แม่ 'ผิง ชญาดา' ยังติดใจ มองถ้าลูกไม่ไปนวดก็คงไม่ตาย 'หมออ้อย' ร่ำไห้ตกเป็นจำเลยสังคม - ร้านนวดเงียบยังกับป่าช้า

แม่ ผิง ชญาดา ยังติดใจสาเหตุการตาย มองถ้าลูกไม่ไปนวดก็คงไม่ตาย ด้าน หมออ้อย ร่ำไห้ตกเป็นจำเลยสังคม ขณะที่ร้านนวดอุดรสะเทือน เงียบยังกับป่าช้า

จากกรณี น.ส.ชญาดา หรือ ผิง นักร้องสาว ชาว จ.อุดรธานี เสียชีวิตหลังจากไปนวด โดยหมอนวดที่ให้บริการได้บิดคอขณะนวด ทำให้เกิดอาการปวดท้ายทอย ก่อนเกิดอาการชา แขนขาอ่อนแรง ใช้งานไม่ได้ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง และเสียชีวิตในที่สุด โดยแม่และครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และเชื่อว่าสาเหตุมาจากการนวด นั้น

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 รายการโหนกระแส เชิญแม่ และแฟนหนุ่ม ของน้องผิง มาออกรายการ ย้ำว่า จุดเริ่มต้นที่น้องผิงไปนวดเริ่มมาจากปวดคอบ่าไหล่ โดยไปนวดที่หนองประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี

- ครั้งแรกไปนวด หลังจากนวดเสร็จ ผิงบอกว่ามีอาการชาใต้ราวนมข้างขวา โดยครั้งแรกมีการนวดบิดคอ

- ครั้งที่สอง หลังนวดจะมีอาการปวดท้ายทอยมากขึ้น และไม่สามารถนอนหงาย และนอนคว่ำได้ นอนตะแคงได้อย่างเดียว และมีอาการชา ครั้งนี้มีบิดคอด้วยเช่นกัน

- ครั้งที่สาม มีอาการชาตัว มือข้างขวาคล้ายไฟฟ้าช็อต จึงไปนวดให้มาแก้อาการตรงนี้ให้ หมอก็เลยนวดจั๊กกะแร้

แล้วหลังจากนั้น คุณผิงก็มีอาการอ่อนแรง ตั้งแต่แขน ลามมาตามตัว ตามท้อง ลงขา ครึ่งซีกขวา จากนั้นลามมาด้านซ้าย ซ้ายแขนอ่อนแรง ก่อนลงท้อง และลงขา กลายเป็นใช้งานไม่ได้ทั้งแขนและขา

โดยสองครั้งแรกมีการบิดคอ แต่ครั้งที่สามไม่ได้มีการบิดคอ แต่มีรอยช้ำตามตัว แม่เลยถามว่ามีหักคอไหม ลูกบอกว่ามี แม่เลยรู้เลยว่าไม่ใช่กล้ามเนื้อแน่นอน เลยรีบบอกให้ลูกไปโรงพยาบาลศูนย์อุดร และบอกหมอว่าไปนวดมา มีการบิดคอ ซึ่งพอไปพบแพทย์แล้ว หมอเห็นมือน้องสั่น ก็ถามว่าติดยาไหม แล้วก็ให้ยาแก้ปวด กับยาคลายกล้ามเนื้อมา โดยแม่ยืนยันว่า ลูกไปพบแพทย์ หลังจากนวดสามครั้งแล้ว    

บางช่วงในรายการ คุณแม่น้องผิง บอกว่า ส่วนตัวติดใจที่เมื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลศูนย์อุดร กลับไม่มีการ x ray เลย ส่วนเรื่องที่ถามลูกสาวว่าติดยาเสพติดหรือไม่ แม่บอกว่าตัวเธอไม่ติดใจ แต่ลูกสาวเคยบอกว่าติดใจ ว่าทำไมหมอถามแบบนี้

ขณะที่อีกช่วง คุณแม่ถาม นพ.ธีระ ตั้งวิริยะไพบูลย์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ ด้านเวชกรรม สาขาประสาทศัลยศาสตร์ หัวหน้ากลุ่มงานประสาทศัลยศาสตร์ ที่มาร่วมรายการ ว่า กระดูกคอเคลื่อนแบบนี้ เกิดจากหมอนวดบิดคอได้หรือไม่ คุณหมอบอกว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ในภาพเอกซเรย์ที่น้องผิงโพสต์ไม่สามารถบอกได้ว่า มีการเคลื่อนที่จริง บอกได้แค่ว่ามีการหลุดเคลื่อน แม่เลยถามว่า ถ้าเราอยู่เฉย ๆ แล้วก็กระดูกคอสามารถเคลื่อนเองได้หรือไม่ แพทย์อธิบายว่าการเลื่อนของกระดูก โดยที่ไม่ได้มีการหลุดเคลื่อน มันเกิดจากโรคอื่นได้ ถ้าเอกซเรย์อย่างเดียวแยกไม่ได้ต้องตรวจเพิ่มเติม

ส่วนเรื่องการติดเชื้อในกระแสเลือด และการพบเชื้อรา นพ.ธีระ ระบุว่า ข้อมูลที่มี ณ ตอนนี้ ไม่ใช่ข้อมูลทางการ จึงยังไม่รู้ว่า น้องผิงไขสันหลังอักเสบแบบติดเชื้อจากเชื้อราหรือไม่ ซึ่งอาการไขสันหลังอักเสบแบบติดเชื้อจากเชื้อรา เกิดขึ้นทางกระแสเลือด เช่นที่แพทย์ถามเรื่องการเสพยาเสพติด หากมีก็อาจติดเชื้อจากตรงนั้นได้ หรือ ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงก็อาจติดเชื้อทางกระแสเลือดได้ และเข้าไปในไขสันหลังต่อได้ ซึ่งสิ่งที่ยังไม่รู้คือน้องผิงติดเชื้อราหลังการนอนพยาบาลระยะหนึ่ง หรือติดเชื้อราตั้งแต่แรก

ส่วนที่แพทย์ที่อุดรธานี ลงความเห็นว่า น้องติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วเสียชีวิต มีความเป็นไปได้ว่า นอนโรงพยาบาล โคม่าเป็นเวลานาน และระหว่างการรักษาต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ มีโอกาสติดเชื้อในโรงพยาบาลจากตรงนี้ก็ได้ เพราะขณะนั้นร่างกายไม่แข็งแรง ส่วนเรื่องการใช้ยาแรงที่กดภูมิคุ้มกัน คุณแม่บอกว่า หมอที่โรงพยาบาลเคยบอกว่า อาจทำให้น้องมีโรคอื่นแทรกซ้อนได้

นพ.ธีระ ยังระบุว่า จากที่ฟังคิดว่าน่าจะเป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ ในการรักษาโรคไขสันหลังอักเสบ เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา

ทั้งนี้ แม่น้องผิง ยังกล่าวทิ้งท้ายสั้น ๆ ด้วยว่า “วันนี้ก็คิดว่า ถ้าลูกไม่ไปนวดก็คงไม่ตาย ลูกเราก็ดี ๆ อยู่ พอไปนวดมาเราต้องมารักษาลูกเรา แต่ถ้าน้องมีอาการป่วยมาตั้งแต่แรก เราจะไม่ติดใจเรื่องนี้เลยค่ะ”

ส่วนปมการนวด นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้มีกฎหมาย 2 ตัวที่เกี่ยวข้องโดยตรง คือ พ.ร.บ.แพทย์แผนไทย และ พ.ร.บ.บริการเพื่อสุขภาพ ซึ่งการนวดตามร้านทั่วไป ดร.ธนกฤต บอกว่า เป็นการนวดผ่อนคลาย เป็นการนวดระดับกล้ามเนื้อ ต้องไม่มีเรื่องการบิดคอ ดังนั้นการไปบิดคอ ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตเท่ากับการรักษาเถื่อนหรือไม่ การดำเนินคดีจะต้องไปในแนวทางนี้

ขณะที่ นพ.กุลธนิต วนรัตน์ ผอ.สถาบันแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่า การนวดผ่อนคลายจะต้องมีหลักสูตรการเรียน 150 ชม. หรือ 80 ชม. ซึ่งไม่สามารถนวดเพื่อการรักษาได้อยู่แล้ว บิดคอไม่ได้ ส่วนการนวดเพื่อการรักษา จะต้องผ่านหลักสูตรแพทย์แผนไทย 330 ชม. / 800 ชม. / 1300 ชม. หรือ เป็นแพทย์เฉพาะทางแพทย์แผนไทย ซึ่งตามปกติก็จะไม่บิดคอรุนแรง จะเน้นการยืดคอแนวตรงมากกว่า เพราะแพทย์จะรู้ว่าบริเวณนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะมีทั้งเส้นเลือด เส้นประสาท

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อกับ หมออ้อย ถือเป็นหมอนวดเป้านิ่งที่เหลือคนเดียว และคาดว่าจะเป็นคนนวดบิดคอให้น้องผิง โดย หมออ้อย เผยกับนักข่าว รู้ข่าวน้องมานวดที่ร้านแล้วเสียชีวิตแล้วตกใจ ตนเองทำงานนวดที่ร้านนางนิชาภา มาแล้ว 2 ปี ส่วนตนเองจะนวดน้องผิง เมื่อ 2 เดือนที่แล้วหรือไม่นั้น เหตุการณ์ผ่านมาสองเดือนจำไม่ได้ และไม่มั่นใจ และไม่คุ้นหน้าน้องผิงว่าเคยนวดให้ไหม เพราะลูกค้าแต่ละวันเยอะมาก อีกอย่างเวลาผ่านมานานแล้ว

ส่วนการนวดบิดคอ ก่อนจะนวดจะถามลูกค้าทุกเคส ตนเองยอมรับมีท่านวดบิดคอ แต่ไม่ทำทุกราย และเป็นคนนวดมือไม่หนัก กลาง ๆ ส่วนที่มีข่าวว่าว่า ตนเองเป็นคนนวดให้น้องผิงจนเสียชีวิต รู้ข่าวก็ตกใจ ตนเองมีใบประกาศนวดถูกต้อง ส่วนสาเหตุที่มาอยู่กรุงเทพฯ เพราะมาอยู่กับหลาน และแม่ป่วยมะเร็งจึงมาดูแล ไม่ได้ลาออกเพราะนวดบิดคอจนน้องเสียชีวิต

พอมีข่าวว่าตนเองเป็นคนนวดทำให้น้องเสียชีวิต ฟังข่าวแล้วก็ตกใจ ข่าวออกไปก็แรง ตอนนี้คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไร ตนอยากขอความเป็นธรรมด้วย ตนก็เป็นหมอนวดมาหลายปี มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ว่านวดทำให้คนตาย ก็นอนไม่หลับเลย ตอนนี้ตกเป็นจำเลยของสังคมแล้ว อยากให้ฟังผลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตนเสียใจมากหากนวดแล้วทำให้คนตาย โดยเร็ว ๆ นี้จะเดินทางมาที่อุดร เพื่อพิสูจน์ความจริง เราไม่รู้ว่าเรานวดแล้วทำให้คนตาย พอมาเกิดเหตุแบบนี้เราก็ตกใจ ตอนนี้ไม่บอกพ่อแม่ให้รับรู้ หมออ้อยพูดไปก็ร่ำไห้ไป  

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริเวณโซนร้านนวดริมหนองประจักษ์อีกครั้ง ปรากฏว่า บรรยากาศร้านนวดเงียบเหงา ไม่ค่อยมีลูกค้ามาใช้บริการเหมือนแต่ก่อน คาดว่าลูกค้าเห็นข่าวหมอนวดบิดคอทำให้นักร้องสาวรถแห่เสียชีวิต จึงพากันหวาดกลัว ขณะเดียวกัน ขณะที่ นางนิชาภา หรือ พี่น้อง เจ้าของร้านนวด ที่น้องผิงมานวดแล้วทำให้เสียชีวิต ร่ำไห้บอกขอความเป็นธรรมด้วย เพราะตอนนี้ยังไม่ชี้ชัดว่าหมอนวดทำให้น้องผิงตาย ต้องปิดร้านชั่วคราว หมอนวดที่ร้านไม่กล้ามาทำงานเพราะกลัวทำให้คนตาย

นางนิชาภา บอกว่า ตอนนี้เครียดมาก คิดอะไรไม่ออก จนวันนี้ต้องปิดร้านชั่วคราว เพราะมีข่าวว่าร้านเรามีหมอนวดทำให้คนตาย ส่วนหมอนวดในร้านก็ใจเสียไม่กล้ามานวด ยอมรับเราเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้เราไม่คิดว่าหมอนวดที่ร้านนวดแล้วทำให้คนตาย ทุกคนใจเสีย

บอกตรง ๆ ตนเองก็ตกใจ หมอนวดก็ใจเสีย คนทำงานพอเป็นข่าวก็กลัวความผิด วันนี้ไม่มีใครมาทำงานเลย อยากให้ทุกคนเห็นใจหมอนวดด้วย ส่วนกรณีที่ข่าวบอกว่า เหลือหมออ้อยคนเดียวที่คาดว่าจะเป็นคนนวดน้องผิง นางนิชาภา บอกว่า ก็ยืนยันไม่ได้ว่าพี่อ้อยจะเป็นคนนวดน้องหรือเปล่า เพราะนานแล้วจนจำไม่ได้ ตอนนี้พี่อ้อยไปอยู่กรุงเทพฯกับหลาน และไปดูแลแม่ที่ป่วยมะเร็ง ไม่ใช่เหตุเพราะกลัวความผิดแล้วลาออกจากหมอนวดช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนเองคุยกับพี่อ้อยเบื้องต้น เขาก็บอกว่า ไม่รู้จริง ๆ ว่าได้นวดกับน้องผิงหรือเปล่า เพราะนานแล้ว

หากหมอนวด นวดบิดคอแล้วทำให้น้องเสียชีวิต เรายอมรับความผิด แต่หากเราไม่ผิดผลออกมาเราไม่ผิด ขอความเป็นธรรมให้เราบ้าง พอเป็นข่าวเราก็หวาดกลัว เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเรานวดแล้วจะทำให้น้องเสียชีวิต เจ้าของร้านนวดพูดไปน้ำตาก็คลอไป

จากนั้นเดินทางไปสำรวจบริเวณโซนร้านนวดแผนไทย ที่มีมากกว่า 15 ร้าน ริมหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ปรากฏว่า บรรยากาศร้านนวดเงียบยังกับป่าช้าร้าง โดยที่ร้านนวดไม่ค่อยมีลูกค้ามาใช้บริการ มีเพียงหมอนวดทั้งชายและหญิง นั่งรอลูกค้าอยู่หน้าร้าน

ลุงเขียว อายุ 50 ปี เจ้าของร้านนวดร้านหนึ่ง บอกว่า หลังมีข่าวนักร้องสาวมานวดแล้วเสียชีวิต ยอมรับตกใจมาก ตอนนี้ร้านนวดแทบทุกร้านได้รับผลกระทบ ไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ ซึ่งปกติทุกร้านจะมีลูกค้ามาเต็มตลอดทั้งวัน ยอมรับหลังมีข่าวส่งผลกระทบอย่างมาก ไม่ค่อยมีลูกค้า เพราะคนเขากลัว แต่ยืนยันหมดนวดแทบทุกร้านมีใบประกาศและอบรมทุกปี

พอข่าวออกไปว่ามีคนมานวดแล้วตาย ลูกค้าก็กลัว บางคนก็โทรมาสอบถาม พวกเราหมอนวดก็อธิบายให้ลูกค้าฟัง วันนี้เงียบยังกับป่าช้า สำหรับตนก็เคยนวดบิดคอให้ลูกค้า แต่ก็ยืนยันเราเรียนมาอย่างชำนาญ หากลูกค้ากลัวก็ไม่ดัด ความรู้สึกส่วนตัวนวดบิดคอแล้วเสียชีวิตก็อาจจะเป็นไปได้ แต่มีน้อย 1 ใน 100 เพราะทำหมอนวดมาเกือบ 30 ปี ไม่เคยเจอลูกค้าเสียชีวิตจากการนวด ตอนนี้เรื่องนี้ก็ไม่กระจ่าง แต่มั่นใจนวดบิดคอคงไม่ตายได้ง่าย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ujlNaw33leg