สังคม
‘แพทย์กระดูกและข้อ’ ยัน ‘นวดบิดคอ’ ไม่ทำให้ไขสันหลังบอบช้ำ ไม่เป็นเหตุให้ ‘ผิง ชญาดา’ เสียชีวิต
โดย petchpawee_k
10 ธ.ค. 2567
242 views
“หมอออร์โธปิดิกส์ รพ.กรุงเทพฯ” วิเคราะห์แผ่นเอ็กซเรย์ “ผิง ชญาดา” กับเคสทั่วไป สรุปการนวด-การบิดคอ ไม่ทำให้ไขสันหลังบอบช้ำ-ไม่เป็นสาเหตุการเสียชีวิต
กรณี น.ส.ชญาดา หรือน้องผิง นักร้องสาว อายุ 20 ปี ชาว จ.อุดรธานี เสียชีวิตหลังจากไปนวด โดยหมอนวดที่ให้บริการได้บิดคอขณะนวด ทำให้เกิดอาการปวดท้ายทอย ก่อนเกิดอาการชา แขนขวาอ่อนแรง ใช้งานไม่ได้ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงและเสียชีวิตในที่สุด โดยคุณแม่และครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และเชื่อว่าสาเหตุมาจากการนวดนั้น ประเด็นนี้มีแวดวงทางการแพทย์หลากหลายคนแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้
ทีมข่าวได้คุยกับนาวาอากาศเอก(พิเศษ) นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ รพ.กรุงเทพ ให้ข้อมูลด้านกายวิภาคศาสตร์ ว่า กระดูกสันหลังส่วนคอต่อลงมาจากกระโหลกศรีษะ มี 7 ชิ้นหรือปล้อง ทรวงอกมี 12 ปล้อง และบั้นเอวมี 5 ปล้อง ก่อนยกตัวอย่างภาพเอ็กซเรย์กระดูกคอที่ 1 ซึ่งปกติให้ดูว่าจะมีลักษณะเรียงเป็นแนวเป็นระเบียบเรียบร้อย
ต่อมามีการยกตัวอย่างภาพเอ็กซเรย์กระดูกคอที่ 2 ว่าเป็นกระดูกสันหลังที่กว้าง ซึ่งหากเทียบกับภาพที่ 1 จะพบว่าภาพที่ 2 กว้างกว่า และหากนึกสภาพว่ากระดูกคอเคลื่อน หรือถูกกด ภาพที่ 1 กดหรือโดนอะไรเล็กน้อยก็เคลื่อนแล้ว แต่ภาพที่ 2 อาจไม่ได้รับผลกระทบเพราะมีพื้นที่ให้ไขสันหลังกว้างกว่า สรุปได้ว่าหากมีการเคลื่อนของกระดูกสันหลังส่วนคอ เพียงเล็กน้อย หรือสภาวะอื่นใดที่ทำให้ช่องไขสันหลังแคบลง จะมีผลให้เกิดการกดทับไขสันหลัง ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ อาจมีการปวดร้าวหรือทำให้มีความรู้สึกชา ลงมาตามแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ มากน้อยแตกต่างกันออกไป จนประทั่งถึงอัมพาตของแขนและขาเลยทีเดียว โดยทั้งหมดนี้คือพื้นฐานทั่วๆไป
ต่อมา นพ.ไพศาล ได้วิเคราะห์ภาพเอ็กซเรย์กระดูกคอของน้องผิง ชญาดา โดยได้เริ่มจากการลากเส้นดู จะพบว่าเมื่อลากเส้นแล้วหากเทียบกับเคสคนไขสันหลังกว้าง พบว่ากว้างกว่าของน้องผิงเยอะเลย นั่นหมายความว่า ช่องที่อยู่ของไขสันหลังของน้องผิงค่อนข้างแคบ จึงทำให้นึกว่าหากมีการกดไขสันหลังแล้วเกิดอัมพาตได้หรือไม่ในเคสนี้
ทั้งนี้ จากการดูแผ่นเอ็กซเรย์ แล้ว พบว่า มันน่าจะมีความแคบให้ช่องไขสันหลังอยู่ อีกทั้งเคสนี้คอนเฟิร์มโดยรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน แล้วว่า MRI ไขสันหลังไม่ได้เป็นอะไร จึงสรุปได้ว่า มันไม่มีการกด
ส่วนกระดูกปล้องที่ 4-5 มีการพูดถึงว่าอาจมีการเลื่อนหรือไม่นั้น สุดท้ายผล MRI ก็ออกมาแล้วว่าปกติ อีกทั้งยังมีการเจาะน้ำไขสันหลังไปตรวจ ก็ทราบได้ว่า “ไขสันหลังอักเสบ” ซี่งเมื่อทราบแล้วว่าเป็นโรคนี้ ก็สามารถสะท้อนอาการตามไทม์ไลน์ที่ทาง รัฐมนตรีสมศักดิ์พูดถึงได้ ทั้งกล้ามเนื้ออ่อนแรง และการติดเชื้อในกระแสเลือด
เมื่อถามถึงประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจาก “นวดบิดคอ” นพ.ไพศาล ระบุว่า ต้องบอกตามตรงว่าการนวด ถึงแม้ว่าจะทำให้เกิดการกดทับ แต่ไม่ได้ทำให้เสียชีวิต แต่หากมีความรุนแรงจากการคอถูกบิด แล้วทำให้เส้นประสาทไขสันหลังไม่ทำงานมีบ้าง แต่ด้วยวิธีการแบบนั้นและทำให้เสียชีวิตทันทียืนยันอีกครั้งว่าไม่มีอย่างแน่นอน
แต่หากถามว่าโอกาสเกิดมีหรือไม่ จากการอ่านวิจัยของต่างประเทศ พบว่า มีกรณีที่ไปบิดคอแล้วทำให้หลอดเลือดไปสมองแล้วเกิดมีปัญหาและทำให้เสียชีวิตเกิดขึ้นได้ แต่ในประเทศไทยยังไม่เคยมีกรณีแบบนี้ แต่หากมีคงน้อยมากแต่มักจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุรุนแรงเป็นส่วนใหญ่
ขณะเดียวกัน แพทย์ปกติทั่วไปไม่ได้แนะนำอยู่แล้ว เรื่องการบิดคอแรงๆ ไม่ได้แนะนำให้ทำเพราะว่ามีหลอดเลือด และเส้นประสาทอะไรต่างๆที่อ่อนไหว
นพ.ไพศาล ย้ำว่า เคสนี้สรุปได้ว่า การนวดหรือการบิดคอ ไม่ได้ไปทำให้ไขสันหลังมีการบอบช้ำ เพราะหากบอบช้ำผล MRI คงแสดงผลแล้วว่าใครสันหลังมีการฟกช้ำ หรือแสดงให้เห็นว่า ผ่านการถูกกดทับมาซึ่งรายนี้ไม่มีการกดทับจึงอาจสรุปได้ว่าไม่ได้เกิดจากการไปนวดบิดคอ แต่แน่ชัดแล้วว่า การที่ผู้เสียชีวิตไปนวดบิดคอ แล้วระบมไป2-3 วัน อาจเป็นอุทาหรณ์แล้วว่า การทำอะไรที่มันรุนแรงมันอาจไม่เป็นอันตรายกับไขสันหลังหรือเส้นประสาท แต่กล้ามเนื้อรอบๆคออาจมีการอักเสบก็เป็นได้
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ZPPkNe_fG90