ตำรวจสนธิกำลัง ทลายรังนักเลง EP.1 เปิดปฏิบัติการค้น 5 จุด ลูกน้อง "โกทร"

(15 ธ.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจหลายหน่วยงาน ประกอบด้วยกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2, กองกำกับการสืบสวน, ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี, หน่วยปฏิบัติการพิเศษปราจีนบุรี และตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกันเปิดภารกิจทลายรังนักเลง EP.1 



ซึ่งภารกิจดังกล่าว สืบเนื่องจากเหตุสังหารนายชัยเมศร์ หรือ สจ.โต้ง คาบ้านนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี จนนำมาสู่การดำเนินคดีนายสุนทรพร้อมพวกรวม 7 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นและข้อหาอื่น ๆ



สำหรับภารกิจในวันนี้ ได้นำหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรีเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นบ้านพักจำนวน 5 จุดของบุคคล 4 ราย ที่อาจมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับขบวนการของโกทร อยู่ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ 3 จุด 2 คน คือผู้ใหญ่แอ๊ดและนายโจ้, อ.ประจันตคาม 1 จุด 1 คน คือนายเต็งหนึ่ง และ อ.บ้านสร้าง 1 จุด 1 คน คือนายพงศกรหรือกร เลขาส่วนตัวของโกทร แบ่งกำลังออกเป็น 5 ชุด โดยชุดแรก ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านของนายแอ๊ด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 14 นาย, ชุดที่ 2 ร้านทองของนายแอ๊ด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นาย, ชุดที่ 3 บ้านของนายโจ้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 15 นาย, ชุดที่ 4 บ้านของนายเต็งหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 9 นาย และชุดที่ 5 บ้านของนายพงศกรหรือกร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 12 นาย ซึ่ง 3 ชุดแรก ลงพื้นที่เป้าหมายใน อ.ศรีมหาโพธิ และ 2 ชุดหลัง ลงพื้นที่เป้าหมายใน อ.บ้านสร้าง และ อ.ประจันตคาม ตามลำดับ



ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้ติดตามร่วมทำข่าวกับทีมปฏิบัติการชุดแรกในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ โดยพื้นที่เข้าตรวจค้นนั้นพบว่า อยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ทำการของนายแอ๊ด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก ที่ทางตำรวจต้องการตัวมากที่สุด เนื่องจากในการสืบสวนพบว่า นายแอ๊ดได้สะสมอาวุธปืนเป็นจำนวนมากและเป็นลูกน้องคนสำคัญของโกทร อีกทั้งยังมีรายงานว่า ในวันเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง นายแอ๊ดได้เข้ามาที่บ้านของโกทรเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะออกจากบ้านไป แล้ว สจ.โต้ง ก็มาที่บ้านโกทรในภายหลังแล้วถูกยิงเสียชีวิต



ซึ่งสภาพพื้นที่เป้าหมายพบว่า มีบ้านอยู่ 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นที่ทำการของผู้ใหญ่บ้านหรือนายแอ๊ด อีกหลังเป็นที่พักของผู้ดูแลบ้าน บริเวณด้านหลังเป็นโรงงานรีไซเคิลขยะของเก่า มีเนื้อที่ขนาดประมาณ 3 ไร่เศษ ซึ่งทันทีที่เข้าตรวจค้น พบคนงาน 2 รายอยู่ภายในโรงงานและพบชายสูงอายุนามสมมุติลุงวัด พักอาศัยอยู่ในบ้านผู้ดูแล ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้ลุงวัดออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายค้น โดยลุงวัดมีท่าทียินยอมให้ทางตำรวจเข้าตรวจค้น แต่ได้ขึ้นเสียงใส่ตำรวจเล็กน้อย เนื่องจากต้องการจากบันทึกวีดีโอขณะเข้าตรวจค้น ก่อนที่ลุงวัดจะนำเข้าตรวจค้นทั้งบ้านพักของลุงวัดและบ้านที่เป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน



ผลจากการตรวจค้นพบอาวุธปืน 2 กระบอก ในบ้านของลุงวัดหรือผู้ดูแล เป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 22 นัด // และปืนแม็กกาซีน ขนาด .380 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 13 นัด โดยลุงวัดได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าของพร้อมแสดงทะเบียนปืนทั้ง 2 กระบอก ทางตำรวจได้ตรวจยึดเอาไว้เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนภายในบ้านซึ่งเป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้านไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและพบตัวผู้ใหญ่แอ๊ดแต่อย่างใด



ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามกับลุงวัดเกี่ยวกับตัวผู้ใหญ่แอ๊ด โดยลุงวัดระบุกับผู้สื่อข่าวว่า พบเจอผู้ใหญ่แอ๊ดครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งได้พูดคุยกันตามปกติและตัวผู้ใหญ่แอ๊ดไม่ได้มีท่าทีกระวนกระวายหรือเครียดแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ ส่วนตัวมีหน้าที่เฝ้าบ้านและดูแลพื้นที่ให้ผู้ใหญ่แอ๊ดมานานกว่า 2 ปีแล้ว มีความสัมพันธ์เป็นพี่เขยหรือพี่ภรรยาของผู้ใหญ่แอ๊ด ส่วนโกทรนั้น ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว รู้จักแต่ชื่อ ไม่เคยเจอตัวจริง และไม่เคยเห็นมาที่บ้านของผู้ใหญ่แอ๊ด



ด้านผู้ใหญ่แอ๊ดนั้นก็ไป ๆ มา ๆ ที่นี่ ไม่ได้พักเป็นประจำ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ทราบว่าผู้ใหญ่แอ๊ดพักที่ไหนนอกจากที่นี่ สำหรับปืน 2 กระบอกที่พบเจอนั้น ยอมรับว่าเป็นของตนเองซึ่งซื้อเอาไว้ก่อนเกษียณให้กับลูกสาว ผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า ทำไมต้องบันทึกวีดีโอคลิปขณะตำรวจทำการตรวจค้น ลุงวัดระบุว่า เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย ส่วนวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ตนจำไม่ได้ว่าในวันนั้นได้พบผู้ใหญ่แอ๊ดหรือไม่



สำหรับเป้าหมายการตรวจค้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่แอ๊ด มีอยู่ 2 จุด ในพื้นที่ ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งนอกจากที่ทำการผู้ใหญ่บ้านแล้ว ทางตำรวจได้ไปตรวจค้นอีกจุดหนึ่งคือร้านทองของผู้ใหญ่แอ๊ด ซึ่งจัดการเข้าตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและพบตัวผู้ใหญ่แอ๊ดแต่อย่างใด



ขณะที่เป้าหมายจุดสุดท้ายใน อ.ศรีมหาโพธิ คือบ้านของนายโจ้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นอีกบุคคลที่ทางตำรวจต้องการตัวมากที่สุด เนื่องจากพบพฤติการณ์คล้ายคลึงกับผู้ใหญ่แอ๊ด กล่าวคือ ได้เข้าไปในบ้านของโกทรแล้วกลับออกไป ก่อนที่ สจ.โต้ง จะเข้ามาแล้วถูกยิงเสียชีวิต โดยบ้านของนายโจ้เป็นโรงงานขยะรีไซเคิล ตั้งอยู่ริมถนนสาย 304 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ โดยผลจากการตรวจค้นก็ไม่พบตัวนายโจ้และสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด



จากการที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพูดคุยกับลูกจ้าง ระบุว่า นายโจ้อายุประมาณ 40 กว่า ๆ ตนจำไม่ได้ว่าพบเจอนายโจ้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แต่ปกตินายโจ้ก็จะไป ๆ มา ๆ ระหว่างกรุงเทพและที่นี่ เห็นแว๊บ ๆ ล่าสุดก็ตอนเช้า คาดว่าน่าจะมาค้างที่โรงงานก่อนกลับกรุงเทพ แต่ตนจำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่



ส่วนเมื่อเช้านี้ ก็ได้มีตำรวจเข้ามาขอตรวจค้น ตนก็ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจและก็ไม่ได้มีการตรวจยึดสิ่งของใด ๆ กลับไป สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างนายโจ้และโกทรนั้น ตนไม่ทราบว่า 2 คนนั้นไปรู้จักกันอย่างไร แต่ส่วนตัวก็รู้จักโกทรในฐานะบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วและไม่เคยเจอเป็นงานส่วนตัว



ด้านผู้ใหญ่แอ๊ดนั้น มีความสัมพันธ์เชิงธุรกิจ กล่าวคือ มักจะให้ลูกน้องเอาของมาลงที่โรงงานตลอด แต่ตนไม่เคยเห็นหน้าผู้ใหญ่แอ๊ดหรือเห็นมาที่โรงงานแต่อย่างใด สำหรับโรงงานรีไซเคิลดังกล่าวนั้น นายโจ้ได้ยกให้แม่ไปแล้ว ก่อนที่จะย้ายไปทำงานในกรุงเทพ ส่วนตัวนายโจ้จะไปรู้จักใครกับใครใน จ.ปราจีนบุรี นั้น ตนก็ไม่ทราบ



ทั้งนี้ ผลจากการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายบ้านนายเต็งหนึ่งใน อ.ประจันตคาม ไม่พบตัวนายเต็งหนึ่งและสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่ที่บ้านนายกรใน อ.บ้านสร้าง พบปืนลูกโม่ ขนาด .22 และกระสุนปืนจำนวน 6 นัด พร้อมกับลูกกระสุนปืนลูกซอก 5 นัด รวมถึงใบอนุญาตครอบครองปืนซึ่งไม่ตรงกับปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ตรวจยึดได้ จึงเก็บหลักฐานและส่งทางเจ้าหน้าที่สอบสวนแจ้งความดำเนินคดีในข้อหามีปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตกับนายกร ก่อนจะเชิญตัวนายกรมารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี โดยหลังจากนี้ทั้งตำรวจจะสรุปผลอย่างละเอียด ก่อนจะแถลงต่อสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.)

สรุปเบื้องต้นผลปฏิบัติการตรวจค้น 5 พื้นที่เป้าหมายบ้านของ 4 ลูกน้องเครือข่ายนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี และผู้ต้องหา ในคดีฆ่านายชัยเมศร์ หรือ สจ.โต้ง ตั้งแต่เวลา 6.00 น.ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ อ.บ้านสร้าง และ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี



โดยจุดแรก เป็นบ้านพักและที่ทำการของนายแอ๊ด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 พื้นที่ ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบอาวุธปืน 2 กระบอกในบ้านของลูกจ้าง (ผู้ดูแลพื้นที่) เป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 22 นัด และปืนแม็กกาซีน ขนาด .380 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 13 นัด โดยผู้ดูแลได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าของพร้อมแสดงทะเบียนปืนทั้ง 2 กระบอก ทางตำรวจได้ตรวจยึดเอาไว้ เพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนภายในบ้านซึ่งเป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและพบตัวผู้ใหญ่แอ๊ดแต่อย่างใด



จุดที่สอง เป็นร้านทองของนายแอ๊ด พื้นที่ ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จุดดังกล่าวไม่พบตัวนายแอ๊ด และสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด



จุดที่สาม เป็นบ้านและโรงงานรีไซเคิลของนายโจ้ พื้นที่ ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จุดดังกล่าวไม่พบตัวนายแอ๊ดและสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด



จุดที่สี่ เป็นบ้านของนายเต็งหนึ่ง พื้นที่ ต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี พบอาวุธปืนพกสั้นแบบแม็กกาซีน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุน 1 ซอง และเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 43 นัด ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีเอกสารใบทะเบียน แต่ทางตำรวจต้องดำเนินการตรวจยึด เพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป ส่วนนายเต็งหนึ่งนั้น ไม่พบเจอแต่อย่างใด



จุดที่ห้า เป็นบ้านของนายพงศกรหรือนายกร เลขาส่วนตัวของโกทร พื้นที่ ต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี พบอาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ .22 จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด และเครื่องกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด จึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป พร้อมกันนี้ได้เชิญนายกรมารับทราบข้อกล่าวหามีปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตที่กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี

สำหรับผู้ใหญ่แอ๊ดและนายโจ้นั้น จากการสืบสวนพบว่า ทั้งคู่ได้เข้าไปที่บ้านของโกทร แล้วกลับออกมา ก่อนที่ สจ.โต้ง จะเดินทางไปที่บ้านโกทรแล้วถูกยิงเสียชีวิต