสียดอกแต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นเหมือนกันวงท้าวแชร์ และเมื่อเข้างวดที่สอง น.ส.กาญจนา จะเป็นผู้ที่กำหนดเรทของเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด หากใครต้องการเงิน เช่นวง 30,000 บาท ก็จะต้องส่งเดือนละ 2,800 บาทต่อครั้ง ซึ่งเมื่อบวกลบกันแล้ว เมื่อส่งจนหมดครบถึงปิดมือสุดท้าย มือต้นๆ ที่ต้องการเงิน ก็จะเสียดอกไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ซึ่งก็จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการเงินหมุน แต่มักจะอยู่งวดท้าย ซึ่งก็จะได้ดอกดี โดยในช่วงแรกๆ นั้นได้ดอกดี ท้าวจ่ายตรง จึงลงทุนเล่น หลายวง หลายมือ กับ น.ส.กาญจนา
น.ส.รพีพรรณ กล่าวต่อว่า แต่มาระยะหลังๆ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2565 น.ส.กาญจนา เริ่มออกอาการไม่ดี จ่ายเริ่มไม่ครบ ผิดนัดจ่ายเงินให้กับลูกแชร์บ่อยครั้ง หลายวง หลายมือ เริ่มทักท้วงและเริ่มทวงทั้งโทรทั้งทักในกลุ่มวงแชร์ แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาแต่อย่างใด จนไม่สามารถติดต่อทุกช่องทางได้อีกเลย เธอพร้อมลูกแชร์ อีก 4 คน นำเอกสารหลักฐานการโอนเงินผ่านธนาคารของพวกเธอ ในการส่งแชร์แต่ละงวด ให้กับ น.ส.กาญจนา และหลักฐานการเจรจาพูดคุยกันระหว่างลูกแชร์กับท้าวแชร์ ถ่ายสำเนาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2565
ผู้เสียหายกล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ น.ส.กาญจนา หนีแชร์ไปและไม่สามารถติดต่อทุกช่องทางได้อีกเลยนั้น ทุกคนเริ่มหมดความหวังที่จะได้เงินที่เสียไป เฉพาะของพวกเธอ 5 คน เกือบ 200,000 บาท เหมือนฟ้ามีตา หลังจากที่มีข่าวผัวทุบตีเมียจนโด่งดังไปทั่วประเทศ และต่อมาได้มีแม่ของผู้ชาย ได้นำตัวลูกชายที่ทำร้ายลูกสะใภ้มามอบตัวกับตำรวจ และทราบว่าผู้เป็นแม่ คือ น.ส.กาญจนา ซึ่งชื่อตรงกับท้าวแชร์ที่โกงพวกเธอและหนีไปร่วม 2 ปี
พวกเธอโทรศัพท์ไปหาน้องนิกที่ถูกทำร้าย เพื่อสอบถามว่า น.ส.กาญจนา คือคนที่ส่งรูปไปให้ดูหรือไม่ ซึ่งก็มาถึงบางอ้อทันทีเพราะน้องนิก ยืนยัน คือคนเดียวกันที่โกงแชร์ แล้วหนีไปที่ จ.ภูเก็ต และได้เปิดร้านทำเล็บ วอนผ่านสื่อ ว่า ให้ น.ส.กาญจนา กลับมาพูดคุยเจรจากันตรงๆ ให้มารับผิดชอบเงินของพวกเธอให้ครบตามจำนวน ไม่ต้องมีดอกเบี้ย ขอเพียงเงินต้นจ่ายให้จบครบทุกจำนวน พวกเธอก็จะพร้อมที่จะถอนฟ้องให้ แต่ในส่วนที่ข่มขู่ ใครฟ้องจะไม่จ่าย อยากได้ให้ไปฟ้องศาลเอานั้น เป็นกระบวนการสุดท้าย แต่พวกเธอต้องการจบด้วยดีกันดีกว่า