‘ชาล็อต’ เปิดใจทั้งน้ำตา ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ข่มขู่โยงคดีใหญ่ สูญเงิน 4 ล้าน

‘ชาล็อต’  เปิดใจครั้งแรก เล่าทั้งน้ำตา ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินสูญ 4 ล้าน ขู่โยงคดีใหญ่ บังคับให้วิดีโอคอล 24 ชั่วโมง

วานนี้ (10 ธ.ค.) ณวัตน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และชาล็อต ออสติน นางงามในสังกัดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ เปิดใจแถลงข่าวกรณี ชาล็อตตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงิน 4 ล้านบาท

ระหว่างการแถลงคุณณวัฒน์ได้เปิดคลิปที่ชาล็อตแอบอัดไว้ เป็นช่วงเวลาที่ปลายสายอ้างเป็นตร.ไลน์คอลมาคุยกับชาล็อต จะเห็นว่าในชาล็อต คุยไปร้องไห้ไป บอกว่าเงินที่ให้ไปทั้งหมดในชีวิตแล้ว ซึ่งคนในคลิปพยามพูดว่า อย่ามองว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ ให้มองว่าเป็นพี่ มองข้ามตำแหน่งไปก่อน โดยพยายามใช้จิตวิทยา พยามกล่าวอ้างว่าจะต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สิน

ในคลิปชาล็อตบอกว่าปลายสายว่า นี่เป็นเงินก้อนสุดท้ายของตนเอง ไม่กล้าถ่ายเทมาเพราะกลัวจะไม่ได้รับกลับคืน ทางชายที่อ้างเป็น ตร. ก็บอกว่าเอาอย่างนี้ถ้าเกิดข้อผิดพลาดในคำสั่งของพี่ เดี๋ยวพี่จะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในส่วนนี้ทั้งหมดเอง และในไฟล์วิดีโอจะเป็นไฟล์หลักฐาน พี่จะเป็นคนเซ็นและให้ 4,000,000 โอนกลับเข้าบัญชีให้หมด แล้วจะเอาตำแหน่งหน้าที่การงาน ค้ำประกันให้แก่ตัวเรา

ด้านชาล็อต ออสติน เล่าเหตุการณ์ว่า มีเบอร์แปลกโทรมา เบอร์มิจฉาชีพที่โทรมาคือเบอร์ +698907081036 ซึ่งปกติเธอไม่รับเบอร์แปลกแต่วันนั้นตนได้ไปทำธุระส่วนตัวและทิ้งเบอร์ไว้ให้ทางร้านเพื่อขอใบกำกับภาษีไว้ด้วย จึงคิดว่าทางร้านโทรมา ปลายสายแจ้งชื่อ สันติ เป็นพนักงานดีเอสไอ ตามด้วยยศต่างๆ บอกว่า ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินของนายศรัทธา ที่เคยเป็นข่าวเมื่อเดือนสิงหาคม ตนจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการคุยกับเค้าต่อว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย เค้าแจ้งว่านายศรัทธาบอกว่าตนขายบัญชีให้เขา 5 หมื่นบาท และโอนเงินให้ตนเดือนละ 800,000 บาท ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าไม่มีเงินส่วนนี้เช็กได้เลย จึงคุยเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

จากนั้นให้กดโค้ชในโทรศัพท์เพื่อโอนสายไปอีกสายหนึ่ง จากนั้นมีชายอ้างเป็นตำรวจก็บอกว่าขอ LINE ไว้ได้ไหมขอวิดีโอคอล LINE เพราะต้องใช้ภาพและเสียงในชั้นศาลเพื่อทำการฟ้องนายศรัทธา ซึ่งหลังกดโค้ดเป็นการบล็อกการใช้โทรศัพท์ทำให้ไม่สามารถให้ใครโทรหาได้

โดยอ้างว่าจะมีการตาม GPS ตอนนั้นตนเองอยู่บนรถกำลังจะเดินทางมาที่ MGI ก็ไม่สามารถมาได้เพราะเขาบอกว่าห้ามบอกใคร และบอกเป็นความลับราชการยังตามคดีอยู่ ถ้าบอกกับคนอื่นคนที่บอกจะโดนไปด้วย เค้าบอกว่าตอนหนึ่งทุ่มจะทำการออกหมายจับถ้าไม่ได้ทำการยืนยันว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์เราไม่อยากให้ชื่อเสียงเสียหายจึงยอมคุยกับเค้าต่อ และเค้าบอกว่าถ้าไม่ยอมจะแจ้งจับ

ส่วนสาเหตุที่หลงเชื่อ ชาล็อตบอกว่า มันคือความกลัวที่เราอยู่คนเดียว และมีการโชว์หมายจับด้วยทำให้เราเกรงว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง เลยให้ความร่วมมือ ยอมรับว่าคุยไปร้องไห้ไป และคิดว่าจะได้เงินคืนหากเราโอนไป รู้ว่ามีมิจ แต่ไม่รู้ว่ามีมาในรูปแบบนี้

หลังเธอเอะใจ ก็พยายามโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อให้ระงับบัญชี และเดินทางไปแจ้งความที่ สน.

ด้านคุณณวัตน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เล่าเสริมว่า เหตุการณ์เกิดในรถประมาณ 5 โมงเย็น ช่วง 2 ทุ่ม เริ่มให้โอนยอดแรก จำนวน 2 ล้านบาท และยังคงให้ชาล็อตอยู่ในรถและให้ให้เปิดไลน์คอล เค้าบอกรอ 15 -30 นาที จะโอนคืนให้  ทางมิจฉาชีพรู้งาน มีการรอให้พ้นไปอีกวัน เพื่อที่จะทำการโอนใหม่ และพยายามบอกให้เปิดวิดีโอคอลมาราธอน จนตี3 จนน้องรอไม่ไหวก็หลับ

ส่วนยอดอีก 2 ล้านบาท โอนไประมาณเที่ยงคืนหลังจากวิดีโอคอล เพราะปลายสายอ้างว่าทางผู้การ จะพักการประชุมแล้ว ก็กลับมาไลน์คอลกับชาล็อต บอกว่าเราตรวจสอบยอดแล้วให้โอนยอดต่อ เพื่อให้เราตรวจสอบได้เลย จึงโอนเพิ่มไปอีก 2 ล้านบาท โดยแบ่ง 2 ยอด โอนยอดแรก เวลา 00.12 น. จำนวน 500,000 และ 00.15 น. จำนวน 1.5 ล้านบาท รวมทั้งหมดโอนไป 4 ล้านบาท ไปยังบัญชีที่โอนไปชื่อปาริฉัตร แซ่เอี้ยว

โดยมิจฉาชีพบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ถูกถอดยศแต่ยังอยู่ในสำนักงาน เพื่อให้คนโอเงินมาตรวจสอบ

คุณณวัตน์บอกว่า ชาล็อตเป็นแพนิก เลยมีความกลัวและเชื่อมิจฉาชีพง่ายขึ้น และชาล็อตยังต้องกินยารักษาอยู่ หลังจากเงินหายชาล็อตยังช็อกไม่รู้จะทำอะไรก่อน พยายามใจเย็นตั้งสติ พยามยามมูฟออน และทำงานต่อและอยู่กับเลขาของตัวเอง อยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนกับคนอื่น มิจฉาชีพทำงานทุกวัน การจะได้เงินคืนเท่ากับศูนย์

--------------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/IY4Z5_P7nzQ