สังคม

แจ้งเพิ่ม 2 ข้อหา อส.โหดยิงดับ 2 ผัวเมีย เจ้าตัวเปิดปากครั้งแรก อ้างบันดาลโทสะ ขอโทษเด็กทำกำพร้า

โดย panwilai_c

24 ธ.ค. 2567

87 views

ฝากขังอดีต อส.เมากร่าง ชักปืนยิงดับ 2 ผัวเมีย ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดปากครั้งแรก อ้างบันดาลโทสะ พร้อมรับกรรมที่ก่อขึ้น ตำรวจแจ้งเพิ่ม 2 ข้อหาหนัก ฆ่าโดยไตร่ตรอง และพยายามฆ่าโดยไตร่ตรอง

กรณีนายอัครพณธ์ อายุ 50 ปี เป็น อส.อำเภอหาดใหญ่ เมาแล้วกร่าง ชักปืนยิงใส่เจ้าของร้าน พนักงาน และลูกค้าในร้านข้าวต้ม ริมถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จนมีผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายสิทธิพงศ์ หรือ ช่างสิทธิ อายุ 48 ปี และ น.ส.อรชร อายุ 47 ปี เป็นสามีภรรยาที่พาลูกมากินฉลองวันเกิด และบาดเจ็บอีก 3 คน คือ น.ส.ภาวนา อายุ 46 ปี เจ้าของร้าน นายสุริยา อายุ 43 ปี และ เด็กหญิงอายุ 6 ขวบ ลูกของผู้เสียชีวิตที่ล้มหัวแตก

โดยกล้องวงจรปิดหน้าร้านที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะผู้ก่อเหตุ ยืนคุยกับเจ้าของร้าน และพนักงานอยู่ที่หน้าร้าน แต่เหมือนตกลงกันไม่ได้ ผู้ก่อเหตุจึงเดินไปหยิบปืน ก่อนวิ่งกลับมาไล่ยิงเจ้าของร้านและพนักงาน ซึ่งวิ่งหนีตายไปชนโต๊ะลูกค้า 4 พ่อแม่ลูก แม่เด็กเห็นเหตุการณ์ รีบเอาตัวบังลูกสาววัย 6 ขวบ ที่ล้มหัวแตก ก็ถูกผู้ก่อเหตุกระหน่ำยิงใส่

ฝ่ายพ่อเห็นเข้าก็พยายามดึงห้ามคนร้าย ก็ถูกจ่อยิงศีรษะเสียชีวิตคาที่ หลังคนร้ายวิ่งไล่ยิงคนอื่นจนสาแก่ใจ ก็เดินกลับมายิงเจ้าของร้านที่นอนอยู่ซ้ำอีก 1 นัด ก่อนเดินหนีออกจากร้านไป จากนั้นกลับไปบ้าน จะเอาปืนกระบอกเดียวกัน ฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่ลูกกับเมียห้ามไว้ พร้อมเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว นายอัครพณธ์ จึงเข้ามอบตัวช่วงประมาณเที่ยงคืน

พลตำรวจโท ปิยะวัตน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เผยว่า ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้ามาในร้าน มาสั่งอาหารโดยถือสุรามาด้วยครึ่งแบน ระหว่างดื่มมีเพื่อนขับรถผ่านมา จึงออกไปทักทาย แต่พอเดินกลับมา พนักงานได้เก็บโต๊ะอาหารไปแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้สั่งจ่ายเงิน จึงเช็คบิลกลับบ้านพัก ต่อมามีเพื่อนชวนไปข้างนอก จึงได้ไปนั่งกินข้าวรอที่ร้านเดิม แต่เจ้าของร้านเข้ามาถาม ว่าทำไมต้องชักปืนด้วย ซึ่งตอนแรกบอกไปแล้วว่า ไม่ได้ชักปืน และให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดได้ เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบว่า มีการชักปืนออกมา ผู้ต้องหาอ้างว่า ยังยกมือไหว้ เพื่อขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด แต่เจ้าของร้านยังมาด่าทอ

ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ บอกว่า เห็นตนชักปืนออกมา จะเป็นพยานให้ จึงได้ด่าทอกันอีก และยังมี นายสุริยา ที่ถูกยิงบาดเจ็บอีกคน ได้พยายามเข้ามาหา และจะโทรหาตำรวจ ซึ่งผู้ต้อหามองว่า ไม่ผิดอะไร ทำไมต้องถูกด่าด้วย จึงโมโห และใช้ปืนที่พกติดตัวมาไล่ยิง

โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ญาติได้รับศพช่างสิทธิ และ น.ส.อรชร จากหาดใหญ่ มาประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดป่าบอนต่ำ อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีชาวบ้านเข้ามาให้กำลังใจญาติ ขณะเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมหน่วยงานภาครัฐก็เข้ามาให้กำลังใจด้วย โดยมีพวงหรีดของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และอีกหลายหน่วยงาน เข้ามาวางเรียงบริเวณหน้าหีบศพ สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรม จะเริ่มวันที่ 24 ธันวาคม และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 26 ธันวาคม

นางสำเริง อายุ 78 ปี แม่ของ น.ส.อรชร ซึ่งเป็นยายของเด็ก ๆ ยอมรับว่า ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นห่วงหลานทั้ง 2 คน หลังจากนี้คงต้องนำหลานกลับมาดูแลเอง โดยจะนำหลานคนเล็กมาเลี้ยงเองเลย ส่วนหลานคนโตคงต้องรอให้เรียนจบชั้น ม.3 ก่อน ซึ่งจะให้น้าสาวเป็นคนดูแล

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ นำตัว นายอัครพณธ์ ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสงขลา พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว ซึ่งนายอัครพนธ์ ได้ยกมือไหว้ พร้อมพูดเป็นครั้งแรกกับผู้สื่อข่าว ว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ทำไปเพราะบันดาลโทสะ ส่วนสาเหตุไม่ขอพูดถึง เพราะให้การในสำนวนไปหมดแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดแล้ว และยอมชดใช้กรรม

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา นายอัครพนธ์ เพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากเดิมแจ้งไปแล้ว 4 ข้อหา คือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา พกพาอาวุธปืน ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามฆ่าผู้อื่น

ส่วนอาการของ น.ส.ภาวนา เจ้าของร้าน ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลล่าสุดจากลูกชาย คือ นายฟอร์ด อายุ 24 ปี เผยว่า หลังการผ่าตัด รู้สึกตัวดี และอาการปลอดภัยแล้ว หมดได้ทำศัลยกรรมตกแต่งบาดแผล และได้ดูอาการแล้ว พบว่า กระสุนไม่โดนสมอง แต่วิถีกระสุนได้เจาะกะโหลกเบ้าตาขวาทะลุเบ้าตาซ้าย โดนเส้นประสาทตาทั้งสองข้าง หมอบอกว่า แม่อาจมองไม่เห็น โดยยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด



https://youtu.be/YcXA5fkIlyo

คุณอาจสนใจ

Related News