ค้านประกัน อส.ปืนโหด สำนึกผิด ขอชดใช้กรรม เจ้าของร้านข้าวต้มถามลูก "แม่ตาบอดใช่ไหม"

เปิดภาพกล้องวงจรปิด ก่อนเกิดเหตุ อส.โหดได้ขึ้นลำปืนก่อนก่อเหตุ ด้านเจ้าตัว ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดปากอ้างบันดาลโทสะ พร้อมรับกรรมที่ก่อขึ้น ขณะที่ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้น เขียนจดหมายถึงลูกแม้ตาจะมองไม่เห็น

กรณีเกิดเหตุยิงกันในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง บนถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย

โดยผู้ก่อเหตุคือ นายอัครภณธ์ อายุ 50 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อำเภอหาดใหญ่ ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายสิทธิพงษ์ ศิริพันธ์ และนางสาวอรชร เอียดดำ ซึ่งเป็นสามีภรรยากันจนเสียชีวิต ส่วนลูกสาวอายุ 6 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งครอบครัวนี้มารับประทานอาหารเพื่อฉลองวันเกิดลูกชาย อายุ 12 ขวบ และยังใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน ยิงนายสุริยา สุประดิษฐ์ กุ๊กร้านข้าวต้ม กับนางสาวภาวนา อุดทา เจ้าของร้าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดจากความไม่พอใจที่พนักงานร้านเข้าไปเก็บโต๊ะ หลังเข้าใจว่าผู้ก่อเหตุรับประทานอาหารเสร็จแล้ว

ทั้งนี้มีภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมก่อนก่อเหตุ ขณะที่ผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ที่โต๊ะร้านข้าวต้ม ได้หยิบปืนมาขึ้นลำ ก่อนที่เก็กเสิร์ฟจะเดินมาเห็นและมีท่าทีหยุดชะงัก จากนั้นเด็กเสิร์ฟได้เดินกลับเข้าไปในร้าน

ส่วนความคืบหน้าช่วงเช้าวานนี้ (24 ธ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นำตัวนายอัครพณธ์  อายุ 50 ปี อดีตอาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.อำเภอหาดใหญ่ ผู้ต้องหาออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหาสภ.หาดใหญ่ เพื่อนำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดสงขลา พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว

โดยทันทีที่ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา นายอัครพนธ์ ที่สีหน้าเรียบเฉย ได้ยกมือไหว้ พร้อมพูดเป็นครั้งแรกกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่ก่อเหตุไปเพราะบันดาลโทสะ ส่วนสาเหตุไม่ขอพูดถึง เพราะให้การในสำนวนหมดแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดแล้ว และยอมชดใช้กรรม”

ทั้งนี้ ร้อยตำรวจเอก กฤษฎา หมุนหมิตร พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า ได้แจ้งข้อหานาย อัครพนธ์ เพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ พยายามโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากเดิมแจ้งไปแล้ว 4 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา ข้อหาพกพาอาวุธปืน ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหายิงปืนในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น

ส่วนอาการของ น.ส.ภาวนา ผู้ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับลูกชายของ น.ส.ภาวนา เผยว่าอาการล่าสุดจากการเข้าห้องผ่าตัด แพทย์ได้ทำการศัลยกรรมตกแต่งบาดแผลและได้ดูอาการแล้ว กระสุนไม่โดนสมอง โดยวิถีกระสุนได้เจาะกะโหลกเบ้าตาขวาทะลุเบ้าตาซ้าย ตอนนี้รู้สึกตัวอาการพ้นขีดอันตราย ปลอดภัยแล้ว

จากการสอบถามลูกได้บอกอีกว่าแพทย์ที่ทำการรักษาได้บอกกับตนว่าแม่อาจมองไม่เห็น เพราะกระสุนได้โดนเส้นประสาทตาทั้งสองข้าง แพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนอาการอื่นๆ ตอนนี้ยังทรงตัวดี

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น.ส.ภาวนา ยังได้มีการเขียนจดหมายออกมาถามเรื่องของลูกๆ โดยที่ตาตัวเองมองไม่เห็น

โดยข้อความในจดหมายระบุ เหมือนเป็นการถาม-ตอบ ว่า “แม่ตาบอดใช่ไหม  ตาบอดสนิทเลยไหม / แม่ต้องนอนโรงพยาบาลอีกหลายวันแน่ / น้องเป็นยังไงบ้าง น้องสอบ 4 วัน ห่วงน้อง  ดูน้องดีๆ ไม่ต้องไปทำงานนะ / ร้านปิดหลายวันไหม”

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/H51AE9Q82ac